ข่าว

ทัวร์จีนยังแน่นเที่ยวไทยไม่กระทบ

ทัวร์จีนยังแน่นเที่ยวไทยไม่กระทบ

19 ส.ค. 2558

คลังยันเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบ การท่องเที่ยวฯ ตั้งวอร์รูมประเมินสถานการณ์ พร้อมกระจายข้อมูลให้นักท่องเที่ยวรับทราบ ตลอด 24 ชั่วโมง

               นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ชี้ยังไม่กระทบ ยอดจองห้องพักล่วงหน้าช่วงหยุดวันชาติจีนยังไม่ถูกยกเลิก เหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อค่ำวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา นอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ทั้งภาครัฐและเอกชนก็เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นแค่ระยะสั้นๆ และขณะนี้ก็เร็วไปที่จะประเมินถึงผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

               นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกระทบต่อเศรษฐกิจรวม ในเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยในเรื่องการท่องเที่ยวมองว่าไม่น่ากระทบมาก เนื่องจากช่วงเกิดเหตุยังไม่ใช่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย ทำให้ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมีมากกว่า แต่กระทรวงการคลังยังไม่ได้เตรียมออกมาตรการอะไรใหม่เข้ามาดูแล

               “โชคดีมากที่ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย จึงไม่น่ากระทบมาก เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายแล้วคนก็จะลืมเหตุการณ์ไป ผมมองโลกในแง่ดีนะ ส่วนผลกระทบความเชื่อมั่นจะมากกว่าเรื่องท่องเที่ยว แต่กระทรวงการคลังยังคิดมาตรการใหม่มาดูแลไม่ออก เพราะแค่ได้ยินเสียงระเบิดก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว” นายสมหมายกล่าว

               ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาหารือถึงผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจหลังเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว ซึ่ง สศค.รายงานว่า เร็วไปที่จะประเมินผลกระทบ โดยขอเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อดูสถานการณ์ต่างๆ ทั้งจากภาพรวมตลาดหุ้น และการท่องเที่ยว

ตั้งวอร์รูมประเมินสถานการณ์ 24 ชั่วโมง

               ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เข้าไปดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังประเทศต่างๆ ให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้ ขณะเดียวกันยังให้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ คอยอำนวยความสะดวกเรื่องการทำวีซ่าให้แก่ญาติพี่น้องของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ต้องการเดินทางเข้ามาเยี่ยมผู้บาดเจ็บในประเทศไทยด้วย

               นางกอบกาญจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังตั้งวอร์รูมเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับกระจายข้อมูลต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวรับทราบ และยังจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในหน่วยประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลที่รับดูแลผู้บาดเจ็บ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมการท่องเที่ยวที่สื่อสารภาษาต่างประเทศได้ โดยเฉพาะภาษาจีน คอยให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและญาติพี่น้องที่เดินทางมาเยี่ยม ส่วนในพื้นที่สำคัญๆ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก เช่น สนามบิน และสถานีรถไฟ ก็มีกำลังเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ด้วย

               "กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังประเมินตัวเลขผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าจะมีผลกระทบในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่เน้นตอนนี้ คือการดูแลนักท่องเที่ยวที่ได้รับการบาดเจ็บ และที่ยังเดินทางอยู่ในประเทศไทยเป็นอันดับแรกก่อน ส่วนผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็มีผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่มประชุมสัมมนา หรือกลุ่มไมซ์ เพราะขึ้นอยู่กับว่าบริษัทประกันที่ดูแลเรื่องการเดินทางจะตัดสินใจว่าจะพาคนกลุ่มนี้เข้ามาในไทยหรือไม่ ส่วนกลุ่มที่มาเอง หรือกลุ่มทัวร์ก็น่าตัดสินใจได้ เช่น ถ้ากังวลที่จะมาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็เปลี่ยนไปที่จังหวัดเชียงใหม่ หรือภูเก็ตได้ เพราะตอนนี้ทั้งสนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ก็มีความพร้อม ขณะที่การแจ้งยกเลิกท่องเที่ยวในไทยนั้น ตอนนี้ยังไม่มีประเทศใดแจ้งเข้ามา” นายกอบกาญจน์ กล่าว

