ข่าว

ตามล่า‘ภาษีดารา’...‘โฆษณาน้ำเมา’

ตามล่า‘ภาษีดารา’...‘โฆษณาน้ำเมา’

15 ต.ค. 2558

ตามล่า‘ภาษีดารา’...‘โฆษณาน้ำเมา’ : ทีมข่ายรายงานพิเศษ

              ทั้งดาราและบริษัทน้ำเมาต่างพากัน “แก้ตัวปากสั่น” ว่าโพสต์ในโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเสน่หาเฉพาะกลุ่ม ไม่เกี่ยวกับรับจ้างโฆษณาเบียร์หรือทำการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์...

              เริ่มแรกเป็นการแฉดาราฝ่ายชายเพียงคนเดียว จากนั้นไม่นานนักข่าวพลเมืองหรือนักสืบออนไลน์ช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวข้องมาเปิดโปงต่อว่า พบกลุ่มดารา นักร้อง ดีเจ ฯลฯ กว่า 30 คนร่วมกันถือขวดเบียร์โชว์ในโซเชียลมีเดียช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เหมือนนัดหมายกันพูดแบบสไตล์โปรโมทสินค้าไม่ผิดเพี้ยน...

              กระแสสังคมเริ่มกดดันให้มีการสืบหาข้อเท็จจริง กระทรวงสาธารณสุขเตรียมสั่งเรียก “โดม" ปกรณ์ ลัม เจ้าตัวมาชี้แจงกรณีโพสต์ภาพขณะรินเบียร์ ขณะที่เครือข่ายกลุ่มต่อต้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เร่งตรวจสอบและเอาผิด พร้อมดูแลการโฆษณาแฝงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากกลุ่มดารานักร้องที่โพสต์ภาพขณะรินเบียร์ในอินสตาแกรม และบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปรากฏในภาพด้วย โดยระบุโทษไว้ว่า เป็นกรณีเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ห้ามโฆษณา หากทำผิดจะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท  เมื่อมีการระบุโทษออกมาชัดเจน ฝ่ายผู้บริหารบริษัทน้ำเมาที่อยู่ในภาพก็ออกมายืนยันว่า ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำตามกฎหมายไม่มีการใช้ดาราโฆษณาสินค้าอย่างแน่นอน

              ส่วนดาราหญิงบางคนที่ติดอยู่ในกลุ่ม 30 คน รีบขอเข้าชี้แจงต่อตำรวจว่า การโพสต์ภาพดังกล่าวเป็นการโปรโมทสินค้าจริง แต่เป็นการช่วยเพื่อนที่ทำงานในบริษัทนั้น เพราะมีการปรับโฉมใหม่ โดยไม่รู้ว่ามีกฎหมายห้าม จึงขอยอมรับผิดที่เป็นตัวอย่างไม่ดีด้วย แต่ยืนยันว่า “ไม่ได้รับค่าจ้าง” ในการช่วยโพสต์สินค้าแอลกอฮอล์ดังกล่าวแต่อย่างใด

              “คำถามสำคัญ” ขณะนี้ไม่ควรถกเถียงกันแค่ว่า “โฆษณาน้ำเมาเป็นสิ่งไม่สมควรและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”

              แต่ควรตั้งทีมสืบค้นเพิ่มว่า เมื่อมีโฆษณาก็ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทน เมื่อนั้นต้องมีการจ่ายภาษี หรือว่าเหตุผลที่ดาราออกมาปฏิเสธกันปากสั่น เพราะกลัวเรื่องภาษี ?

              คม ชัด ลึก สอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายภาษี ได้รับคำอธิบายว่า หากสังคมอยากรู้ข้อเท็จจริง หน่วยงานที่สำคัญและมีบุคลากรพร้อมเครื่องมือและอำนาจตามกฎหมายในการสืบหาหลักฐานข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ “กรมสรรพากร”

              “เชื่อว่าตอนนี้ บริษัทน้ำเมาไม่ได้กลัวตำรวจหรือกระทรวงสาธารณสุข แต่กลัวเรื่องการแจ้งรายการเสียภาษีไม่ครบถ้วนมากกว่า เพราะกฎหมายระบุให้ยื่นสรรพากรทุกเดือนหากมีการจ่ายค่าจ้างดาราหรือพวกค่าโฆษณาต่างๆ ส่วนดาราก็เหมือนกัน ถ้าตรวจย้อนหลังเจอว่าได้รับเงินค่าจ้างไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมจากค่าโฆษณา แล้วไม่จ่ายภาษีจะโดนปรับย้อนหลัง 2 เท่า ดาราหลายคนแทบล้มละลายมาแล้ว”

              ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากกรมสรรพากร ตั้งข้อสังเกตว่า จากภาพรายงานข่าวที่เห็นนั้น เชื่อว่าไม่ได้เป็นการโพสต์ด้วยเสน่หาส่วนตัว หรือช่วยเพื่อนโปรโมทสินค้าอย่างแน่นอน มีความผิดปกติหลายอย่าง ลักษณะเหมือน “การแสดงสาธารณะ” หมายถึงการแสดงประเภทต่างๆ ต่อสาธารณะ ส่วนใหญ่จะได้ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายภาษี ไม่ได้หมายถึงเฉพาะเงินสดเท่านั้น แต่รวมค่าเงินรางวัลและประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ค่าพาหนะ เบี้ยเลี้ยง ที่พัก ฯลฯ หรือจ่ายลักษณะอื่นทำนองเดียวกัน

