ญาติหนุ่มนราฯมั่นใจไม่เกี่ยวบึ้มราชประสงค์
ญาติหนุ่มนราฯมั่นใจไม่เกี่ยวบึ้มราชประสงค์
เป็นเรื่องแปลกที่จนถึงขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ยืนยันข้อมูลการควบคุมตัว นายกามารุเด็ง (ขอสงวนนามสกุล) ในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดย่านราชประสงค์และท่าเรือสาทร ทั้งที่ข่าวจากทางทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงยืนยันตรงกันหมดแล้วว่า ได้เชิญตัวไปซักถามตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา จากนั้นถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ และถูกควบคุมตัวอยู่ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจของทหารในพื้นที่ชายแดนใต้ต่างก็ปิดปากเงียบ ทั้งที่มีรายงานการเชิญตัวไปซักถามอย่างชัดเจน
เหตุนี้เองทำให้ครอบครัวและญาติมิตรของนายกามารุเด็งพากันหวาดวิตก “มะรอดี บินสามะแอ” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของนายกามารุเด็ง เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่มีข่าวนายกามารุเด็งถูกควบคุมตัว ทั้งญาติและเพื่อนๆ ของนายกามารุเด็งได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของเขา และทางครอบครัวก็เตรียมจะขอเข้าเยี่ยมนายกามารุเด็งด้วย เพราะหลังจากถูกควบคุมตัวไปทางครอบครัวไม่ทราบเลยว่าถูกคุมตัวอยู่ที่ไหน
“ผมเป็นผู้ใหญ่บ้านก็จริง แต่ก็รู้จักและดูแลกามารุเด็งตั้งแต่ยังเล็กๆ มั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำ เพราะหลังจากเขาพ้นโทษจากคดีค้ามนุษย์ ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสประมาณ 1 ปีแล้ว เขาก็ไม่ได้ไปไหนเลย อยากขอให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวเขาด้วย”
ผู้ใหญ่มะรอดี บอกอีกว่า หลังจากนายกามารุเด็งถูกจับ นางสารีฮัน ภรรยาของเขา ก็มาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี และภรรยาของเขาก็ท้องอยู่ 5 เดือน จะดำเนินการอะไรก็ไม่ค่อยรู้เรื่องไม่ค่อยถนัด ก็มาขอให้เราช่วยเขาด้วย สามีเขาไม่ได้ทำ ช่วยขอความเป็นธรรมให้สามีด้วย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา หลังจากสามีออกจากคุกมาก็ใช้ชีวิตอยู่แต่ที่บ้าน เปิดร้านขายผ้าคลุมผมผู้หญิงที่ราตาปันยัง ประเทศมาเลเซีย ตอนนี้ภรรยาของกามารุเด็งตั้งท้องและยังมีลูกสาวอีก 2 คนในวัยเรียนหนังสือ ไม่มีที่พึ่งแล้ว
“หลังจากที่มาขอความช่วยเหลือ ภรรยาของกามารุเด็งก็กลับบ้านเก็บตัวเงียบ น่าจะเครียด เพราะสามีเป็นคนที่ชาวบ้านนับถือ เคยเป็นที่พึ่งให้ชาวบ้าน เวลาชาวบ้านเดือดร้อนสามีจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ เดือดร้อนเรื่องเงินเขาก็จะเอาเงินช่วยชาวบ้าน ฐานะทางบ้านเขาก็เป็นคนมีเงิน ตั้งแต่สมัยพ่อแม่เขาแล้ว พอตัวเองมาเจอปัญหาก็ทำให้ครอบครัวเขาไม่รู้จะพึ่งใคร” ผู้ใหญ่มะรอดี เล่าถึงเส้นทางครอบครัวของกามารุเด็ง และว่า วันที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวก็บอกแค่ว่าเป็นคดีเก่า แต่อยู่ๆ ก็ทราบว่าไปมีส่วนเกี่ยวโยงระเบิดที่กรุงเทพฯ ก็รู้สึกงงมาก
มะรอดี ย้ำว่า ตอนนี้ทางครอบครัวและญาติต่างเป็นห่วง จริงอยู่กามารุเด็งเคยทำเรื่องค้ามนุษย์ แต่หลังจากเขาออกมาจากคุกได้ถามเขาตรงๆ ว่าทำอีกหรือไม่ เขาก็ตอบว่าไม่เอาแล้ว จึงเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำ
ส่วน “เพื่อนบ้านที่ไม่ประสงค์ออกนาม” ให้ข้อมูลว่า รู้จักกับนายกามารุเด็งโดยบังเอิญจากการทำธุรกิจก่อสร้าง นายกามารุเด็งทำธุรกิจนี้มานาน และธุรกิจอื่นๆ ด้วย เป็นคนมีธุรกิจเยอะ เป็นคนกว้างขว้าง ถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลในพื้นที่ปาเสมัสเลยก็พูดได้ แต่เคยติดคดีค้ามนุษย์อยู่ในเรือนจำ 2 ปีก็ออกมา ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำธุรกิจก็ยังเดินไปได้เรื่อยๆ ไม่กระทบ มีภรรยาคอยดำเนินการแทน ภรรยาเก่งและเข้มแข็ง
“กามารุเด็งเป็นคนตรงไปตรงมา เขาจะทำหรือไม่สำหรับเรื่องที่กำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ผมไม่ฟันธง แต่ก็ไม่ได้แปลกใจเมื่อถูกจับอีกครั้ง เพราะเคยค้ามนุษย์มา เคยนำแรงงานเถื่อนจากไทยไปมาเลเซีย เคยติดต่อไปมากับกลุ่มขบวนการเหล่านี้ สมมุติว่าจะทำเรื่องอุยกูร์ด้วยก็ไม่น่าแปลก แต่ก็ขอไม่ตัดสิน ขอให้กระบวนการยุติธรรมช่วยเขา ถ้าเขาไม่ได้ทำ” ชายเพื่อนบ้านผู้นี้ กล่าว
