อสังหาฯสบช่องอัดแคมเปญเจาะนักลงทุน | คมชัดลึก

 

                      แม้จะมีหลายกระแสพูดถึงปริมาณคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ว่าเริ่มล้นตลาดแล้ว แต่ในอีกบางความเห็นของผู้ประกอบการบอกว่าเป็นเพียงบางเซกเมนต์ บางทำเลเท่านั้น เพราะแรงจูงใจในการลงทุนคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อปล่อยเช่ายังมีอยู่มาก ปัจจุบันการลงทุนในคอนโดมิเนียมยังได้รับความนิยมติดอันดับต้นๆ ในกลุ่มนักลงทุนยุคนี้

 

                      นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาดบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกระทบต่อบรรยากาศการตลาดและการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เชื่อว่ายังมีกลุ่มคนที่มีเงินออมและกลุ่มนักลงทุนนำเงินมาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอาจจะมีการเคลื่อนย้ายเงินฝากจากคนที่ไม่เคยลงทุนเลยมาลงทุนในอสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียม เนื่องมาจากกรณีการลดการคุ้มครองเงินฝากจาก  50 ล้านบาทต่อบัญชีต่อธนาคาร ลงเหลือ 25 ล้านบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะลดลงเหลือ 1 ล้านบาท ในวันที่ 11 สิงหาคม 2559

 

 

 

 

                      นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีที่ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2558 เป็นต้นไปจะเป็นการรวมตัวของประเทศในกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศตามกรอบการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ก็น่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อีกมาก พร้อมทั้งระดับราคาของคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวและใจกลางธุรกิจ (ซีบีดี) ในอีก 10 ปีข้างหน้า ราคาจะเพิ่มมากกว่าปัจจุบันประมาณ 60-80% และในเขตเมืองชั้นในอาจจะมากกว่า 150% เพราะราคาที่ดินปรับขึ้นอย่างน้อย 10-20% ต่อปี

 

                      สอดคล้องกับนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ที่ให้ความเห็นว่า ที่ดินที่มีศักยภาพในย่าน ซีบีดี หายากมาก เมื่อที่ดินในเมืองเหลือน้อยลง ราคาอสังหาฯ ก็จะถีบตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดก็จะสูงขึ้นตาม ในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดคนมีเงินจะกระจายความเสี่ยงหันมาลงทุนซื้อคอนโดเพิ่ม แทนการนำเงินไปลงทุนในตลาดทุนที่ขณะนี้ตลาดหุ้นก็มีความผันผวนค่อนข้างสูง อีกทั้งราคาอสังหาฯ เมืองไทยถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับภูมิภาค เช่น ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ ประกอบกับผู้ประกอบการโครงการต่างก็จัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งคนกลุ่มนี้จะนิยมซื้อโครงการเสร็จสมบูรณ์หรือใกล้แล้วเสร็จ

 

 

 

 

 

                      ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสหรือเพิ่มช่องทางการลงทุนให้แก่นักลงทุน นายธงชัย กล่าวว่า บริษัทยังมั่นใจว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยเช่นนี้ เชื่อว่าการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นไปยังอสังหาริมทรัพย์จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า จึงเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดแนวใหม่ “PARK24 Believe in Thailand” กับโปรโมชั่นหุ้นแลกห้อง ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งมุ่งเจาะกลุ่มนักลงทุนไทย โดยนำหุ้นในดัชนี SET50 มาแลกเป็นเงินดาวน์ 20% ในโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ได้โครงการจะคิดมูลค่าหุ้นที่จะทำการแลกเปลี่ยน จากดัชนีปิดสูงสุดที่ระดับ 1,615 จุด ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558

 

                      โปรโมชั่นหุ้นแลกห้อง สงวนสิทธิ์ให้สำหรับนักลงทุนที่ตัดสินใจซื้อโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 เพียง 20 ยูนิต

 

 

 

 

                      ขณะที่ผู้บริหารของณุศาศิริ กล่าวว่า จากการมองเห็นโอกาสทางการตลาดในกลุ่มนักลงทุน บริษัทได้เดินหน้าการขายผ่านโปรแกรม “ณุศา วัน” (NUSA ONE) เป็นโปรแกรมการลงทุนหนึ่งที่ได้สร้าง “มิติใหม่การลงทุน แบบไร้ความเสี่ยง” แทนผู้บริโภคที่ต้องการสร้างอนาคตทางการเงินให้มั่นคงผ่านการซื้อห้องชุดในคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนขึ้นมา ตอบสนองทั้งมือใหม่หัดลงทุนคอนโด และมือเก๋าที่ลงทุนคอนโดเป็นอาชีพ รวมถึงคนที่เกษียณแล้วมีเงินเก็บออม แต่ไม่ทราบว่าจะเอาเงินไปลงทุนอะไรดีถึงจะเพิ่มพูนเงินในกระเป๋า

 

                      จึงได้จัดงานสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนรูปแบบใหม่ ไร้ความเสี่ยง“ ณ ห้องประชุม ศูนย์สุขภาพพานาซี ชั้น 3 อาคารบางกอกเมดิเพล็กซ์เซ็นเตอร์ (ติดบีทีเอสเอกมัย) ในวันที่ 16 กันยายน 2558 เวลา 13.00-14.00 น. ซึ่งมี "คุณปิง" ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กูรูด้านการลงทุนอสังหาฯ มาเป็นวิทยากรให้ข้อมูลโอกาสและการลงทุนอย่างไรถึงจะปลอดภัย ไร้ความเสี่ยง

 

                      นอกจากนี้ยังมีการเจาะกลุ่มนักลงทุนด้วยการออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศ อาทิ แสนสิริ ที่อาศัยค่าเงินบาทอ่อน นำ 6 โครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และภูเก็ต โรดโชว์ตลาดสิงคโปร์-ฮ่องกง-ไต้หวัน กระตุ้นต่างชาติช็อปอสังหาฯ ไทยต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าบุกตลาดใหม่ “ปักกิ่ง” รับดีมานด์คนรวยจีน พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายลูกค้าต่างชาติกว่า 3,000 ล้านบาท ในปีนี้

 

 

 

 

---------------------