ข่าว

นำร่อง‘ค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน’แหล่งบำบัดผู้ติดยาแทนขังคุก

นำร่อง‘ค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน’แหล่งบำบัดผู้ติดยาแทนขังคุก

26 ส.ค. 2558

นำร่อง‘ค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน’ แหล่งบำบัดผู้ติดยาแทนขังคุก : ภัทรลดา ก้อนทองรายงาน

            “เพชรบุรี” เป็นหนึ่งจังหวัดในพื้นที่ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ ของภาคกลาง เห็นได้จากผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง รอบปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้มากถึง 1,508 คดี ยึดยาบ้าได้กว่า 2.6 แสนเม็ด กัญชากว่า 10 กก. และยาไอซ์อีก 417 กรัม โดย อ.เมือง อ.ชะอำ อ.ท่ายาง และ อ.บ้านลาด เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดมากที่สุด

            สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงได้เลือกเพชรบุรีเป็นจังหวัดนำร่อง ในการจัดทำค่ายบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ตามแนวทางประกาศคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ฉบับที่ 108/2557 ที่ต้องการให้ผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่การบำบัดในระบบสมัครใจ

            ค่ายบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดนี้ใช้ชื่อว่า “ค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน” ตั้งอยู่ภายในวัดถ้ำแก้ว อ.เมืองเพชรบุรี เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2557 มีผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาแล้ว 8 รุ่น รวม 600 ราย

            “สุนทร วินัยบดี” ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 ให้ข้อมูลว่า ผู้เสพมีความผิดในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ หากถูกจับกุมต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีตามกฎหมาย เมื่อคดีถึงที่สุดจะถูกพิพากษาให้จำคุก แต่ไม่ได้บำบัดรักษาผู้ติดยาอย่างจริงจัง เมื่อออกจากคุกจึงกลับเข้าสู่วังวนของยาเสพติดเช่นเดิม สำนักงาน ป.ป.ส.จึงได้ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเสนอให้มีการจัดทำค่ายบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจ ซึ่งการเข้าค่ายไม่ใช่มาตรการลงโทษ แต่มุ่งเน้นในการช่วยเหลือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และพัฒนาผู้ติดยาเสพติด ให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติภายในสังคมได้
 
            "ผู้เข้าบำบัดจะได้รับความช่วยเหลือในการเลิกยาเสพติดจากผู้เชี่ยวชาญ มีการอบรมทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านกาย จะฝึกออกกำลังกายรูปแบบคล้ายการฝึกทหารเพื่อให้ผู้เสพยาเสพติดได้ออกกำลังกาย เพื่อให้ลืมอาการอยากยา มุ่งเน้นให้ร่างกายแข็งแรง ส่วนด้านจิตใจจะมีพระสงฆ์ฝึกนั่งสมาธิสอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดีเพื่อให้ผู้เข้าร่วมค่ายมีจิตใจที่เข้มแข็ง ด้านสังคมจะมีอาสาสมัครสาธารณสุขคอยพูดคุยด้วยเพื่อปรับสภาพจิตใจและแนวคิดให้ผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดกลับเข้าสังคมได้ ส่วนการฝึกอาชีพ จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาสอน การซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า การติดตั้งกล้องซีซีทีวี การซ่อมเครื่องยนต์ขนาดเล็ก และการเชื่อมโลหะ และช่วยเหลือทางด้านเงินทุนสำหรับการประกอบอาชีพ หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมแล้ว จะได้รับเกียรติบัตร รับรองจากวิทยากรวิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี เพื่อให้ผู้ผ่านการบำบัดสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ สามารถประกอบอาชีพได้และไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก" ผอ.ป.ป.ส.ภาค 7 กล่าว

            สุนทร บอกด้วยว่า การฝึกอบรมจะมีกำหนดรุ่นละ 12 วัน โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมค่ายราว 100 คนต่อรุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งจากการประเมินผลผู้ที่เข้ารับการบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดจากค่าย “ศูนย์ขวัญแผ่นดิน” พบว่า มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

            ขณะที่ “ฉัตรชัย ชูทอง” พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดรักษาในค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน จะได้รับคำปรึกษาลักษณะจับเข่าคุยกันเพื่อให้แต่ละคนมีโอกาสเปิดใจพูดคุยกัน โดยทีมวิทยากรจะสร้างแรงจูงใจให้ผู้เข้ารับการบำบัด ในการ ลด ละ เลิก การเสพยาเสพติด พร้อมปลูกฝังทัศนคติต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดในค่ายนี้ มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น

