
กราดยิงกลางกรุงปารีสตายกว่า150ราย
14 พ.ย. 2558
กราดยิงกลางกรุงปารีสตายกว่า150ราย พื้นที่แสดงคอนเสิร์ตใกล้สนามฟุตบอล ทั่วโลกประณามโอบามาอยู่เคียงข้างฝรั่งเศสขณะที่ผู้รอดชีวิตได้ยินคนร้ายพูดถึงซีเรียและอิรัก
เมื่อเวลา 05.43 น. (ตามเวลาในไทย) วันที่ 14 พ.ย.2558 เกิดเหตุก่อการร้ายทั่วกรุงปารีส โดยคนร้ายใช้ปืนกลเปิดฉากยิงที่ภัตตาคาร เปอติ แคมโบดจ์ (Petit Cambodge) ในเขต 11 (11th district) นอกจากนี้ยังมีการกราดยิงเกิดขึ้นที่ศูนย์ศิลปะบาตาคล็อง (Bataclan) ใกล้พื้นที่แสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีร็อค Eagles of Death Metal จากแคลิฟอร์เนีย
และในเวลาเดียวกันยังได้เกิดเหตุระเบิดสามระลอกนอกบาร์แห่งหนึ่งใกล้กับสนามฟุตบอลบริเวณสตาดเดอฟร็องส์ สนามกีฬาแห่งชาติของฝรั่งเศสทางตอนเหนือของกรุงปารีส ซึ่งมีการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติเยอรมนี โดยมีประธานาธิบดีฟรังก์ซัว ออลลองเข้าไปชมด้วย
ด้านบีเอฟเอ็มทีวี สถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศสรายงานว่ามีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันที่ศูนย์ศิลปะบาตาคล็อง ราว 100 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสเผยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แล้ว 153 รายแล้ว ประธานาธิบดีฟรังก์ซัว ออลลอง ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และปิดชายแดนทั้งหมด ขณะที่หอไอเฟลสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสดับไฟ ตึกเอมไพร์ที่สหรัฐอเมริกา เปลี่ยนสีไปบนตึกเป็นสีธงชาติฝรั่งเศส เพื่อร่วมไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิตเหตุก่อการร้ายในครั้งนี้
และมีรายงานว่าผู้ก่อการร้ายถูกสังหารแล้วอย่างน้อย 2 ราย และผู้ก่อการร้ายเสยชีวิตจากเหตุวางระเบิดพลีชีพอีก 1 ราย และยังพบว่ายังมีการก่อเหตุอย่างต่อเนื่องทั่วกรุงปารีส
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ชาวปารีสใช้ทวิตเตอร์ติด #PorteOuverte เพื่อให้ความช่วยเหลือคนที่ยังติดค้างบนท้องถนนและต้องการสถานที่หลบภัย และชาวเน็ตทั่วโลกร่วมไว้อาลัยผ่านแฮชแท็ก #PraysForParis
ขณะที่เกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่าง ฝรั่งเศส กับเยอรมนี โดยเกมนี้ ฝรั่งเศสเอาชนะเยอรมนี ทีมแชมป์โลกไปได้ 2-0 หลังจบเกมแฟนบอลจำนวนมากไม่กล้าออกจากสนาม หลังมีเหตุการณ์ก่อการร้ายเกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดเพลงเพื่อทำให้แฟนบอลคลายความกังวล ก่อนพาอพยพออกจากสนามไปยังที่ปลอดภัย
ทางกระทรวงต่างประเทศของไทยได้เปิดเผยว่า ยังไม่พบคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสครั้งนี้
ทั่วโลกประณาม‘โอบามา’อยู่เคียงข้างฝรั่งเศส
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ออกแถลงการณ์ประณามว่า เป็นการก่อการร้ายที่ป่าเถื่อนและขี้ขลาด ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า จะอยู่เคียงข้างและพร้อมให้ความช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนชาวฝรั่งเศส ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียแสดงความเสียใจต่อประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์และประชาชนชาวฝรั่งเศสหลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่น่าหวาดผวา ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการเข่นฆ่าที่ไร้มนุษยธรรม และพร้อมให้ความช่วยเหลือสอบสวนเรื่องนี้
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ นายเยนส์ สโตนเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานของตุรกี และนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลที่ประกาศพร้อมช่วยเหลือและเคียงข้างฝรั่งเศส
ผู้รอดชีวิตได้ยินคนร้ายพูดถึงซีเรียและอิรัก
นายปิแอร์ จานาซัค ผู้จัดรายการวิทยุคนหนึ่งซึ่งนั่งชมการแสดงดนตรีบริเวณที่นั่งชั้นบนเล่าว่า ได้ยินเสียงปืนดังจากด้านล่างหลังจากการแสดงดำเนินไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนแรกเขาและเพื่อน ๆ คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่ไม่นานก็รู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น เห็นคนร้าย 3 คน ถือปืนขนาดใหญ่ คิดว่าเป็นปืนกลอาก้ากราดยิงใส่ผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า ได้ยินเสียงคนกรีดร้องอย่างหวาดกลัวและพยายามหนีเอาชีวิตรอด เขาและเพื่อน ๆ รีบหนีไปซ่อนตัวในห้องน้ำ ได้ยินคนร้ายพูดกับตัวประกันที่ถูกจับไว้ประมาณ 20 คนอย่างชัดเจนว่า ทั้งหมดเป็นความผิดของนายโอลลองด์ เป็นความผิดของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ตัวประกันที่ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงในซีเรีย นอกจากนี้ยังคนร้ายยังพูดถึงอิรักด้วย

...........................
(หมายเหตุ : ภาพจาก AFP และวีดิโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=Q47uPzSFfHU)