ข่าว

จับแล้ว'เดนคุก'ยิงถล่มปวช.ดับ

จับแล้ว'เดนคุก'ยิงถล่มปวช.ดับ

09 ม.ค. 2559

กองปราบฯ รวบหนุ่มเดนคุกมือยิงถล่มนักศึกษา ปวช. เสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 4 คน อ้างขับรถช้า-ขวางทาง แฉประวัติสุดแสบ-ก่อคดีโชกโชน

 
                      9 ม.ค. 59  ที่กองปราบปราม  พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สยาม บุญสม , พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผบก.ป. , พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.4 บก.ป. และ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายณัฐวุฒิ หรือ แพน มูลสิริ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/7 หมู่ 4 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 299/2558 ลงวันที่ 15 กันยายน 2558 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
 
                      พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา พร้อมกับนายสันติ สุทธิการ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก ยิงถล่มใส่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ขณะจอดอยู่ริมถนนพัฒนาการคูขวาง ฝั่งตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีกลุ่มนักศึกษา ปวช. โรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยสารมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวจำนวน 8 คน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายจักรณรินทร์ หรือ เบิร์ด เพชรนุ้ย อายุ 20 ปี จากการถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ตาขวาจนทะลุคาง และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย โดยมีสาเหตุมาจากผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่กลุ่มของผู้ตายขับรถช้าขวางทางบนถนนจนมีการตะโกนด่าทอ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะวกรถกลับมาลงมือก่อเหตุดังกล่าว 
 
                      “ต่อมาญาติของผู้ตายและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้เข้าร้องเรียนต่อ บก.ป. ให้ช่วยติดตามจับกุมตัว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.4 และ กก.5 บก.ป. เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยด่วน เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่แกะรอยหาเบาะแส จนทราบว่านายณัฐวุฒิหลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จึงสามารถติดตามจับกุมได้ในที่สุด”
 
                      ด้าน พ.ต.อ.พันธนะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายณัฐวุฒิ นั้นพบว่าเคยก่อคดีอุกฉกรรจ์มาอย่างโชกโชน โดยเมื่อปี พ.ศ. 2545 เคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” แต่เนื่องจากขณะนั้นผู้ต้องหารายนี้ยังเป็นเยาวชนจึงถูกส่งไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานวัยหนุ่ม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในระหว่างที่ต้องโทษถูกควบคุมตัวอยู่นั้นได้ทำตัวเป็นหัวโจกปลุกระดมนักโทษด้วยกันรวมตัวก่อความไม่สงบในทัณฑสถานดังกล่าวเมื่อปี พ.ศ. 2549 
 
                      “หลังจากพ้นโทษ ผู้ต้องหารายนี้กลับยังไม่มีการปรับปรุงพฤติกรรม ยังชอบใช้ความรุนแรงจนถูกจับอีกครั้งในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นและจำหน่ายยาเสพติดในปี พ.ศ. 2552 กระทั่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 เพียงแค่เดือนเดียวก็กลับมาก่อเหตุซ้ำลักษณะดังกล่าวในคดีนี้”
 
                      จากการสอบสวน นายณัฐวุฒิยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลติดตามจับกุมตัวนายสันติที่อยู่ระหว่างการหลบหนีต่อไป