
อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง3ถูกเก๋งเบียดชนราวสะพานบาดเจ็บ
07 ก.ย. 2558
"สิทธิชาติ บุญมานนท์" อดีตผู้ประกาศข่าวพระราชสำนักไทยทีวีสีช่อง 3 ขับรถเสียหลักพุ่งชนราวสะพาน อีกรายวัยรุ่นซิ่งจยย.ชนท้ายรถบรรทุกดับคาที่เพื่อนสาวบาดเจ็บ
วันที่ 7 กันยายน 2558 ร.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 6 กันยายน เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณ ถนนปทุมธานี-รังสิต มุ่งหน้ารังสิตทางขึ้นสะพานปทุมธานี 1 ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน วฬ 949 กรุงเทพมหานคร เสียหลักชนราวสะพานขวางถนนอยู่สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินส่วนคนขับทราบชื่อนายสิทธิชาติ บุญมานนท์ อายุ 70 ปี อดีตผู้ประกาศข่าวพระราชสำนักทีวีช่อง3 ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติไปก่อนหน้านี้แล้ว ใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฐร 2418 กรุงเทพมหานคร สภาพรถล้อแม็กหน้าด้านซ้ายแตกได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบถามนายสิทธิชาติ บุญมานนท์ บอกว่า ตนไปเปิดร้านขายเบเกอรี่ย่าน อ.สามโคก และกำลังจะกลับบ้านย่านรังสิต เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนขับอยู่เลนขวาและรถคู่กรณีขับส่ายไปส่ายมาและมาเบียดกับรถของตน จึงทำให้ต้องหักหลบและชนกับราวสะพานทำให้ตนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนคนขับรถเก๋งคู่กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปทุมธานีแล้ว
หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมารถเก๋งของนายสิทธิชาติ ถูกรถเก๋งขับมาชนได้รับบาดเจ็บนั้น ได้มาพักรักษาตัวที่บ้านพักหมู่บ้านพูนลาภเลขที่115/14ม.3ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ระบุว่าถุงใต้ตาแตกและเย็บไป 6 เข็ม ข้อศอกซ้ายฟกช้ำ ส่วนเรื่องของคดีความ ร.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่ารถคู่กรณียอมรับว่าตนเองขับรถประมาณและยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บต่อไป
หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมารถเก๋งของนายสิทธิชาติ ถูกรถเก๋งขับมาชนได้รับบาดเจ็บนั้น ได้มาพักรักษาตัวที่บ้านพักหมู่บ้านพูนลาภเลขที่115/14ม.3ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ระบุว่าถุงใต้ตาแตกและเย็บไป 6 เข็ม ข้อศอกซ้ายฟกช้ำ ส่วนเรื่องของคดีความ ร.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่ารถคู่กรณียอมรับว่าตนเองขับรถประมาณและยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บต่อไป
วัยรุ่นซิ่งจยย.ชนท้ายรถบรรทุกดับคาที่เพื่อนสาวบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 6 กันยายน ร.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข ร้อยเวรสอบสวนสภ. เมืองปทุมธานีรับแจ้งเหตุมีรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถสิบล้อ บริเวณเชิงสะพานปทุมธานี 2 มุ่งหน้ารังสิต หมู่ที่ 3 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1ราย อยู่ในสภาพนั่งที่รถจักรยานยนต์ ทราบชื่อคือนายกันติทัต บุญตะวัน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/13 หมู่ที่ 5 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี และเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ขาว-น้ำเงิน ทะเบียน ขวท 126 สุรินทร์ ที่มุดเข้าไปใต้ท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีส้ม หมายเลขทะเบียน 80-4151 ปทุมธานี ที่บรรทุกปั่นจั่นมา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง1ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งโรงพยาบาลปทุมเวชเบื้องต้น ทราบชื่อคือนางสาว อัญชลี สุขประเสร็ฐ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 13 ต.บัวโคก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณขาด้ายซ้ายหัก
จากการสอบถามนายถิรยุทธ์ จันทร์ไทย อายุ 44 ปี เป็นคนขับรถสิบล้อให้การว่า ตนเองขับรถมาจาก ถนนตลิ่งชันสุพรรณบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปคลอง 12 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณสะพานปทุมธานี 2 และเป็นจังหวะรถที่กำลังขึ้นสะพานและช้า ตนเองได้เปิดไฟกระพริบๆ ตลอดและก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรมาชนที่ท้ายรถจึงลงมาดูจึงพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ พุ่งชนท้ายอย่างจัง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมานางสาววีณา อรุณรักษ์ แม่ของผู้เสียชีวิตมาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นลูกถึงกับร้องให้และบอกว่า ลูกชายพึ่งส่งไลน์ไปบอกว่าได้งานทำแล้ว เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ผ่านมานี้เอง แต่ก็ไม่นึกว่าจะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ และหาสาเหตุอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมนำตัวคนขับสิบล้อไปสอบสวน ที่โรงพักเบื้องต้น ส่วนผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป