ข่าว

พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า

พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า

26 ธ.ค. 2558

ปิดด่านแม่สาย!พม่า2พันประท้วง ร้องปล่อยตัว2นักโทษคดีเกาะเต่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำอำเภอเกาะสมุยย้าย2นักโทษไปขังเรือนจำนครศรีธรรมราช

            เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 26 ธ.ค.ที่สนามกีฬาฉานโยมะ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ห่างจากชายแดนไทประมาณ 2 กิโลเมตร ประชาชนชาวเมียนมาร์เกือบ 2,000 คน ได้มารวมตัวกัน โดยมีสมพอน ไทใหญ่ เป็นผู้ประสานงาน ภายใต้ชื่อ คณะกรรมการดูแลรักษาและเจรจาต่อรองเพื่อประชาชนชาวเมียนมา เพื่อรวมตัวกันแสดงพลัง หลังจากที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พิพากษาให้ประหารชีวิตนายซอ ลิน หรือโซเรน และนายเว พิว หรือวิน จำเลยในคดีเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฆ่านายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฆ่า น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ชาวอังกฤษเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2557 ที่โขดหินริมชายหาดด้านปลายแหลม ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยการรวมตัวกันในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายซอ ลิน และนายเวพิว ซึ่งชาวเมียนมาร์คิดว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้บริสุทธิ์

พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า

            กลุ่มมวลชนได้เคลื่อนขบวนออกจากสนามไปตามถนนอาร์สามบี มุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมาร์ เพื่อแสดงพลังเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวชาวเมียนมาร์ทั้ง 2 คน โดยมีการนำป้ายขอให้มีการปล่อยตัว และให้มีการพิจารณาคดีใหม่อย่างเป็นธรรมเพราะเชื่อว่าทั้งนายซอ ลิน และนายเว พิว ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด ซึ่งการรวมตัวกันครั้งนี้ไม่มีการใช้ถ้อยคำ หรือมีพฤติกรรมที่รุณแรงแต่อย่างใด โดยกิจกรรมจะไปยุติตรงสะพานข้ามลำน้ำสายก่อนจะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการแสดงพลังชูป้ายให้ปล่อย

พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า

            จากนั้นแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยโดยมีคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทยส่วนท้องถิ่นหรือทีบีซี นายชุติเดช มีจันทร์ นายอำเภอแม่สาย และพ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล เดินทางไปรับเรื่องเพื่อเสนอต่อรัฐบาลไทย ก่อนที่ชาวเมียนจะยอมในสลายไปอย่างสงบด้านทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยก็ได้ทำการปิดด่านพรมแดนฝั่งประเทศไทยเอาไว้เพื่อความปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ท่ประจำอยู่ที่ด่านพรมแดนคอยป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำเข้ามาในอาณาจักรไทย แต่หลังจากที่มีการแสดงพลังและยื่นหนังสือแล้วเสร็จ ก็ได้มีการเปิดด่านพรมแดนตามปกติ โดยไม่มีเหตุการณ์ไม่สงบแต่อย่างใด

พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า
พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า

พม่า2พันปิดด่านแม่สายประท้วงคดีเกาะเต่า

 
ย้าย2นักโทษไปขังเรือนจำนครศรีธรรมราช
 
           เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 26 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้นำตัวนายซอริน กับนายเว พิว 2 นักโทษประหารชีวิตชาวเมียนมาร์คดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชายหญิงชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องโทษของเรือนจำอำเภอเกาะสมุยลงเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง และมีอำนาจในการควบคุมผู้ที่ถูกตัดสินโทษจำคุกตั้งแต่15ปีขึ้นไปจนถึงโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือได้รับโทษประหารชีวิต
 
           สภาพของนายซอริน และนายเวพิว ที่สวมชุดของนักโทษเรือนจำบริเวณข้อเท้าของทั้ง 2 คนถูกตีตรวน ซึ่ง 2 นักโทษได้ถือถุงพลาสติกใส่ของใช้ส่วนตัว และมีสีหน้าเรียบเฉยสลับกับมีความเคร่งเครียดเป็นบางครั้ง
 
 
โฆษกกต.เผยยังมีพม่า60คนปักหลักหน้าสถานทูตไทยในย่างกุ้ง 
 
           นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุด กรณีศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต 2 แรงงานชาวเมียนมาร์ ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ จนทำให้เกิดกระแสต่อต้านและนัดหมายชุมนุมกันบริเวรหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง ว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) ยังคงมีชาวพม่าราว 60 คน มาชุมนุมประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงย่างกุ้งเป็นวันที่ 3 อย่างไรก็ดีเหตุการณ์เป็นไปได้ความสงบ ขณะที่ทางการพม่าก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับสถานทูตแม้จะปิดทำการในวันนี้ก็ตาม
 
ส.ข่าวไทยตอบส.พม่ายันติดตามคดี
 
          ตามที่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 สมาคมนักข่าวพม่า (Myanmar Journalists Association : MJA) ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอให้ทั้งสองสมาคมร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแสวงหาความจริงเกี่ยวกับการใช้อำนาจของราชการและระบบกฎหมายไทยในการตัดสินคดีสังหารนักท่องเที่ยวที่เกาะเต่า ซึ่งศาลจังหวัดสมุยได้ตัดสินประหารชีวิตแรงงานชาวพม่าสองคนที่ตกเป็นจำเลยในคดีดังกล่าว  โดบเรีกยร้องให้สมาคมนักข่าวทั้งสองประเทศร่วมทำงานด้วยกันเพื่อประโยชน์ของประชาชน เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราและเพื่อธำรงความยุติธรรม มาร่วมแสดงให้โลกเห็นว่านักข่าวพม่าและนักข่าวไทยร่วมกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และคุณค่า ตามระบอบประชาธิปไตย
 
          ทำให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้มีจดหมายตอบอย่างเป็นทางการและเผยแพร่เนื้อความในจดหมายตอบดังกล่าว โดยมีใจความสำคัญว่า การส่งเสริมให้สื่อมวลชนทำหน้าที่อย่างมืออาชีพในการแสวงหาความจริงและผดุงความยุติธรรมเป็นส่วนหนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ดังนั้นจึงมีความยินดีที่จะทำงานเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ
 
          ทั้งนี้ คำตัดสินของศาลในวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมายังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะจำเลยทั้งสองสามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ นอกจากนี้ สื่อมวลชนไทยยินดีที่จะนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง และหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนคดีตามความเป็นจริง ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนคดีนี้ในระยะเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนของไทยเองก็ได้รายงานข่าวเจาะลึกเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
 
          “เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของทั้งสองสมาคมจะยิ่งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาคมนักข่าวและประชาชนของทั้งสองประเทศ พร้อมๆ กับการส่งเสริมความยุติธรรมอันนับได้ว่าเป็นคุณธรรมหลักประการหนึ่งของมวลมนุษยชาติ” สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยระบุในจดหมายตอบ