
BOX24ซักรีดยุคดิจิทัลต่อยอดจัดส่ง-ช็อปออนไลน์
BOX24ซักรีดยุคดิจิทัลต่อยอดจัดส่ง-ช็อปออนไลน์ : คมคิดธุรกิจนิวเจน เรื่อง : ฐิติพล ขำประถม ภาพ : สมศักดิ์ เนตรทอง
ด้วยปัจจุบันคนเมืองวัยทำงานต้องใช้ชีวิตเร่งรีบจนแทบไม่มีเวลาเพื่อตัวเอง จึงนำมาซึ่งธุรกิจบริการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ “บริการซัก อบ รีด” และยิ่งเวลานี้ คนเมืองหลากหลายอาชีพมีช่วงเวลาการทำงานที่แตกต่างกัน ทำให้การให้บริการ 24 ชม. มีความจำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการ รวมถึง “บริการซัก อบ รีด” ที่ปรับตัวตามยุคสมัยเช่นกัน
BOX24 (บ๊อกซ์ 24) ร้านซัก อบ รีด รูปแบบใหม่ ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแบบดิจิทัล เปิดให้บริการ 24 ชม. เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งของคนเมือง โดย นิธิพนธ์ ไทยานุรักษ์ ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของบ๊อกซ์24 เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของร้านแห่งนี้ รวมถึงการต่อยอดธุรกิจที่ให้มากกว่าการซักผ้า
นิธิพนธ์ เผยว่าก่อนจะมาทำ บ๊อกซ์24 เคยเป็นพนักงานออฟฟิศมาก่อน ทำมาแล้วทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน, การค้าปลีก และวิจัยการตลาด จนมาวันหนึ่งทำงานหนักมาก ต้องกลับบ้านดึก ปรากฏว่า ร้านซักรีดปิด ไปเอาผ้าไม่ได้ นอกจากนั้นก็มีกรณีที่ผ้าหาย จึงเป็นปมปัญหาส่วนตัวที่เชื่อว่าหลายคนก็เคยพบ จึงคิดว่ามันน่าจะมีอะไรสักอย่างที่ดีกว่า แต่ตอนนั้นยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร จนกระทั่งมีโอกาสไปญี่ปุ่น ไปพบตู้ล็อกเกอร์ที่ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟฟ้า จึงเกิดแนวคิดนำล็อกเกอร์มาใช้กับร้านซักรีด จากนั้นเริ่มศึกษาวิจัย สร้างตู้และระบบของตัวเองขึ้นมา
“ผมคิดโปรเจกท์นี้ตั้งแต่ปี 2554 จากไอเดียมาต่อยอด เริ่มจากการหาตู้ ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มี ตู้ของทางญี่ปุ่นที่ไปเจอก็เป็นเพียงตู้ฝากของ จึงสร้างตู้ขึ้นมาเอง นำจอทัชสกรีนมาประกอบกัน วางระบบเข้าไป จากนั้นสร้างระบบการเชื่อมต่อระหว่างตู้ และลิงค์กับสมาร์ทโฟนของ บ๊อกซ์ 24 เอง ชื่อ Closet+ (โคลเซทพลัส) ขึ้นมา ทำให้สามารถรู้สถานะของตู้และผ้าได้ตลอดเวลา ใช้เวลาเป็นปีจนสำเร็จเป็น ตู้ซักอบรีดอัตโนมัติ ตู้แรกของไทย ผมมองว่าไม่ได้สร้างอะไรใหม่ แต่นำเอาสิ่งต่างๆ มาร่วมกันเพื่อตอบโจทย์เท่านั้นเอง”
เมื่อสร้างตู้ได้สำเร็จก็พบปัญหาเรื่องที่ตั้งของตู้ และคำถามมากมายจากลูกค้า เพราะ “ตู้ซักรีดอัตโนมัติ” ยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงต้องมาอธิบายให้เจ้าของสถานที่และลูกค้า เข้าใจระบบการทำงานและความปลอดภัย นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้เจ้าของสถานที่ต่างๆ จึงเปิดสาขาใหญ่ขึ้น 2 สาขา ที่อุดมสุข และลาดพร้าว ในชื่อ “WashBox24” (วอชบ๊อกซ์24) โดยเปิดสาขาแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ก่อนจะเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผ่านสื่อต่างๆ ที่ให้ความสนใจใน "ตู้ซักรีดอัตโนมัติ" จากนั้นมีการขายแฟรนไชส์ด้วย โดยขายตู้มาตรฐาน 8 ช่อง ตู้ละ 1.2 แสนบาท โดยแบ่งรายได้ให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ของการซักแห้ง และ 15 เปอร์เซ็นต์ของซักอบรีด ปัจจุบัน 2 ปีผ่านมา บ๊อกซ์24 มีจุดตั้งตู้ 43 สาขาทั่วกรุงเทพฯ มีผู้ใช้งานตู้มากกว่า 2,500 คน
“ผมมองว่า บ๊อกซ์24 ไม่ได้แข่งอยู่ในตลาดเดียวกับร้านซัก อบ รีด ทั่วไป ลูกค้าเลือกใช้บริการของ บ๊อกซ์24 เพราะการบริการของเราตอบโจทย์ลูกค้าแบบที่ร้านซัก อบ รีด ทั่วไปทำไม่ได้”