ด้าน “อับดุลเลาะ สาแม” ชาวบ้านใน จ.ปัตตานี กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจมากที่กรณีระเบิดราชประสงค์โยงมาถึงคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมามีการพูดถึงการก่อการร้ายข้ามชาติ ไปถึงเรื่องอุยกูร์ ไม่เกี่ยวกับภาคใต้เลย
“ความจริง ทั้งรูปแบบการวางระเบิดและการประกอบระเบิดและชนิดของระเบิด ไม่เคยเกิดในพื้นที่นี้เลย แต่กลับมีข่าวจับตัวคนนราธิวาสไป ก็แปลกใจพอสมควร ไม่แน่ใจว่าจะทำหรือไม่ เพราะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เชื่อว่าถ้าเรื่องนี้จะเกี่ยวคงจะเป็นความเกี่ยวเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับคนอื่นในภาคใต้ ไม่เกี่ยวกับความไม่สงบแน่นอน” อับดุลเลาะ กล่าว
สรุปหมายจับ-คุมผู้ต้องสงสัย
1.วันที่ 19 สิงหาคม 2558 ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับชายชาวต่างชาติใส่เสื้อเหลือง ก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์จากภาพสเก็ตช์และภาพจากกล้องวงจรปิด
2.วันที่ 27 สิงหาคม 2558 ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับชายชาวต่างชาติใส่เสื้อฟ้า ก่อเหตุวางระเบิดท่าเรือสาทรจากภาพกล้องวงจรปิด
3.วันที่ 31 สิงหาคม 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับ น.ส.วรรณา สวนสันต์ หรือ ไมซาเลาะ อายุ 26 ปี ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย โดยขยายผลจากการตรวจค้นห้องพักเลขที่ 9106 อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม ย่านมีนบุรี
4.วันที่ 31 สิงหาคม 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับชายชาวต่างชาติตามภาพสเก็ตช์ ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย โดยขยายผลจากการตรวจค้นห้องพักเลขที่ 9106 อาคารไมมูณา การ์เด้นโฮม ย่านมีนบุรี
5.วันที่ 1 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับ นายอาลิ โจลัน สัญชาติตุรกี ตามภาพสเก็ตช์ ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย โดยขยายผลจากการตรวจค้นห้องพักภายในอาคารพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก
6.วันที่ 1 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับ นายอาฮ์เม็ท โบซองแลน สัญชาติตุรกี ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย โดยขยายผลจากการตรวจค้นห้องพักภายในอาคารพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก
7.วันที่ 1 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับชายสัญชาติตุรกี(ไม่ทราบชื่อ)ตามภาพสเก็ตช์ ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย โดยขยายผลจากการตรวจค้นห้องพักภายในอาคารพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก
8.วันที่ 2 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีชาวตุรกีของ น.ส.วรรณา ในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
9.วันที่ 3 กันยายน 2558 ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับ นายยูซูฟู ไมไรลี เชื้อชาติจีน สัญชาติจีน เลขหมายจับที่ จ.813/2558 ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย
สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว
1.วันที่ 29 สิงหาคม 2558 เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นายอาเดม คาราดัก อายุ 29 ปี ภายในห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปสอบสวนภายใน มทบ.11
2.วันที่ 1 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายยูซูฟู ไมไรลี ได้ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ขณะกำลังหลบหนีผ่านแดนที่ช่องทางธรรมชาติ ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนภายใน มทบ.11 ต่อมาถูกออกหมายจับเป็นรายที่ 9
3.วันที่ 2 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวชายไทย ชื่อ นายกามารุเด็ง (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวโยงกับคดี จากการตรวจพบโทรศัพท์ติดต่อกับ น.ส.วรรณา โดยนำตัวไปสอบสวนภายใน มทบ.11