              “อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันหาข้อมูลมาแชร์กัน วิธีการตรวจสอบง่ายมาก ไม่ซับซ้อน เพราะเจ้าหน้าที่สรรพากรมีอำนาจขอหลักฐานธุรกรรมทุกอย่างจากทุกหน่วยงานอยู่แล้ว และมีผู้เชี่ยวชาญแกะรอยพวกเลี่ยงภาษีอยู่แล้ว เช่น เริ่มจากไปขอดูว่าที่ผ่านมาบริษัทมี “การหักภาษี ณ ที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์” อย่างไรบ้าง จำนวนเท่าไร จ่ายให้ใครหรือนิติบุคคล คณะบุคคลใดแล้วตรวจดูผู้ที่ถูกระบุเป็นดารา หรือตัวแทนดารา หรือไม่ และให้ชี้แจงว่าได้ค่าจ้างอะไรมา ทั้งบริษัทและดาราต้องให้ข้อมูลตรงกัน ไม่เช่นนั้นต้องขุดคุ้ยสืบต่อจนได้หลักฐานทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่รับรองได้ว่าถ้าอธิบดีกรมสรรพากรสั่งเอาจริงเมื่อไร บริษัทเบียร์ที่เกี่ยวข้องต้องวุ่นวายแน่นอน เพราะต้องเตรียมหลักฐานทั้งหมดมาแสดง รอดูกันว่ากระแสสังคมจะกดดันแค่ไหน  ตอนนี้คงต้องรอคำสั่งผู้บริหารกรมสรรพากรว่า จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริษัทเอกชนและดาราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เมื่อไร”

              ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญข้างต้นยังอธิบายถึง วิธีการเลี่ยงภาษีของเหล่าดารานักร้องว่า ส่วนใหญ่จะทำ 2 วิธีคือ หากเป็นดาราชื่อดังหน้าใหม่ ไม่ได้มีรายได้มาก จะจ้างเพื่อนหรือคนรู้จักมาเซ็นรับเงินแทน หรือถ้าเป็นดาราดังหน่อยต้องว่าจ้างคนตบแต่งบัญชี หรือที่เรียกกันว่า “ตัวแทนเชิด” พวกนี้จะช่วยดาราจัดตั้ง “บริษัท” หรือ “คณะบุคคล” แล้วหาหลักฐานมาช่วยทำ “รายจ่ายเท็จ” เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าที่ปรึกษา ค่าพาหนะ ค่าสั่งทำของขวัญ ฯลฯ

              “คณะบุคคลทำง่ายสุด ไม่วุ่นวายเหมือนตั้งบริษัท เช่น ดารา 1 คน มีเงินได้ 1 ล้านบาทต้องเสียภาษีอย่างน้อย 20-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นคณะบุคคลอาจเสียแค่ 2 หมื่นบาท แต่ในความเป็นจริงดาราดังๆ มีรายได้เกิน 4 ล้านบาทอยู่แล้ว ทำให้อัตราเสียภาษีเงินได้อยู่ที่ร้อยละ 35 เชื่อว่าดาราดังเกือบทุกคนมีตัวแทนเชิดทั้งนั้น อยู่ที่กรมสรรพากรจะเข้าไปไล่ตรวจเมื่อไร กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเริ่มตรวจกลุ่มดาราเลี่ยงภาษีอีกครั้ง” ผู้เชี่ยวชาญข้างต้นแนะนำ

              ล่าสุด เครือข่ายเฝ้าระวังกลยุทธ์สุราและเครือข่ายต่อต้านแอลกอฮอล์กำลังติดตามการกระทำของดารากลุ่มนี้ พร้อมกดดันเรียกร้องให้เอาผิดผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นเรื่องร้ายแรง เป็นภาพดาราที่สื่อสารให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นรูปแบบโฆษณาที่อันตราย

              การกดดันเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง การสืบหาหลักฐานพิสูจน์ความจริง ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่รอเวลาว่า เมื่อไร “กรมสรรพากร” จะจัดเต็ม ตามล่า “ภาษีดารา” โฆษณาน้ำเมา !?!




คดีนางเอก “พลอย”
(ใช้รูปจากเวบนี้ http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2012/08/30/kf79akic7bdih96ggj7ec.jpg)
นางเอก “พลอย" เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ เคยเป็นคดีดังกรณีเลี่ยงภาษี เมื่อช่วงกันยายน 2555 หรือ 3 ปีที่แล้ว เนื่องจากถูกพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งเปิดโปงว่า “นำบัตรประชาชนคนอื่นมารับเช็คเงินที่สั่งจ่ายในชื่อของ “ไลลา บุญยศักดิ์” ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ถูกต้อง โดยเจ้าตัวออกมาชี้แจงว่าไม่เจตนาเลี่ยงภาษี และถือเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต


จำนวนผู้ติดตาม“อินสตาแกรม”นักแสดง

              13 ต.ค.58 “วุ้นเส้น” : 3.7 ล้าน

              “โดม” 1.4 ล้าน “หญิงแย้” : 9.4 แสน

              “แจม” : 7.5 แสน

               “เนย” : 7 แสน

               “นิวเคลียร์” 6.6 แสน

              “จ๋า” : 5 แสน

              “เพชรจ้า”: 4.2 แสน “ภูมิใจ” : 4 แสน

              “นักแสดงสาธารณะ”

              บุคคลที่มีอาชีพหรือมีเงินได้จากการแสดงประเภทต่างๆ ต่อสาธารณะ หรือผู้ที่ดำรงชีพจากค่าตอบแทนที่ได้รับจากการแสดงประเภทต่างๆ ต่อสาธารณะ

              “เงินได้พึงประเมิน” แห่งประมวลรัษฎากร

               “เงินได้จากการแสดงของนักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุโทรทัศน์ นักร้อง นักดนตรี นักกีฬาอาชีพ หรือนักแสดงเพื่อความบันเทิงใดๆ”