            เอ (นามสมมุติ) วัย 34 ปี หนึ่งในผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด ในค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดิน บอกว่า ประกอบอาชีพเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี ระดับหัวหน้างานด้านเทคนิคของโรงแรม ซึ่งได้รับการชักชวนจากเพื่อนร่วมงานให้ทดลองเสพยาบ้าจนติด กระทั่งต้องเพิ่มจำนวนยาเรื่อยๆ เฉลี่ยต้องเสพยาบ้าอย่างน้อยวันละ 3 เม็ด กระทั่งทางโรงแรมรู้จึงไล่ออกจากงาน และถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ
 
            "ผมทราบว่ามีค่ายบำบัดผู้เสพยาเสพติดที่วัดถ้ำแก้ว จึงตัดสินใจเข้ารับการบำบัด โดยหวังที่จะเลิกยาเสพติดอย่างเด็ดขาดเพื่อกลับไปใช้ชีวิตเช่นคนปกติ ในสังคมการใช้ชีวิตอยู่ในค่ายบำบัดยาเสพติดนี้ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ดีกว่าที่จะต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำ ตลอด 10 กว่าวันที่ใช้ชีวิตในค่ายทำให้ผมคิดได้ ยาเสพติดมันร้ายแรงมาก นอกจากจะทำให้เสียอนาคตแล้ว ยังส่งผลไปถึงคนรอบข้างที่ผมรักมากที่สุด ซึ่งต่อไปนี้จะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก และพร้อมที่จะกลับไปเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีอีกครั้ง” นายเอ กล่าว

            นอกจากการเปิดค่ายบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแล้ว สำนักงาน ป.ป.ส.ยังส่งเสริมการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน โดยการสร้างเครือข่ายหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพติด โดยที่ จ.เพชรบุรี มีชุมชนนำร่องที่บ้านน้ำทรัพย์ หมู่ 9 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอยู่ในระดับรุนแรง แผนปฏิบัติการตามโครงการหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพติดที่บ้านน้ำทรัพย์ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2542 โดยจัดตั้งประชาคมและประกาศให้เป็นหมู่บ้านเฉลิมพระเกียรติปลอดยาเสพติด และรักษาสภาพให้ปลอดยาเสพติด ซึ่งทุกคนในชุมชนร่วมกันสอดส่องดูแล ร่วมกันต่อต้านยาเสพติด กระทั่งปี 2551 หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน และขยายเป็นศูนย์เรียนรู้โครงการเศรษฐกิจพอเพียง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงานปีละ 5 หมื่นคน

            “ชูชาติ วรรณขำ” ผู้ใหญ่บ้านและประธานหมู่บ้านกองทุนแม่บ้านน้ำทรัพย์ กล่าวว่า ชุมชนจะประชุมพูดคุยถึงปัญหายาเสพติดและปัญหาต่างๆ เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งสมาชิกในชุมชนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คอยสอดส่องดูแล หากพบผู้ที่กระทำผิดก็จะมีการตักเตือน แต่ถ้ายังกระทำผิดอีกเรื่อยๆ จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีทันที และยังมีการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดเป็นระยะเพื่อปลูกฝังไม่ให้เยาวชนมีโอกาสยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

            ชูชาติ บอกว่า โครงการที่ได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนมากที่สุดคือ กิจกรรม “เปลี่ยนม้าเม็ดๆ เป็นม้าตัวๆ” คือการฝึกขี่ม้าให้แก่เยาวชน ตามหลักสูตรการบังคับม้า รวมถึงการแสดงต่างๆ ดึงดูดความสนใจของเยาวชนในพื้นที่

            “การแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนจะไม่สามารถสำเร็จได้หากทุกคนถือว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว โดยขาดความร่วมมือจากทุกคนในสังคม ความร่วมแรงร่วมใจและความสามัคคีของสมาชิกในชุมชนทุกคนเท่านั้นที่จะช่วยแก้ปัญหาได้” นายชูชาติ กล่าว
            ค่ายบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด อยู่ระหว่างการดำเนินการขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อหวังลดปริมาณผู้ติดยาเสพติดให้ลดน้อยลงโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากผู้เสพลดน้อยลง ปริมาณความต้องการในการใช้ยาเสพติดก็จะลดน้อยลงด้วย ซึ่งจะมีผลต่อผู้ผลิตและจำหน่าย เมื่อผลิตแล้วไม่เป็นที่ต้องการของตลาด เครือข่ายยาเสพติดก็จะอยู่ไม่ได้ ซึ่งผู้เสพยาเสพติดรายใดต้องการลด ละ เลิก ยาเสพติด สามารถขอคำปรึกษาเพื่อรับการบำบัดได้ที่ โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั้วประเทศ หรือที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง และ ป.ป.ส.ภาค ทุกแห่ง