เตือนภัย ! สาวนิยมต่างชาติ ระวังแก๊งหลอกโอนเงิน | คมชัดลึก

 

                      ระยะหลังมานี้มีหญิงชาวไทยจำนวนไม่น้อยนิยมมีสามีเป็นชาวต่างชาติ โดยใช้การสื่อสารผ่านเครือข่ายออนไลน์เป็นสื่อกลางในการติดต่อ ในจำนวนนั้นมีไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ ถูกหลอกให้เสียเงิน

 

                      น.ส.เอ (นามสมมุติ) วัย 30 ปีเศษ เป็นหญิงไทยรายหนึ่งที่ต้องการมีชีวิตที่ดีกว่า โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีชายชาวต่างชาติที่รักจริงสานรักสร้างครอบครัวที่มั่นคงร่วมกัน จึงใช้สังคมออนไลน์ชื่อก้องอย่าง “เฟซบุ๊ก” ติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติรายหนึ่งที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจฐานะดีในเกาหลีใต้

 

                      “Daring, Dear, Honey” เป็นข้อความเริ่มต้นที่หญิงชาวไทยรายนี้ได้รับการทักทายจากคู่สนทนาผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เลื่องชื่อ ซึ่งเป็นเช่นนี้ทุกวันและทุกครั้งที่มีโอกาสสนทนากัน และมักตามด้วยข้อความในทำนองขอสานสัมพันธ์คบหาพูดคุยในสถานะคนรักกัน

 

 

 

 

                      “เขาแนะนำตัวว่าเป็นพ่อม่ายมีลูกติด 1 คน หย่าร้างกับภรรยามาประมาณ 1 ปี ทำธุรกิจอยู่ที่เกาหลี พอคุยได้สัก 10 วัน เขาก็อ้างว่านำภาพของเราไปให้ลูกดูแล้วลูกเขาก็ชอบเรามากอยากจะมาเจอ อยากจะพาลูกสาวมาหา ทำให้รู้สึกว่าเขาจริงใจอยากคบเราจริงๆ เพราะว่าเขาจะพาลูกมาเจอ เราไม่คิดว่าเขาจะหลอกจนเกิดความรู้สึกที่ดี คุยกันมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเขาบอกว่าเมื่อมาหาเราแล้วให้เราพาเขาและลูกเที่ยวด้วย ก็บอกเขาไปว่าไม่มีรถยนต์จะพาเที่ยวนะ เขาก็บอกไม่เป็นไรให้ไปดูราคารถยนต์มาเลยว่าเท่าไหร่เขาจะส่งเงินมาให้ 3 ล้านบาท แต่ไม่โอนผ่านธนาคาร บอกเพียงว่าขอที่อยู่เราจะส่งเงินมาให้ในรูปแบบพัสดุซึ่งได้ให้ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ไว้สำหรับติดต่อไป” น.ส.เอ บอก

 

                      หญิงวัย 30 ปีเศษรายนี้อ้างว่า ไม่ได้คิดอะไรมากกระทั่งมีบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จัดส่งพัสดุโทรศัพท์แจ้งว่ามีพัสดุจากต่างประเทศส่งถึงเธอ

 

                      “มีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาหา บอกว่ามีพัสดุจากต่างประเทศส่งมาหาเรา ของอยู่ที่ภูเก็ต แต่จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพราะคนส่งไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมเป็นเงินจำนวน 2.5 หมื่นบาท โดยถามว่าเราพร้อมที่จะรับหรือจะให้ส่งคืนต้นทางดี ซึ่งก็ไม่ได้ฉุกคิดว่าจะถูกหลอก เพราะเขาบอกข้อมูลการจัดส่งอย่างละเอียด ระบุเที่ยวบินและสายการบินและเวลาเครื่องลงอย่างชัดเจนจึงโอนเงินไปให้ตามจำนวนที่ได้รับแจ้ง" น.ส.เอ กล่าว

 

                      อุบายต่อมาคือเมื่อ น.ส.เอ โอนเงินไปให้ 2.5 หมื่น บาทแล้วกลับไม่ได้รับพัสดุอย่างที่ได้รับแจ้งก่อนหน้านั้น โดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อเธอทางไลน์ อ้างว่าด่านตรวจเอกซเรย์พัสดุที่ส่งมาพบว่าเป็นเงินจำนวนมาก มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกเงิน หากต้องการรับพัสดุชิ้นนี้ต้องจ่ายเงินอีก 5 หมื่นบาท เพื่อจ่ายใต้โต๊ะจึงจะสามารถรับพัสดุได้ โชคยังดีที่หญิงรายนี้ฉุกคิดได้ไม่โอนเงินให้แก๊งมิจฉาชีพตามที่ได้รับการเรียกร้องอีก

 