นอกจากนี้ "วอชบ๊อกซ์24" ยังได้ คว้ารางวัลนวัตกรรมของ Seedstars Bangkok 2014 และเป็นตัวแทนของคนไทยไปคว้ารางวัล Top 10 Seedstars World2015 ที่สวิตเซอร์แลนด์ ได้สำเร็จ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และนั่นเอง ทำให้ นิธิพนธ์ เกิดความคิดที่จะต่อยอดธุรกิจให้ตู้นั้นทำได้มากกว่าการรับผ้า
นิธิพนธ์ เล่าต่อว่า ทุกวันนี้ บ๊อกซ์24 ไม่ได้เป็นเพียงตู้ซักรีดอีกต่อไป เพราะได้มีการเพิ่มบริการรับส่งของ และซื้อของออนไลน์เข้ามาร่วมด้วย โดยบริการส่งพัสดุด่วนใช้ชื่อว่า "MoveBox24" (มูฟบ๊อกซ์24) ร่วมมือกับบริษัทขนส่ง KERRY EXPRESS (เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส) ที่ลูกค้าสามารถ ส่งของจากตู้ล็อกเกอร์ถึงตู้ล็อกเกอร์ หรือส่งจากตู้ล็อกเกอร์ถึงมือผู้รับได้ทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าต้องดาวน์โหลด และลงทะเบียนผ่าน แอพพลิเคชั่น "Box24" กรอกข้อมูลผู้รับ-ผู้ส่ง จากนั้นนำรหัสที่ได้ไปใส่ที่ตู้ของ บ๊อกซ์24 ตู้ใดก็ได้ใน 43 สาขา นำพัสดุใส่ในตู้ จากนั้นปลายทางจะได้รับการติดต่อเมื่อพัสดุมาถึง ซึ่งลูกค้าสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของพัสดุได้ตลอดเวลาผ่านแอพพลิเคชั่น
ขณะที่บริการซื้อของออนไลน์ บ๊อกซ์24 จับมือกับเว็บไซต์ของ Cdiscount (ซีดิสเคานท์) ซึ่งเมื่อลูกค้าสั่งซื้อของออนไลน์กับทางเว็บไซต์แล้ว สามารถสั่งให้นำพัสดุมาจัดส่งได้ที่ตู้ของบ๊อกซ์24 สาขาใดก็ได้ที่ลูกค้าสะดวก จากนั้นเมื่อพัสดุมาถึง ลูกค้าก็จะได้รับการแจ้งเตือนให้ไปรับสินค้า ซึ่งทั้ง 2 บริการใหม่นี้ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องประสบปัญหาสั่งซื้อสินค้าแล้วไม่มีผู้เซ็นรับอีกต่อไป และสามารถไปรับของเวลาไหนก็ได้ที่สะดวก
ก้าวต่อไปของ บ๊อกซ์24 นั้น เจ้าของธุรกิจนี้ นิธิพนธ์ มองว่าอนาคตของ บ๊อกซ์24 กำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาระบบให้สามารถรับส่งผ้าถึงบ้านได้ และมองถึงการขยายกิจการไปยังต่างประเทศอย่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีรูปแบบสังคมเมือง ที่พักอาศัยคล้ายคลึงกัน คาดว่าจะสามารถนำ บ๊อกซ์24 ไปเปิดตลาดได้ในช่วงปีหน้า
นั่นคือเรื่องราวของ บ๊อกซ์24 ที่นำปัญหาในชีวิตประจำวัน มาคิดแก้ไขต่อยอดอย่างไม่สิ้นสุดจนประสบความสำเร็จ และคว้ารางวัลมาเป็นเกียรติแก่ธุรกิจ พร้อมสร้างชื่อให้ประเทศไทยไปพร้อมกัน
ระบบของบ๊อกซ์24
นิธิพนธ์ อธิบายระบบการทำงานของตู้ว่า ตู้ทั้งหมดเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งลิงค์กับระบบแอพพลิเคชั่น "Box24" ให้ลูกค้าดาวน์โหลด และลงทะเบียน
เมื่อลูกค้ามาที่ตู้แล้วกรอกข้อมูลลงบนจอทัชสกรีนเสร็จ ประตูตู้จะเปิดออกให้ใส่ผ้าเข้าไป จากนั้นจะมีคนไปรับผ้าจากตู้ นำมาที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งทางพนักงานจะทำการ ติดบาร์โค้ดให้แก่ผ้าทุกชิ้น พร้อมทั้งถ่ายรูปก่อนจะอัพลงระบบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถ ติดตามสถานะของผ้าที่ซักได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะระบุว่าผ้าอยู่ที่ไหน ซักเสร็จเมื่อไหร และสามารถรับผ้าได้เมื่อใด จากนั้นผ้าทั้งหมดจะถูกส่งไปซักที่โรงซักผ้าโดยตรงก่อนนำผ้าส่งกลับตามตู้อีกครั้งเพื่อให้ลูกค้าสามารถไปรับกลับได้ตามตู้ที่ลูกค้าสะดวก โดยผ้าจะอยู่ในตู้ 48 ชม. หากลูกค้าไม่สะดวกมารับในช่วงเวลาดังกล่าวผ้าจะถูกนำกลับมาที่สำนักงานใหญ่ ก่อนระบบจะแจ้งให้ลูกค้าทราบเพื่อลูกค้าสามารถแจ้งที่รับผ้าใหม่เพื่อนำส่งอีกครั้ง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมและโปรโมชั่นได้ที่ https://www.washbox24.com/