จิบชาชมวังเรียนรู้การเดินทางของดอกไม้ | คมชัดลึก

 

        ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่จะเปิดวังให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ หลังจากสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ.2554 มูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา ผู้ดูแล “วังรื่นฤดี” ที่ประทับของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ  และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี  ในรัชกาลที่ 6 จึงถือโอกาสวาระ 90 ปีแห่งการสวรรคตพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และประสูติกาลสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ จัดนิทรรศการ “การเดินทางของดอกไม้” เพื่อร่วมรำลึกถึงการอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนและแผ่นดินไทย

 

        ภายในนิทรรศการได้นำพระประวัติ และพระกรณียกิจของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ มาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวประกอบสิ่งของส่วนพระองค์ตั้งแต่ประสูติจนถึงสิ้นพระชนม์ โดยมีวิทยากรมากความสามารถอย่าง เชื้อพร รังควร รองเลขาธิการมูลนิธิฯ, ม.ร.ว.ปิยฉัตร ฉัตรชัย และ ดร.ชัชพล ไชยพร กรรมการมูลนิธิฯ นำชม 

 

        ม.ร.ว.ปิยฉัตร ฉัตรชัย และ ดร.ชัชพล ไชยพร ร่วมให้ข้อมูลนิทรรศการว่า แบ่งเป็น 5 ส่วนหลัก ได้แก่ “เชิญดอกไม้” นำเสนอของใช้และทรัพย์สินที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแด่พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เมื่อครั้งที่ทรงพบรักกัน โดยแต่ละชิ้นสลักพระปรมาภิไธย อาทิ กระจก กล่องเงิน ร่ม หลอดยาอม เป็นต้น ถัดมาเป็นส่วน “ในสวนรื่นฯ” จัดแสดงบริเวณท้องพระโรง โดยเชิญเครื่องประดับอันเป็นมงคลสูงสุดมาให้ชม ประกอบด้วย จี้เพชร ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านหลังบรรจุเส้นพระเจ้า (เส้นผม) ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, เข็มกลัดพระปรมาภิไธย “วปร” บรรจุเส้นพระเจ้าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, สร้อยพระศอนพรัตน์ และสร้อยพระกรเพชรซีก ส่วนถัดมาคือ “ชื่นต่างแคว้น” กล่าวถึงการเดินทางไปยังประเทศอังกฤษของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ โดยจัดแสดงกระเป๋าเดินทางของทั้ง 2 พระองค์ เป็นกระเป๋าแบบเดียวกันมีพระปรมาภิไธย “พร” และ “สว” สลักบนกระเป๋า แสดงให้เห็นถึงความรักและความผูกพันระหว่างแม่กับลูกที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

 

        ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วน “คืนแดนสยาม” จัดแสดงพระธำมรงค์หมั้นและพระธำมรงค์ราชาภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ พร้อมด้วยเครื่องประดับที่ออกแบบโดย ม.จ.ไกลสิงห์ วุฒิชัย ดีไซเนอร์ชื่อดังในสมัยนั้น ขณะที่ภายในห้องบรรทมใช้เป็นที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของทั้ง 2 พระองค์ พร้อมภาพประกอบว่าฉลองพระองค์ไปในงานใด รวมถึงรองพระบาทและพระกระเป๋าเข้าคู่กันแสดงถึงความมีกาลเทศะ ปิดท้ายที่ส่วน “สถิตพระนามแห่งดวงแก้ว” เป็นการกล่าวถึงพระเกียรติยศที่ได้รับจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากสิ้นพระชนม์แล้ว โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานฉัตร 7 ชั้น หรือ สัปตปฎลเศวตฉัตร เพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุด แก่สมเด็จพระเจ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ นอกจากนี้บริเวณสวนริมน้ำด้านข้างพระตำหนัก ยังเปิดเป็นโซนจิบน้ำชาพร้อมเครื่องว่างที่เลือกสรรมาโดยเฉพาะด้วย

 

        ขณะที่ เชื้อพร รังควร กล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษที่จะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2559 ทางมูลนิธิฯ ได้ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการแสดงชุด “ดวงแก้วแห่งมงกุฎเกล้า” เป็นการเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลง โดยจะจัดแสดงที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แบ่งเป็น 2 รอบสำหรับแขกรับเชิญพิเศษ และรอบบุคคลทั่วไป ส่วนวันและเวลาที่แน่นอนทางมูลนิธิฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

 

        ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ “การเดินทางของดอกไม้” ได้จนถึง 13 ธันวาคม เวลา 10.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ 09-4057-6738 และ 06-1751-8869