ฝากเผาลูกเทพ-ตลกชื่อดังโร่ขออุปการะกุมารทอง | คมชัดลึก

             เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ที่วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมว่า มีแม่ค้าผลไม้ได้มาติดต่อกับทางลูกศิษย์วัดต้องการนำตุ๊กตาลูกเทพมาให้สัปเหร่อของวัดทำพิธีเผา พร้อมถวายปัจจัยเป็นเงินสดไว้ให้ จำนวนหนึ่งหมื่นบาทเพื่อเป็นธุระดำเนินการ โดยบอกว่า ไม่กล้าเลี้ยง เพราะตั้งแต่ได้มาก็ถูกลูกหลานคนในครอบครัวตั้งแง่รังเกียจหาว่าบ้า เมื่อถูกกดดันหนักเลยเอามาให้สัปเหร่อของวัดทำพิธีเผาให้เพราะไม่ต้องการเลี้ยงหรือเก็บไว้บูชาแล้ว ซึ่งเมื่อหลวงพี่น้ำฝนทราบเรื่อง จึงได้ขอปฏิเสธไมให้ทำการเผาตุ๊กตาลูกเทพ โดยนำมาตั้งไว้ภายในบริเวณเนอร์สเซอรี่กุมารทองแทน พร้อมขอนำเงินที่โยมถวายมา 1 หมื่นบาท ไปสมทบในการสร้างวิหารหลวงพ่อพูล

             พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า อาตมาทราบเจตนารมย์ของเจ้าของตุ๊กตาเทพและเข้าใจในความรู้สึกของโยม แต่การกระทำพิธีฌาปนกิจ หรือเผาศพซากชิ้นส่วนมนุษย์ ต้องกระทำตามกฏ ระเบียบราชการ แต่ตุ๊กตาเทพที่นำมาให้เผานั้น อาตมาไม่อนุญาตเด็ดขาด เพราะ 1 ไม่ใช่ศพมนุษย์ ไม่ใช่ซากชิ้นส่วนมนุษย์ ที่ต้องทำการเผาตามประเพณีและตามกฏหมาย 2. อาตมากระทำการอันเป็นการทำร้ายจิตใจญาติโยมที่ศรัทธาในสิ่งที่ญาติโยมศรัทธาไม่ได้ และ3.อาตมาต้องให้ความเคารพความเชื่อ ความศรัทธา และวัตถุประสงค์ของผู้จุติตุ๊กตาเทพ และผู้รับตุ๊กตาเทพมาครอบครอง

             "อาตมาอยากฝากบอกถึงญาติโยมทั้งหลายว่า เมื่อท่านศรัทธาในสิ่งใดแล้วแต่ต้องยึดมั่นในความดี ยึดมั่นในความกตัญญู รู้บุญคุณ และขยันหมั่นเพียรด้วย จึงสำเร็จ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือช่วยในด้านจิตใจ เป็นขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพ ทุกสิ่งต้อง คิด วิเคราะห์ และ แยกแยะ ในทุกเรื่อง และหากญาติโยมท่านใดไม่อยากได้ตุ๊กตาเทพ หรือไม่อยากเลี้ยงตุ๊กตาเทพ หรือกุมารทองจากสำนักไหนก็ตาม นำมาฝากอาตมาเลี้ยงดูไว้ที่เนิร์สเซอรี่กุมารสมบัติได้ทุกเวลา และเมื่ออยากจะนำกลับเมื่อไรก็มานำกลับไป

             ขณะเดียวกันนายสมพงษ์ ไกรธีรางกูร หรือ โอเลี้ยง เชิญยิ้ม (คนหัวหมอ)  ได้เดินทางมากราบนมัสการหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยบอกว่า ทราบข่าวว่า มีคนนำตุ๊กตาลูกเทพมาทิ้งไว้ที่วัดไผ่ล้อมจึงได้เดินทางมา เพื่อจะขออุปการะไว้แต่เมื่อได้สนทนาธรรมกะบหลวงพี่น้ำฝนครู่ใหญ่จึงทำให้ทราบว่า ตุ๊กตาลูกเทพไม่มีอยู่ในตำราโบร่ำโบราณและไม่รู้ที่ไปที่มาชัดเจน จึงขอเปลี่ยนเป็นบูชากุมารทองสมบัติของวัดไผ่ล้อม 1 องค์ เพื่อนำไปเลี้ยงดูให้ช่วยในการเรื่องการทำมาหากิน

             นายสมพงษ์ บอกว่า ได้ทราบจากข่าวแล้วเกิดสงสารว่าตุ๊กตาเขาไปทำอะไรผิด สีสวยงดงาม เมื่อไม่ต้องการก็จะเอามาโยนทิ้งขว้าง เอามาเผาบ้าง ถึงแม้ว่าบางคนจะมองว่าเป็นเพียงตุ๊กตาพลาสติกธรรมดา แต่ผมเป็นนักแสดงเป็นตลก น่าจะได้ประโยชน์จากการนำตุ๊กตาเทพไปใช้บ้าง แต่เมื่อเห็นว่าที่วัดไผ่ล้อมท่านเจ้าอาวาสมีความเมตตา ไม่ได้มีการเผาตุ๊กตาตามที่เจ้าของเดิมประสงค์ และยังนำไปไว้ที่เดียวกับเนอร์สเซอรี่กุมารทองสมบัติ จึงเปลี่ยนใจไม่ขอรับไปอุปการะ และเมื่อได้สนทนากับหลวงพี่ฯจึงทำให้รู้ว่าตุ๊กตาเทพเป็นเพียงความศรัทราความเชื่อ แต่ไม่มีที่มาของตำราดั้งเดิม ตนจึงขอรับอุปการะกุมารทองสมบัติแทน ซึ่งตนก็ได้รับความกรุณาเมตตาจาก หลวงพี่น้ำฝน มอบกุมารสมบัติให้แทนตุ๊กตาเทพ ให้ไปช่วยปลดหนี้ และหางานแสดง งานตลก ในส่วนตัวเชื่อ มั่นว่ากุมารทองนั้นมีจริงตามตำนานโบราณ และเมื่อหลวงพี่น้ำฝนให้กุมารสมบัติถือสังข์ มาแทนน่าจะเป็นมงคลชีวิตมากกว่านำตุ๊กตาเทพไปบูชา

             ขณะเดียวกันชาวบ้านที่ยังเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพทราบข่าวว่า มีผู้นําตุ๊กตาลูกเทพมาทิ้งที่วัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้เดินทางไปดูเพื่อจะขอนําไปเลี้ยงต่อแต่ทางวัดไม่อนุญาต