
พระพุทธเมตตาฯคือศรัทธาสู่ชาวพุทธ
26 ต.ค. 2558
ไลฟ์สไตล์ : พระพุทธเมตตาฯ คือศรัทธาสู่ชาวพุทธ
“โครงการนี้เกิดจากความริเริ่มของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ท่านได้ปรารภกับข้าพเจ้าเรื่องความตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปองค์สำคัญขึ้น วัตถุประสงค์คือ เพื่อเป็นศูนย์รวมความเคารพของพุทธศาสนิกชนอีกแห่งหนึ่ง และเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระพุทธรูปแห่งบามิยัน ...รวมทั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา กับเพื่อเป็นเกียยรติแก่ข้าพเจ้าที่จะมีอายุ 80 ในปีหน้า เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบ ข้าพเจ้าก็รับปากกับพระคุณสมเด็จฯ ว่า ข้าพเจ้าจะขอร่วมทำบุญและจะพยายามสนับสนุนโครงการนี้ให้ดำเนินไปจนสำเร็จ บัดนี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ท่านได้มรณภาพแล้ว ...ข้าพเจ้าจึงรับเป็นผู้อุปถัมภ์โครงการ และปวารณาว่าจะดำเนินการให้ลุล่วงดังความตั้งใจของพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์...” ส่วนหนึ่งในพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานแก่คณะบุคคลที่มาเข้าเฝ้า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 11 สิงหาคม 2554 ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา นับเป็นปฐมบทแห่งแรงศรัทธาที่ทำให้วันนี้คนไทยได้เห็น พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระราชินูปถัมภ์ ขนาดสูง 32 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ยังความปลาบปลื้มแก่พุทธศาสนิกชน และคณะผู้จัดทำสานต่อพระปณิธานข้างต้น โดยวันก่อนมีการแถลงข่าวถึงความเป็นมาและกำหนดการพิธีสมโภชอย่างเป็นทางการ ที่ห้องเทเวศน์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดสร้างพระพุทธเมตตาฯ เปิดเผยว่า 4 ปีที่ได้เริ่มดำเนินโครงการมา ตามพระราชปณิธานที่แน่วแน่ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จะสานต่อความริเริ่มของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ที่ต้องการสร้างจุดศูนย์รวมใจของชาวพุทธ เป็นอนุสรณ์แห่งพระพุทธรูปศิลปะคันธาระในหุบเขาบามิยัน ประเทศอัพกานิสถานที่ถูกทำลายลงในปี พ.ศ.2544 และเป็นสถานที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการให้พื้นที่ 320 ไร่ เป็บพุทธอุทยานที่สมบูรณ์แบบ ทั้งยังช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีความสุขสบายมากขึ้น ด้วยการสร้างอ่างเก็บน้ำ (แก้มลิง) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อปรับพื้นที่ที่ขึ้นชื่อว่าแห้งแล้งของ จ.กาญจนบุรี ให้ชุ่มชื้น มีฝนตกตามฤดูกาล อุดมสมบูรณ์มากขึ้น ตอนนี้น้ำเริ่มมีมากขึ้นแล้ว คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้จะมีน้ำเก็บอยู่ที่ 8 แสนลูกบาศก์เมตร เพียงพอกับการปลูกพืชพรรณการเกษตรโดยรอบ
ด้าน พระราชวิสุทธิเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เล่าย้อนว่า พระพุทธเมตตาฯ เกิดขึ้นหลังจากที่คุณฉันท์ทิพย์ กลิ่นโสภณ และครอบครัว ได้ถวายที่ดินสร้างวัดโดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ได้ให้การอุปถัมภ์ดำเนินการสร้างตั้งแต่เริ่ม ตั้งชื่อวัดว่า วัดทิพย์สุคนธาราม จากการที่พระคุณสมเด็จฯ ได้เดินทางไปตรวจงานก่อสร้างอยู่เสมอ จึงได้พบว่าพื้นที่แห่งนี้มีความแห้งแล้ง ฝนไม่ตกตาทฤดูกาล จึงเกิดเเรงบันดาลใจสำคัญในการดำริสร้างพระพุทธรูปใหญ่ปางขอฝน เพื่อให้พุทธานุภาพของพระพุทธองค์ช่วยดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล สืบสานพระพุทธศาสนา เป็นกำลังใจและศูนย์รวมจิตใจของราษฎรบริเวณนั้น พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับยืน ทรงผ้าวัสสิกสาฎก (ผ้าอาบน้ำฝน) พระหัตถ์ขวายกขึ้นราวพระอุระ ทำกริยากวักเรียกน้ำฝน พระหัตถ์ซ้ายหงายขึ้น เป็นกริยารองรับน้ำฝน ส่วนนามพระพุทธรูปมีความหมาย 3 ประการ คือ 1) เป็นที่พึ่งของชาวไทยและชาวโลก 2) เป็นที่พึ่งของ 3 โลก ได้แก่ โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และยมโลก 3) เป็นที่รำลึกถึงพระพุทธรูปแห่งบามิยัน ประเทศอัพกานิสถาน
ทั้งนี้ พิธีสมโภชพระพุทธเมตตาฯ จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 23 ธันวาคมนี้ เวลา 14.00 น.โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์เป็นประธานในพิธีสมโภช ณ วัดทิพย์สุคนธาราม จ.กาญจนบุรี นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการอนุสรณ์แห่งการตื่นรู้ พุทธอุทยาน ซึ่งเป็นที่รวมพันธุ์ไม้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และอื่นๆ อีกมากมาย ให้ประชาชนได้เข้าชมและกราบสักการะต่อไป