
รู้จักน้องบอลกู้ภัยจิ๋วเด็กน้อยหัวใจจิตอาสา
รู้จักน้องบอลกู้ภัยจิ๋ว เด็กน้อยหัวใจจิตอาสา : ชมพิศ ปิ่นเมือง
กลายเป็นภาพที่ชินตาชาว จ.กาฬสินธุ์ มากว่า 3 ปีที่ได้เห็นเด็กชายตัวน้อยในชุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยตระเวนช่วยเหลือประชาชนด้วยสายตาที่มุ่งมั่นจนชาวบ้านทุกคนเรียกกันติดปากว่า “กู้ภัยจิ๋ว”
อรรถพล เทือกกอง หรือ "บอล" คือชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าหน้าที่กู้ภัยจิ๋วที่ปฏิบัติหน้าที่ในกู้ภัย “เมตตาธรรม” องค์กรสาธารณะภายใต้การดำเนินงานของสมาคม "เมตตาธรรมทิพยสถาน" ศาลเจ้ากวนอู เต็กก่า จีโหงวเกาะ
ทั้งนี้ กู้ภัย “เมตตาธรรม” เป็นองค์กรสาธารณะของเอกชนที่ทำงานด้านจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนมานานหลายสิบปีโดยสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และในวันนี้องค์กรดังกล่าวได้บ่มเพาะเด็กชายบอลเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมงานเจ้าหน้าที่กู้ภัย แม่ก่อนหน้านี้จะมีเสียงทักท้วงถึงวุฒิภาวะว่า บอลยังเด็กเกินไป แต่เหตุผลที่ทำให้เด็กชายตัวน้อยชนะใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนคือความมุ่งมั่น และหัวใจที่รักงานจิตอาสาเต็มร้อย
ถึงวันนี้ "บอล” ในวัย 13 ปี บอกเล่าถึงตัวตนในการเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่อ “คม ชัด ลึก” ว่า อาศัยอยู่กับมารดามีคุณตาเป็นหัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ชีวิตตั้งแต่เล็กรู้สึกชอบงานจิตอาสาช่วยเหลือผู้คน จึงอยากจะเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยเข้ามาเป็นกู้ภัยเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว อายุประมาณ 10 ขวบ จำได้ว่ากว่าจะได้ทำตามฝันต้องขออนุญาตแม่หลายครั้งมาก ตอนนั้นแม่ไม่ยอมให้ทำ เพราะเห็นว่า ยังเด็กเกินไปกลัวจะไปเกะกะขวางทาง หรือทำให้งานของเจ้าหน้าที่เสียหาย เสียชื่อ เพราะความเป็นเด็กที่ไร้เดียงสา
“พุดง่ายๆ คือแม่กลัวองค์กรจะเดือดร้อนเพราะผม เนื่องจากเห็นว่าเราเป็นเด็ก เวลานั้นได้แต่นึกเถียงในใจ เนื่องจากผมเชื่อว่ามีความสามารถ มีความรู้ด้านกู้ชีพกู้ภัยมากพอตัว เพราะผมอยู่กับครอบครัวกู้ภัยมาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่แค่ชอบ แต่เป็นความรัก ความผูกพัน มันยากมากที่จะอธิบายให้ใครๆ รู้ ตลอดเวลาผมได้รับฟัง เรียนรู้การทำงานจากคุณตาที่เป็นหัวหน้าทีมกู้ภัย ได้รับคำสอนมาตลอด จึงรู้ว่าอะไรเหมาะสม รู้ว่าขั้นตอน พิธีการคืออะไร เรียกว่าตั้งแต่จำความได้ก็อยู่ในมูลนิธิ กินนอนที่หน่วยกู้ภัย เห็นเลือด คนเจ็บ คนตาย และศพในสภาพต่างๆ มาหมดแล้ว ไม่รังเกียจ ไม่กลัว”
บอล เล่าต่อว่า สุดท้ายแม่ใจอ่อนยอมให้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยอมรับว่า ดีใจมากที่จะได้ช่วยผู้คนทั้งที่มีชีวิตและร่างอันไร้วิญญาณ ช่วงที่ทำงานแรกๆ แม่จะไม่ยอมให้ไปในเวลากลางคืน ตอนนั้นยอมรับว่า โกรธแม่ทุกๆ ครั้งที่ถูกห้ามไม่ให้ไปเข้าเวรกลางคืน มีความรู้สึกว่า ถูกกีดกัน โดยเฉพาะเวลาออกไปทำเหตุที่อันตรายๆ ตากับยายจะไม่ให้เดินทางไปด้วย ตอนนั้นบอกไม่ถูกว่า มีความรู้สึกเป็นยังไง แต่อยากไปช่วยทั้งคนที่ประสบเหตุ และช่วยทีมกู้ชีพ อย่างน้อยๆ ก็อยากไปช่วยหยิบจับอะไรก็ได้ ขอให้ได้ไปเท่านั้น แต่ด้วยความเป็นเด็กในตอนนั้นอาจจะไม่เข้าใจถึงเหตุผลของผู้ใหญ่ จึงเกิดความน้อยใจ
