ข่าว

ตำรวจฮือต้านสตช.‘ตั๊น’จิตภัสร์เป็นร.ต.ต.

ตำรวจฮือต้านสตช.‘ตั๊น’จิตภัสร์เป็นร.ต.ต.

20 ก.ย. 2558

ตำรวจฮือต้าน สตช. รับ “ตั๊น” จิตภัสร์ เป็นร้อยตำรวจตรี นัดติดริบบิ้นดำที่วิทยุสื่อสารเป็นสัญลักษณ์อัดผู้บังคับบัญชาไม่เห็นหัว ชี้ชั้นประทวนจบตรี-โท-เอกหลายหมื่น

              กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที หลังจากเฟซบุ๊ก “Thailand Police Story” เผยแพร่รายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น อดีตแกนนำ กปปส. เป็นบุคคลผู้เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคุณสมบัติวุฒิปริญญาโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ หรือการปกครอง และมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ โดยระบุว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังประมวลผลดำเนินการรับ น.ส.จิตภัสร์ เข้าเป็นข้าราชการตำรวจยศร้อยตำรวจตรี โดยจะดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) กองบัญชาการตำรวจนครบาล เบื้องต้นจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณา พร้อมให้เหตุผลว่ามีความรู้ด้านประสานงานต่างประเทศตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลต้องการ

              ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากกระแสข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ตำรวจไทย สู้ๆ ได้ออกมาคัดค้านต่อกรณีดังกล่าวโดยโพสต์ภาพเหตุการณ์เมื่อปี 2557 ระหว่างการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งมวลชน กปปส.ได้ทุบทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้อความบนภาพระบุว่า “ตำรวจทั่วประเทศน้ำตาคลอ เมื่อเห็นป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติถูกทำลาย”

              ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุในเฟซบุ๊ก ตำรวจไทย สู้ๆ ว่า “ทำถูกต้อง หรือทำถูกใจ” ตามที่ทุกคนได้ยินข่าวมาว่า ทาง ตร.กำลังดำเนินการรับอดีตแกนนำ กปปส.คนหนึ่ง มาเป็นตำรวจ “ยศ ร.ต.ต.หญิง” โดยให้เหตุผลว่า มีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ เนื่องจาก บช.น.ต้องการบุคลากรมาปฏิบัติหน้าที่ด้านประสานงานต่างประเทศ เมื่อเห็นข่าวนี้แล้วเศร้าใจจริงๆ ตำรวจบางคนก่อนจะมาเป็นนายตำรวจได้ “เลือดตาแทบกระเด็น” ต้องเรียนจบนิติศาสตร์ ก่อนจะจบเนติบัณฑิต ก่อนจะสอบติดตำรวจชั้นประทวน และก่อนจะสอบติดนายร้อยตำรวจ อ่านหนังสือจนปวดหัว จะเป็นบ้า ปากกัดตีนถีบ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นตำรวจ....และนี้อะไร!! จะรับคนเข้ามาเป็นตำรวจ โดยให้เหตุผลเพียงเท่านี้....ตร.ลืมไปแล้วหรือไม่ ยังมีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ พิการ จนถึงขั้นเสียชีวิต ครอบครัวเขาเดือดร้อน ยังนอนรอความช่วยเหลืออีกมาก แต่ไม่ได้รับความใส่ใจจาก ตร.เลยสักนิด

              แม้กระทั่งตำรวจชั้นประทวน ที่จบ ป.ตรี ป.โท ป.เอก เป็นหมื่นๆ เป็นแสน ไม่ปรับให้เป็นนายตำรวจ กลับไปรับคนนอกที่เคยยืนด่าตำรวจบนเวทีมาเป็น และเด็กตาดำๆ ลูกคนยากคนจน ที่อยากจะเป็นตำรวจล่ะครับ อยากมีอาชีพที่มั่นคง เพื่อจะมีเงินเดือนไปเลี้ยงดูพ่อแม่เขา ไม่เห็นคุณค่าของเขารึ จะให้คำตอบกับบุคคลเหล่านี้ ว่าอย่างไร อ้างแต่เพียงว่ามีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ จบสูง จบจากต่างประเทศ...และทำไม ไม่ให้สอบเข้ามา ว่าความรู้เหมาะสมที่จะเป็นตำรวจหรือไม่ ทำแบบนี้เหมือนการฆ่าตำรวจด้วยกันเอง นอกจากจะเรียกศรัทธาจากลูกน้องไม่ได้แล้ว ยังทำให้ศรัทธาแย่ลงกว่าเดิมอีก จึงขอรณรงค์ให้ตำรวจ และผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการรับ น.ส.จิตภัสร์ เข้ารับราชการผูกริบบิ้นสีดำที่เสาวิทยุสื่อสารต่างๆ