                      พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.2 บก.ปอท. ให้ข้อมูลว่า ขบวนการหลอกให้หญิงไทยโอนเงิน โดยอาศัยสื่อออนไลน์ เช่นเฟซบุ๊กมีมานานแล้วและระยะหลังพบว่ามีหญิงไทยตกเป็นเหยื่อมากขึ้น มีการทำกันเป็นกลุ่ม แฝงอยู่กับการสนทนาหาคู่ในเว็บไซต์ต่างๆ รู้จักกันในกลุ่มว่า  “โรแมนซ์ สแกม” หรือ “เสน่หาออนไลน์” 

 

 

 

 

                      ข้อมูลการสืบสวนพบว่าผู้ที่มีพฤติการณ์เช่นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติกลุ่มผิวสีร่วมกับคนไทย โดยต่างชาติจะทำหน้าที่ในการใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนิยมสุดคือเฟซบุ๊ก เข้าไปหาผู้หญิงหลอกพูดคุยด้วยในทำนองชู้สาว เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะหลอกให้โอนเงิน

 

                      “เขาจะทำทีเข้ามาจีบ ใช้ข้อความในลักษณะอยากสร้างอนาคตด้วย โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นสาวโสด มีฐานะดีสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ การแสดงตัวของเขาจะใช้รูปถ่ายชาวต่างชาติหน้าตาดี บุคลิกดี วัยกลางคน อ้างมีฐานะดี มีอาชีพหน้าที่การงานที่มั่นคง พูดจาดี และอ้างว่าหย่าร้างกับภรรยาอยากสร้างครอบครัวใหม่ เมื่อใครหลงเชื่อดูมีท่าทีสนใจก็จะออกอุบายหลอกให้โอนเงินให้” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บอก

 

                      รูปแบบการหลอกของมิจฉาชีพนี้จะมีอยู่ 3 รูปแบบหลักคือ 1.อ้างว่าจะส่งเงินสดหรือของมีค่าทางพัสดุมาให้ แต่ต้องมีภาระภาษีต้องจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ 2.อ้างว่าป่วยหนัก หรือลูกถูกจับเรียกค่าไถ่ ให้เหยื่อโอนเงินไปช่วยเหลือ และ 3.ชักชวนลงทุนทำธุรกิจ โดยให้โอนเงินไปร่วมลงทุนอ้างว่าเป็นการสร้างอนาคตร่วมกัน

 

                      “มิจฉาชีพมักจะหลอกเหยื่อว่าได้ส่งของขวัญเป็นพวกเพชร ทอง เป็นของมีค่า แต่เหยื่อต้องจ่ายค่าภาษีเอง หรือได้ส่งเงินสดมาให้เป็นจำนวนมาก เข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน ต้องโอนเงินให้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้แล้วก็จะไม่สามารถติดต่อกับคนเหล่านี้ได้อีก ซึ่งอยากเตือนหญิงสาวที่ต้องการมีคู่ โดยเฉพาะที่ตั้งเป้าว่าเป็นชาวต่างชาติต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ยิ่งติดต่อสื่อสารในโลกออนไลน์ยิ่งต้องระวัง” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว

 

 

 

 

                      วิธีการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมีไม่มากนัก โดย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ แนะนำว่า อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ หากมีโอกาสพูดคุยสนทนากับใครให้ใช้วิจารณญาณ เป็นไปได้ยากที่ใครต่อใครจะชอบพอใครโดยยังไม่ทันเห็นหน้าเห็นตา ไม่แม้แต่รู้จักตัวตนที่แท้จริง และคงเชื่อได้ยากว่าบุคคลแปลกหน้าจะมอบเงินทอง ทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า ให้แก่ใครที่ไม่รู้จักกัน ที่สำคัญหากมีการยกสารพัดมาเป็นข้ออ้างในการให้คู่สนทนาโอนเงินให้แล้วเชื่อได้เลยว่าเป็นการหลอกลวงให้ยุติการสนทนาเสีย

 

                      พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เน้นย้ำว่า ข้ออ้างที่มักระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐให้ทำโน่นทำนี่ผ่านทางโทรศัพท์ และไม่มีที่จะบอกให้ประชาชนโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร เป็นค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากใครที่ประสบกับเหตุการณ์ลักษณะที่ว่ามาเชื่อได้เลยว่ากำลังจะถูกหลอก

 

                      "อยากให้ทุกคนรู้เท่าทันถึงพฤติการณ์ของคนร้าย พยายามอย่าคุยกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะในเรื่องของความรักโดยที่ไม่เห็นหน้ากัน แต่ถ้าห้ามใจไม่ได้แชทกับคนแปลกหน้าควรจะใช้เฟซไทม์หรือวิดีโอคอร์ให้เห็นหน้ากันเพื่อป้องกันการถูกหลอก การเล่นเฟซบุ๊กไม่ควรตั้งค่าเป็นสาธารณะให้ใครเข้ามาเห็นข้อมูลได้เพราะจะเป็นช่องทางในการหาเหยื่อของมิจฉาชีพ” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ แนะนำวิธีเอาตัวรอดจากแก๊งหลอกโอนเงิน

 

 

 

 

-------------------