‘จ.ส.ต.’เครียด!ฆ่าโหดยกครัว4ศพ | คมชัดลึก

 

         เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 23 ส.ค.58 ร.ต.ท.อนุพันธ์ สอนศิริ พนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง จ.น่าน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 188 บ้านบุปผาราม หมู่ 9 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายแพทย์พงษ์เทพ วงศ์วัชระไพบูลย์ นายแพทย์เวรโรงพยาบาลน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ อบจ.น่าน และอบต.ฝายแก้ว

 

         ในที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปพบศพ จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ศพที่ 2.นางกาญจนา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ภรรยา เป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลน่าน ศพที่ 3. ด.ช.เนติภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ อายุ 7 ปี และศพที่ 4. ด.ช.เนติภูมิ (สงวนนามสกุล) อายุ 7 ปี ซึ่งเป็นฝาแฝดเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.3 เสียชีวิตทั้งหมดภายในที่ห้องโถงที่รับแขก

 

         จากการตรวจชันสูตรพลิกศพตรงประตูทางเข้าพบ จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์ ร่องรอยถูกยิงเข้าที่ระหว่างคิ้วทั้ง 2 ข้างลูกกระสุนปืนทะลุท้ายทอย จำนวน 1 นัด สภาพศพนอนหงายโดยมีอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม.ไม่ทราบยี่ห้อตกอยู่ใต้รักแร้ข้างขวาของผู้ตาย และด้านขวามือพบศพของนางกาญจนา ภรรยาถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายลูกกระสุนทะลุข้างขวา จำนวน 1 นัด และศพของ ด.ช.เนติภัทร มีรอยกระสุนปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่บริเวณขมับซ้ายลูกกระสุนทะลุข้างขวา และศพสุดท้ายคือ ด.ช.เนติภูมิ ถูกยิงด้วยลูกกระสุนปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่บริเวณขมับซ้ายลูกกระสุนทะลุข้างขวา

 

         เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุทั้งหมดได้ดื่มยาพิษหรือไม่ จึงมอบศพให้ทางแพทย์นิติเวชชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

 

         ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือร่องการถูกลอบยิงแต่อย่างไร ภายในห้องพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 4 ปลอก หัวกระสุนชนิดเดียวกันจำนวน 4 หัว จึงได้ตรวจอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่ามีกระสุนอยู่ในรังเพลิง จำนวน 1 นัด และอยู่ในแม็กปืนอีกจำนวน 2 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

         จากการสอบถามนายเกรียงไกร ไชยมงคล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน่าน ซึ่งเป็นผู้พบศพเป็นคนแรกบอกว่า ตนเองได้มาที่บ้านของผู้ตายหลังจากที่ผู้ตายไม่ไปเข้าเวรและไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ จึงได้มาตามที่บ้านพัก ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ จึงตัดสินใจเปิดประตูบ้านเข้าไปก่อนจะพบเป็นศพดังกล่าว จึงได้รีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ

 

         ด้าน พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบก.ภ.จว.น่าน กล่าวว่า สาเหตุที่ จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์ ใช้อาวุธปืนพก ของตนเอง ยิงภรรยาและลูกชายฝาแฝดเสียชีวิตทั้งครอบครัวในครั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากสาเหตุภายในครอบครัวที่ไม่สามารถหาทางออกได้หรือไม่ โดยปกติแล้วผู้ตายเป็นคนนิสัยดีรักครอบครัว บ้านมีฐานะดี เรียนหนังสือเก่ง จนจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง หน้าที่การงานก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร ซึ่งจะได้เรียกญาติพี่น้องมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง