ข่าว

ลื่นปรื๊ดๆ...มุกเยอะ:ล้วงตับการเมือง

ลื่นปรื๊ดๆ...มุกเยอะ:ล้วงตับการเมือง

26 ธ.ค. 2558

ลื่นปรื๊ดๆ...มุกเยอะ : ล้วงตับการเมือง

          ควันหลงงานแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับสื่อมวลชนประจำรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา เรียกว่าเล่นใหญ่ มาครบ  เสื้อผ้า หน้าผม อุปกรณ์ครบ ทั้งเชียร์ลีดเดอร์ ดรัมเมเยอร์ นักกีฬา งานนี้ระดมพลมาประชันกันเต็มเหนี่ยว เพราะทั้งสื่อและ สนช.ต่างไม่มีใครยอมใคร

          ฝั่ง สนช.มากันครบ นำโดย “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธาน สนช.  “สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย” และ “พีระศักดิ์ พอจิต” รองประธาน สนช. นำทีมสมาชิก สนช.นับร้อยคนฟาดแข้ง “เตะฟุตบอล” กับกองทัพสื่อมวลชนประจำรัฐสภา

          ก่อนคิกออฟ หลายคนคงปรามาสฝีมือ ท่านๆ สนช.ทั้งหลายว่า คงลงสนามได้ไม่กี่น้ำก็คงต้องเหนื่อย แต่ปรากฏว่า คาดผิด เพราะ สนช. “ฟิตเปรี๊ยะ” กันทุกคน ลงสนามก็วิ่งกันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะท่าน “รองฯพีระศักดิ์” ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน วิ่งไม่มีหมด เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะท่านเล่นฟุตบอลมาตลอด แถมยังเคยเป็นประธานฟุตบอลจังหวัดอุตรดิตถ์มาก่อนด้วย

          หลังหมดเวลาครึ่งแรกระหว่างสื่อชายกับ สนช.ชายเรียบร้อยแล้ว ให้ไปพักผ่อนก่อนลงเตะครึ่งหลัง เพราะต่อจากนี้เป็นคิวของ สนช.ชายอาวุโสกับสื่อมวลชนหญิง โดยมีกติกาว่า สื่อมวลชนหญิงสามารถจับต้องตัวท่านๆ ได้ จะใช้วีธีดึง จะจับ จะทำอย่างไรก็ได้ ไม่ให้วิ่งเตะฟุตบอลได้ แต่ท่านสมาชิกห้ามถูกเนื้อต้องตัวสาวๆ สื่อนะค้าบ

          ลงสนามกันไปสักพัก ท่าน “รองฯพีระศักดิ์” คงอดใจไม่ไหว ขอแจมลงสนามเตะบอลกับ “สาวๆๆ สื่อรัฐสภา” บ้าง เปลี่ยนตัวปุ๊บ ลงสนามปั๊บก็ออกลีลาพลิ้ว เลี้ยงบอลหลบหลีกไปทั่วสนาม แบบคริสเตียโน โรนัลโด กันเลยทีเดียว ฟอร์มขั้นเทพเช่นนี้ ก็เล่นเอาสื่อสาวหัวปั่น หาบอลแทบไม่เจอ เมื่อไม่ได้เล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล สื่อสาวจึงต้องใช้วิธีการ “จับ” แขน เพื่อสกัดไม่ให้รองฯพีระศักดิ์ออกลีลาได้

          แต่...คาดผิด เพราะกระจอกสาวพยายามดึงมือจับแขน “รองฯพีระศักดิ์” เป็นสิบๆ ครั้ง ก็ “ฉุด” ไม่อยู่ จับได้ไล่ไม่ทัน แม้ดึง จับ เท่าไรก็ “หลุด” มือทุกที เรียกได้ว่า แขนท่านรองฯพีระศักดิ์ลื่นเป็น “ปลาไหล” เลยทีเดียว เล่นเอากระจอกสาวสภาอ่อนอกอ่อนใจยอม “ยกธงขาว” จนกระทั่งจบเกมเสมอไป 1-1

          หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ท่านรองฯก็เดินมาหาสื่อสาว พร้อมกับยกแขนให้ดูเป็นรอยข่วนยาวเลือดซิบๆๆ พร้อมกับถามว่า “ผมไม่รู้ไปโดนใครทำ เนี่ย..หาตัวไม่เจอ“ จากนั้นก็เดินไปให้พยาบาลทำแผล ปะหน้ากันอีกครั้งสื่อก็ถามอีกว่า ท่านทำไมแขนถึง ”ลื่น“ สุดขนาดนี้จนจับตัวไม่ได้จริงๆ ท่านรองฯ ไม่บอก แต่หัวเราะพร้อมเดินจากไป ทิ้ง ”ปริศนา” ไว้ให้สื่อสาวสภาขบคิดกันต่อไป

          “มุกเยอะ”

          เก็บตกการมาเยือนประเทศไทยของ “สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเตโช” หรือสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีตลอดกาลแห่งกัมพูชา เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ในการผูกมิตรของสองประเทศในโอกาสความสัมพันธ์ครบรอบ 65 ปี นอกเหนือจากเวทีรัฐบาลไทยปูพรมแดงต้อนรับคณะรัฐบาลกัมพูชาอย่างชีวิตดี๊ดี ดูเหมือนว่าความใกล้ชิดระหว่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับสมเด็จฮุน เซน ในการพบปะครั้งนี้ จะดูชื่นมื่นกว่าปกติ ไม่ว่าทั้งสองผู้นำจะหารือหรือแถลงอะไร ทั้งคู่ดูจะสนิทสนม ยิ้มแย้ม ทักทายกันแบบแนบเเน่นจริงๆ

          โดยเฉพาะช่วงการแถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลเสร็จสิ้น ทั้ง "บิ๊กตู่” กับ “สมเด็จฮุน เซน” ก็ผลัดกันหยอดคำหวานกันทุกระยะ

          จากการเป็น “สักขีพยาน” ในพิธีร่วมลงนามเอกสาร 5 ฉบับ ทั้งการเปิดเส้นทางรถไฟ การสร้างสะพานเชื่อมสองประเทศ ถึงกับว่า สมเด็จฮุน เซน จะขอ “แต่งเพลง” ในจังหวะรำวง เพื่อแสดงความขอบคุณที่ทางการไทยเป็นเจ้าภาพในการสร้างสะพานด้วย

          ท้ายการแถลงข่าว “บิ๊กตู่” ในฉายาที่ชาวสังคมออนไลน์ตั้งให้ว่า “นายกฯ เป็นคนตลก” ยังหยิกแกมหยอกคณะรัฐมนตรีขณะนั้น เน้นที่การประชุมร่วมครั้งที่ 3 ที่กรุงพนมเปญ หากข้อตกลงที่ทำร่วมกันครั้งนี้ไม่มีความคืบหน้าอะไรก็จะให้คณะรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาข้ามประเทศสลับไปทำงานกันไปเลย

          เรียกเสียงฮาจากที่ประชุมรับมุกนายกฯ กันทันที แต่สุดท้ายงานนี้ก็ต้องรอดูว่า “ภารกิจ” ความร่วมมือสองประเทศจะเดินหน้าแค่ไหน หรือถ้ายังเดินหน้าไม่ราบรื่นจริงๆ ยังไงคงต้องลองสลับตัวผู้นำประเทศด้วยละกันนะครับโผ้มมม (อิอิ)