“บางครั้งแอบร้องไห้ที่หลังบ้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนเห็นว่า เราสามารถปฏิบัติงานได้จริง พวกพี่ๆ ไว้ใจให้ช่วยงาน ถือว่าพิสูจน์ตัวเองมากพอสมควร กว่าจะถึงวันนี้ได้ แต่ถ้างานเสี่ยงมาก พี่ๆ จะให้ทำหน้าที่เตรียมของ ช่วยหยิบช่วยจับเครื่องไม้เครื่อมือ แต่ตอนนี้หลายคนให้การยอมรับ เพราะรู้ว่า ผมทำอะไรได้บ้าง ช่วงนี้อาจจะลำบากอยู่บ้าง คือต้องแบ่งเวลาเรียนให้ลงตัว โดยเฉพาะช่วงเปิดเทอมที่จะต้องใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า ทั้งเรื่องเรียน และเรื่องงานที่ทำอยู่”
บอล บอกว่า การทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่กูภัยยอมรับว่า เหนื่อย แต่ไม่ท้อ เพราะเป็นงานที่ชอบ ตอนนี้ชีวิตวนเวียนอยู่แค่เรียนและทำงาน โดยในแต่ละวันจะไม่ได้เที่ยวเตร่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป เพราะไม่มีเวลาเหลือ แต่มีความสุขมากๆ ที่ได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์
“แต่ละวันตอนเช้าผมจะไปโรงเรียน เมื่อเลิกเรียนจะกลับมาทำงานบ้าน จากนั้นจะขนสมุด-หนังสือไปที่หน่วยเมตตาธรรมไปนั่งทำการบ้านสลับกับการฟังวิทยุ เพื่อรอรับแจ้งเหตุ ผมเรียนพิเศษที่นี่ เพราะมีพี่อาสาช่วยสอนการบ้านให้ เราอยู่กันหลายคน ใครเก่งวิชาอะไรก็ช่วยสอน ทำให้ผมเรียนพิเศษแบบไม่ต้องเปลืองเงินแม่มาก รุ่นพี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเรียนเก่งหลายคนนะ แต่ทุกๆ ครั้งที่ได้รับแจ้งเหตุ ทุกอย่างจะหยุดไว้ เราจะกระโดดขึ้นรถมุ่งหน้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที เป็นวิถีของชาวกู้ภัยในทุกๆ วัน อย่างล่าสุด ที่ จ.มหาสารคาม ประสบเหตุวาตภัย ทางสมาคมเดินทางไปช่วยเหลือร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ จ.มหาสารคาม คนเจ็บคนตาย บอกเลยนะว่า รับได้หมดทุกๆ เหตุ เราจะไปในทันที”
บอล บอกถึงความภูมิใจในการทำงานว่า มีความประทับใจมากๆ กับกู้ภัยเมตตาธรรม โดยสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน ศาลเจ้ากวนอู เต็กก่า จีโหงวเกาะมีกฎให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแต่งตัวที่จะต้องแต่งกายอย่างสุภาพ ทุกๆ ครั้งที่ออกเหตุ การขับขี่รถ หรือการเปิดไซเรนสัญญาณต่างๆ ต้องมีระเบียบวินัย มีมารยาทมากๆ เป็นเรื่องที่ได้เรียนรู้จากการเป็นอาสากู้ภัย เจ้าหน้าที่ทุกคนผ่านการอบรมมาทุกระดับ ทั้งการกู้ชีพ การกู้ภัย การผจญเพลิง เป็นต้น
"เรื่องราวที่ประทับใจคือการระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล โดยทีมอาสากู้ภัยเมตตาธรรมเดินทางไปตามจุดชุมชนต่างๆ เพื่อขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา 12 วัน ได้เงินมาแสนกว่าบาท และนำไปมอบให้ยูนิเซฟ เพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือเพื่อนชาวโลกที่ประสบภัยตามเจตนารมณ์ต่อไป ผมยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ทำงานในเชิงพาณิชย์นะ ทุกคนทำกันด้วยใจจริงๆ ไม่มีเงินเดือน เสียสละตนเอง ทำเพื่อส่วนรวมจริงๆ อย่างชุดที่ใส่ๆ กัน แรกๆ ขอเงินแม่ตัดใส่เอง ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว ได้สวมชุดเดียวกันกับทีมจริงๆ ถือว่าเป็นกู้ภัยเต็มตัว ภูมิใจมาก” อรรถพล กล่าว
สุดท้าย บอล เล่าว่า ทำงานกู้ภัยมากว่า 3 ปี ส่วนตัวไม่คิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ ถือว่าสุดยอดมาก เวลาในช่วงของวัยรุ่นตอนนี้มอบให้งานกู้ภัยหมดแล้ว ตอนนี้คิดว่าจะมุ่งมั่นทำต่อไป ไม่กำหนดว่า จะหยุดวันไหน เพราะที่นี่คือครอบครัว
“ผมขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และขอยึดคติธรรมประจำใจว่า การได้ทำดีเพื่อสังคม เสียสละตนเองแม้ว่าจะเหนื่อยยากแค่ไหนก็มีความสุขใจที่ได้ทำ กายอาจจะลำบากบ้าง แต่หัวใจสู้เต็มร้อย ถึงจะตัวเล็ก แต่เชื่อเถิดว่า งานกู้ชีพกู้ภัยที่อยู่ในสายเลือดของผม”