              “แสดงจุดยืน” ไม่เห็นด้วยกับการรับบุคคลที่ทำลายตำรวจเข้ามาเป็นตำรวจ ด้วยการ #ผูกริบบิ้นสีดำ ที่เสาวิทยุสื่อสาร เสาวิทยุติดรถยนต์ หรือกระจกมองข้างรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ของคุณ"

              วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า กระบวนการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้าเป็นข้าราชการตำรวจตามคุณวุฒิขาดแคลนนั้น หน่วยงานต้นสังกัดจะต้องนำเสนอความต้องการที่จะบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่มีคุณวุฒิความรู้ความสามารถพิเศษตรงความต้องการของหน่วย ในสาขาวิชาต่างๆ ตามที่แต่ละหน่วยงานมีความต้องการ โดยเสนอขออนุมัติหลักการมาที่ ตร. และเมื่อ ตร.อนุมัติหลักการแล้ว แต่ละหน่วยงานมีหน้าที่ไปดำเนินการคัดเลือก และสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมบรรจุลงในตำแหน่งนั้นๆ ซึ่งในกรณีนี้เป็นหน้าที่ของกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) เป็นผู้รับผิดชอบในการคัดเลือก และสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและคุณวุฒิตามที่ต้องการมาบรรจุลงในตำแหน่งดังกล่าว โดยเสนอผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อขออนุมัติและขอความเห็นชอบจาก ตร.

              ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า กรณีนี้ได้รับรายงานว่าอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบข้อมูล ประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัครเท่านั้น ยังไม่เป็นข้อยุติว่าจะบรรจุแต่งตั้งใคร หรือไม่อย่างไร จะต้องรอผลการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ก่อน ถ้าหากบุคคลเหล่านั้นมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย ก็ไม่สามารถที่จะบรรจุแต่งตั้งบุคคลเหล่านั้นได้ อีกทั้งหากผ่านการพิจารณาของหน่วยงานเหล่านั้นแล้ว ก็ยังต้องเสนอขออนุมัติขอความเห็นชอบจาก ตร.อีกด้วย ซึ่ง ตร.โดยสำนักงานกำลังพลจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยยึดหลักความถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายอีกชั้นหนึ่ง

              “ผมในฐานะ ผบ.ตร.ขอยืนยันกับเพื่อนข้าราชการตำรวจว่า จะใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยยึดหลักความเหมาะสม ถูกต้อง ระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนกฎหมายเป็นสำคัญ อีกทั้งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

              เกี่ยวกับกระแสคัดค้านดังกล่าว วันเดียวกัน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 (ผบก.สปพ.) ออกมาชี้แจงว่า เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นผู้เปิดรับสมัครบุคคลภายในเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรในสังกัด บช.น. ทาง น.ส.จิตภัสร์ ได้สมัครเข้ามาสู่ขั้นตอนการคัดเลือก โดยได้สอบสัมภาษณ์พร้อมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จากนั้นได้เสนอชื่อไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณา เมื่ออนุมัติก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนติดยศให้เป็น ส.ต.ต.ก่อน เมื่อผ่านการอบรมตำรวจชั้นสัญญาบัตรประมาณ 4-6 เดือนแล้วจึงจะสามารถเข้าบรรจุในตำแหน่ง รอง สว.ฝ่ายอำนวยการ บก.สปพ.ได้

              “ยืนยันว่าผมไม่มีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากต้องเป็นอำนาจของ บช.น.เสนอมาที่ บก.สปพ. โดยได้รับความเห็นชอบจากทาง ตร.อนุมัติ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ น.ส.จิตภัสร์ เข้ามาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทาง บก.สปพ.ต้องการเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษมาทำงานร่วมกัน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้ น่าเสียดายที่ทราบข่าวว่า น.ส.จิตภัสร์ จะไปยื่นเรื่องถอนชื่อออกจากการเสนอเข้ารับราชการตำรวจในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ที่ ตร.” พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าว