
พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิตไอเกมฆ่าข่มขืน
14 ก.ย. 2558
ศาลอุทรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตไอ้เกมจำเลยในคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย13ปีบนรถไฟญาติผู้เสียหายพอใจในคำพิพากษาส่วนจำเลยมีสิทธิ์ยื่นฎีกาภายใน30วัน
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2558 ศาลหัวหิน นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทรณ์ภาค7 คดีฆ่าข่มขืน”เด็กหญิง 13 ปี” บนขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1407/2557 และคดีหมายเลขแดงที่ 1880/2557 ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 ศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษาประหารชีวิตนายวันชัย แสงขาว พนักงานปูเตียงบนรถไฟขบวนเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ผู้ก่อเหตุกระทำชำเราเด็กหญิง 13 ปี ก่อนโยนศพทิ้งหน้าต่างรถไฟเมื่อคืนวันที่ 5 กรกฎาคม ต่อเนื่องวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นการกระทำผิดที่อุกอาจ โหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม แม้จำเลยที่1 ให้การรับสารภาพ แต่ก็เพราะจำนนด้วยพยานหลักฐาน พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ จึงพิพากษาลงโทษสถานหนักให้ประหารชีวิต
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวันชัย บุนนาค ทนายโจทก์ร่วม พร้อมด้วยญาติของเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้เดินทางมายังศาลหัวหิน เพื่อรอรับฟังคำพิพากษา พร้อมระบุว่า ฝ่ายโจทก์ร่วมคือ ครอบครัวผู้เสียชีวิต ก็ยื่นหนังสือให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้พิจารณาคดียืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษสถานหนัก
สำหรับในวันนี้ มารดาของเด็กหญิงไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากอยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังหารผ่าตัดช็อกโกแลตซีส เมื่อประมาณ 1 เดือน ขณะนี้สภาพจิตใจของครอบครัวดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ลืมเหตุการณ์เกิดขึ้น ยังคงทำบุญให้น้องประจำ
นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังกล่าวอีกว่า ได้รับการชดเชยจากการรถไฟแห่งประเทศไทยมาแล้ว ประมาณ 8.5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับค่าเยียวยาจากส่วนอื่น และค่าทำศพก็น่าจะรวมแล้วเกือบสิบล้านบาท แม้จะดูเป็นจำนวนเงินที่เงินที่มาก แต่ไม่ไม่สามารถทดแทนหรือชดเชยความสูญเสียของครอบครัวได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 9.45 น. เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำตัว นายวันชัย แสงขาว หรือ “เกม จำเลยที่ 1 ซึ่งเรือนจำบางขวาง ได้เบิกตัวนำมาส่งที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยในวันนี้นายวันชัย ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกันที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 นายชัยรัตน์ ชูแก้ว ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านพิพากษา โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า นายวันชัย แสงขาว จำเลยที่1 ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาประหารชีวิตของศาลชั้นต้น โดยอ้างว่าสำนึกผิดแล้ว เพื่อขอให้ศาลปราณีบรรเทาโทษและลงโทษสถานเบานั้น คำสารภาพฟังไม่ขึ้น ไม่จำเป็นต้องฟังคำรับสารภาพของจำเลย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ คงให้ยืนโทษตามศาลชั้นต้น ตัดสินประหารชีวิต นายวันชัย แสงขาว จำเลยที่ 1 ซึ่งระหว่างที่ศาลอ่านคำพิพากษา นานประมาณ 20 นาที นั้น นายวันชัย แสงขาว ยังคงมีท่าทีและสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา แม้ศาลจะอ่านคำพิพากษาจนจบแล้วก็ตาม
ภายหลังการพิพากษา เสร็จสิ้น นายวันชัย บุญนาค ทนายโจทย์ร่วม พร้อมด้วยญาติของด.ญ.วัย 13 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า ทางญาติพอใจในคำตัดสินของศาล และทางญาตมีความมั่นใจในขบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยศาลได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งทางตนและญาติเพียงแต่ติดตามเท่านั้น
ทางด้านนายสมเจตต์ อำนวยสวัสดิ์ หัวหน้าศาลอุทธรณ์ ภาค 7 กล่าวว่า จำเลยยังคงมีสิทธิที่จะยื่นฎีกาได้ตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องดูประเด็นว่าจะมีการโต้แย้งในประเด็นใดบ้าง ก็จะแก้ฎีกาไป แต่ในส่วนของฎีกานั้นทางตนคงไม่ยื่น หากจำเลยที่ 1 เห็นว่าคำพิพากษาของศาลยังมีความไม่เหมาะสม ก็สามารถยื่นฎีกาได้