ข่าว

ร็อดเจอร์สโดนปลดออกจากผจก.ทีมแล้ว

ร็อดเจอร์สโดนปลดออกจากผจก.ทีมแล้ว

05 ต.ค. 2558

หงส์เจ๊าทอฟฟีขณะที่เชลซี-ผีพ่าย ร็อดเจอร์สโดนปลดออกจากผจก.ทีมแล้ว

              ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม เป็นนัด “เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีแมทช์” ของสองทีมร่วมเมืองลิเวอร์พูล ปรากฏว่า “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เจ้าบ้าน เสมอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมเยือน 1-1 ที่สนามกูดิสัน ปาร์ค โดยลิเวอร์พูล บุกนำก่อนจากการโขกของ แดนนี อิงค์ส นาที 41 ทว่าเอฟเวอร์ตัน ตามตีเสมอได้จาก โรเมลู ลูกากู นาที 45 ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ลิเวอร์พูล ประกาศปลด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ออกจากตำแหน่ง ผู้จัดการทีมแล้ว หลังจากผลนัดนี้ทำให้มี 12 แต้ม จาก 8 นัด อยู่อันดับ 10 ของตาราง

              สำหรับร็อดเจอร์ส ย้ายจาก "หงส์ขาว" สวอนซี มาคุมทีมหงส์แดงแทนที่ เคนนี เดลกลิช เมื่อเดือน มิ.ย. 2012 และไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ใดๆ โดยผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 2 ในลีกเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ส่วนคนที่จะมารับหน้าที่แทนนั้น คาดว่าจะเป็น เจอร์เกน คลอปป์ อดีตกุนซือ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกาเยอรมนี

              ขณะที่ ชูเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี แชมป์เมื่อฤดูกาลแข่งขันที่แล้ว แต่กลับนำลูกทีมแพ้ไปแล้ว 4 หน จาก 8 นัดแรกของฤดูกาลแข่งขัน 2015-2016 โดยล่าสุดพ่าย “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน 1-3 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม ทั้งที่เกมนี้เจ้าบ้านขึ้นนำก่อนจากฟรีคิกของ วิลเลียน นาที 10 ทว่าทีมเยือนมายิงคืน 3 ประตูรวดจาก สตีเวน เดวิส นาที 44, ซาดิโอ มาเน นาที 60 และกราเซียโน เปลเล นาที 73 ส่งผลให้เชลซีมีเพียง 8 แต้ม อยู่อันดับ 16 ห่างจาก “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ทีมอันดับ 18 พื้นที่ตกชั้นทีมสุดท้าย 4 แต้ม

              ด้าน มูรินโญ วัย 52 ปี ที่เพิ่งออกมากล่าวก่อนเกมว่า อยู่ในช่วงลำบากที่สุดในชีวิตกุนซือฟุตบอล เมื่อจบเกมแล้วถึงกับพูดเรื่องอนาคตผู้จัดการทีมเชลซีว่า เข้าใจสภาพหากคณะกรรมการบริหารจะไม่พอใจและจะไล่ออก แต่จะไม่ขอลาออกเอง เพราะไม่ใช่คนหนีปัญหาเนื่องจากทีมชุดเดียวกันนี้เคยเป็นแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อน และในยามที่ทีมมีปัญหาทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมหรือนักฟุตบอล ดังนั้นจะไม่ทิ้งปัญหาไว้ให้ใครมาตามแก้แต่ขอติงถึง โรเบิร์ต มัดลีย์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวว่า การทำหน้าที่ผิดพลาดไม่ให้ลูกโทษกับเชลซี ในขณะที่เกมยังเสมอกัน 1-1 เป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ เพราะถ้าหากเชลซีได้ลูกโทษและยิงเข้า เวลาที่เหลือหลังจากนั้นรูปเกมจะเปลี่ยนไปอีกแบบ

              “การที่ทุกคนมองว่า ดิเอโก คอสตา เป็นกองหน้าที่ไม่สะอาด และดูเหมือนจะใช้ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดไปกันหมดแล้วว่า ถ้าผู้เล่นของเชลซี คนใดก็ตามล้มในกรอบเขตโทษ คือการเล่นละคร คุณอาจไม่ชอบคอสตา นั่นเป็นเรื่องของคุณ แต่คุณต้องทำหน้าที่ให้ยุติธรรมด้วย ไม่ใช่อคติส่วนตัว ส่วนเรื่องที่ว่า ผมจะลาออกหรือไม่ ผมบอกได้เลยว่า ผมไม่ลาออก เพราะผมต้องรับผิดชอบทีมของผม ฤดูกาลแข่งขันยังเพิ่งผ่านไป 8 นัดแรก อย่างเลวร้ายที่สุด ผมน่าจะนำทีมกลับขึ้นสู่ 4 อันดับแรก พื้นที่สโมสรยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้แน่นอน แต่หากทีมจะไล่ผมออก คุณก็ต้องยอมรับว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ถ้าคุณไล่ผมออก ก็เท่ากับว่าคุณไล่ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของทีมออกไปด้วย”

              ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี จ่าฝูงจาก 6 นัดแรก แต่เสียตำแหน่งให้ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ต่อสู้ร่วมเมือง ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน กลับเข้าสู่มาตรฐานเดิมของตัวเอง เมื่อเอาชนะ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 6-1 ที่สนามอิติฮัด ของตัวเอง ทั้งที่ทีมเยือนขึ้นนำก่อนจาก อเลกซานดาร์ มิโตรวิช นาที 18 ทว่าเจ้าบ้านมายิงคืนครึ่งโหลจาก เซร์คิโอ “กุน” อาเกโร คนเดียว 5 ประตู นาที 42, 49, 51, 60 กับ 62 และอีกประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์ นาที 54 ซึ่งการยิงคนเดียว 5 ประตูใน 20 นาที ของอาเกโร ทำให้ดาวยิงอาร์เจนไตน์ วัย 27 ปีผู้นี้ ทำสถิติยิง 5 ประตูในเกมเดียวเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลังจาก เจอร์เมน เดโฟ เคยทำไว้เมื่อปี 2009 ในเกมช่วย “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ต้นสังกัดขณะนั้น ชนะ วีแกน แอธเลติก 9-1 ที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน

              และจากชัยชนะเกมนี้ส่งผลให้แมนฯ ซิตี มีเพิ่มเป็น 18 แต้ม กลับขึ้นมาอยู่อันดับ 1 อีกครั้ง โดยทิ้งแมนฯ ยูไนเต็ด ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด 2 แต้ม ขณะที่ นิวคาสเซิล แข่ง 8 นัด ยังไม่ชนะใคร มี 3 แต้ม ตกอยู่อันดับ 20 หรืออันดับสุดท้ายในพื้นที่ตกชั้น ห่างจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ทีมอันดับ 17 ก่อนพื้นที่ตกชั้น 5 แต้ม

              สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกคู่ในคืนเดียวกัน มีดังนี้ คริสตัล พาเลซ ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-0, บอร์นมัธ เสมอ วัตฟอร์ด 1-1, แอสตัน วิลลา แพ้ สโตค ซิตี 0-1, แมนฯ ซิตี ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 6-1, นอริช ซิตี แพ้ เลสเตอร์ ซิตี 1-2, ซันเดอร์แลนด์ เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2, เชลซี แพ้ เซาแธมป์ตัน 1-3 แมนฯ ยูไนเต็ด พ่าย อาร์เซนอล 0-3