'เต้น'ข้องใจ'อ๊อด'ชูธงการเมือง | คมชัดลึก

 

                      29 ก.ย. 58  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงสรุปผลการสืบสวนสอบสวน คดีคนร้ายวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร โดยยังไม่ตัดประเด็นการเมือง เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ์ พบแก้ว ซึ่งมีประวัติต้องโทษคดีอาญา ในปี พ.ศ. 2553 และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ในการคลี่คลายคดีดังกล่าว แต่อยากเรียกร้องให้ สตช.ตั้งหลักให้ดีว่า จะทำคดีตามพยานหลักฐาน หรือทำตามใจผู้มีอำนาจ

 

                      เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า เท่าที่ตามข่าวมาตลอด พบว่า เหตุดังกล่าวมาจากกรณีการส่งผู้อพยพชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน แต่วันนี้กลับบอกว่าเป็นประเด็นการเมืองจนทำให้สังคมเกิดการไขว้เขว แม้มีข้ออ้างเดียว คือ ตัวนายอ๊อดซึ่งอยู่ๆ ก็โผล่เข้ามาโดยไม่ปรากฏมาก่อนว่าเกี่ยวข้องอย่างไร และสังคมยังสงสัยว่าตัวนายอ๊อดที่ถูกอ้างว่ามีคดีอาญามากมายนั้น เหตุใดจึงหาประวัติไม่ได้ แม้แต่เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ด้วยเหตุนี้ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่พูดความจริงกับสังคม

 

                      นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าอ้างว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะความไม่พอใจต่อการปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ถูกจับกุม แต่ชาวอุยกูร์กลุ่มที่มีปัญหานั้นถูกจับปี 2557 และหากเป็นในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถ้าเขาจะไม่พอใจ ก็ไม่น่าจะความรู้สึกช้าจนเกือบ 2 ปี ค่อยลงมือ แต่สถานการณ์มันรุนแรงขึ้นหลังจากที่มีการส่งชาวอุยกูร์กลุ่มหนึ่งกลับจีน ตรงนี้คือมูลเหตุที่แท้จริง ตนไม่คิดว่าจะมีขบวนการค้ามนุษย์ที่ไหนโกรธแค้นที่ถูกจับกุมจนต้องก่อการร้าย เช่น มีการกวาดล้างการค้ามนุษย์โรฮิงญา จับไปก็มาก แต่ไม่มีเหตุอะไร เพราะโดยทั่วไปเหตุลักษณะแบบนี้ไม่เกิดขึ้นหากไม่มีแรงจูงใจที่มากกว่าผลประโยชน์ของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น

 

                      "ถ้า พล.ต.อ.สมยศ จำเป็นต้องแถลงตามความต้องการของผู้มีอำนาจ ซึ่งโฆษกรัฐบาลตั้งธงไว้ตั้งแต่เกิดเหตุแล้วว่าเกี่ยวโยงกับการเมือง ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ คำนึงถึงความรับผิดชอบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย หากประเมินผิดหรือจงใจอย่างนั้น ปัญหาแท้จริงจะไม่ถูกแก้ไข และไม่สามารถรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุแบบนี้จากขบวนการเดิมอีก ผมไม่รู้ว่านายอ๊อดที่ถูกกล่าวอ้างนั้นเป็นใคร แต่ขอให้นายอ๊อดอีกคน คือ ผบ.ตร. ต้องระมัดระวังการให้ข้อมูลข่าวสารด้วย เพราะ นปช.ไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เดาได้ไม่ยากว่า หากทิศทางของคดีออกมาลักษณะนี้ นปช.จะได้รับผลกระทบ"

 

                      เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยในข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่า ตนไม่เคยได้ยินชื่อของนายอ๊อดมาก่อนในชีวิต และจากการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคดีนี้ ก็ไม่ปรากฏชื่อนายอ๊อดมาก่อน ซึ่งต่อมาชื่อนี้กลับกลายเป็นกุญแจสำคัญที่มาเชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมือง จะเห็นว่าคำพูดของผู้หลักผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ค่อยน่าเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ เป็นคนพูดเองว่า เหตุดังกล่าวมาจากกรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน แต่เมื่อถูกนายกรัฐมนตรีเบรกไว้ จึงต้องพูดใหม่ เพราะการแถลงของ พล.ต.อ.สมยศ จะทำให้ประเทศไทยเกิดความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้พูดอย่างตรงไปตรงมา ทั้งยังเบี่ยงเบนประเด็น ทำให้ทั่วโลกที่กำลังจับตามองไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของไทยมากขึ้น