4 ประเทศเตือน เลี่ยงพื้นที่เสี่ยงในไทย

               นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ได้ประเมินผลกระทบด้านการท่องเที่ยวล่าสุดพบว่ามีเพียง 4 ประเทศที่แจ้งเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงในประเทศไทย แต่ยังไม่มีการห้ามเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ส่วนกลุ่มที่ยกเลิกการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยพบว่ายังมีไม่มากนักและมองว่าน่าจะเป็นผลกระทบช่วงสั้นๆ เท่านั้น หากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอีกในช่วง 1 สัปดาห์นี้สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวก็น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

               “การท่องเที่ยวเป็นเรื่องอ่อนไหวเมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ ก็จะได้รับผลกระทบก่อน โดยในภาพรวมจากการสอบถามนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย และมองว่าเหตุระเบิดดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งทางรัฐบาลจีนเองก็ยังไม่ได้มีการประกาศห้ามพลเมืองของตัวเองเดินทางเข้ามาประเทศไทย หลังจากนี้จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะมีการแจ้งยกเลิกการเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้นหรือไม่ โดยจะประเมินผลกระทบอีกครั้งใน 1 สัปดาห์นี้ ซึ่งสทท.ยังหวังว่านักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มหลักในการมาเที่ยวเมืองไทยจะมีจำนวนไม่ลดลงจากที่่ตั้งเป้าหมายไว้ปีนี้ 7 ล้านคน และภาคท่องเที่ยวยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้” นายอิทธิฤทธิ์ กล่าว

               อย่างไรก็ตาม ทางภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลควบคุมสถานการณ์ และการเผยแพร่ข่าวสารออกไปเพราะมีบางสื่อที่นำเสนอภาพและข้อมูลออกไปเป็นเชิงลบให้สถานการณ์ของประเทศดูรุนแรงน่ากลัวและเหมารวม ทั้งที่เป็นเหตุเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่เดียวเท่านั้น ซึ่งการเสนอข่าวลบในภาพรวมอาจทำให้การท่องเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย ขณะที่ในส่วนของ สทท.พร้อมที่จะเข้าไปประสานนำมัคคุเทศก์ไปช่วยเหลือดูแลญาติผู้เสียหาย แต่ต้องรอหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก่อน

ยังประเมินผลกระทบที่ชัดเจนไม่ได้

               ด้านนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่ชัดเจนได้ โดยสมาคมได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ไปถึงสมาชิกสมาคมโรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 300 แห่งแล้ว เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยวของตนเองว่ากลับมาพักที่โรงแรมครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งผลกระทบจากเหตุระเบิด โดยเฉพาะโรงแรมใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในช่วงนี้กว่าร้อยละ 60 เป็นเอเชีย และร้อยละ 25 เป็นยุโรป ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจีนร้อยละ 25

               นายกลินทร์ สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับประธานหอการค้าต่างประเทศเมื่อค่ำวันที่ 18 สิงหาคม หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดนั้น ทางประธานหอการค้าต่างประเทศมีความเข้าใจในสถานการณ์ดี และคิดว่าเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้น โดยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ให้จบลงโดยเร็วได้ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่ามียอดจองการเดินทางล่วงหน้าเข้ามา ในช่วงเดือนกันยายนร้อยละ 47 และเดือนตุลาคมร้อยละ 70 ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะมีการยกเลิกไฟลท์บินหรือไม่ ดังนั้น จึงยังคงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยที่ 28.6 ล้านคน ขณะที่การจัดกิจกรรมกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวนั้น ยังคงต้องประเมินสถานการณ์ว่ามีความจำเป็นต้องจัดกิจกรรมเพิ่มเติมหรือไม่

               นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มองว่า รัฐบาลสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ดี ทั้งการเข้าควบคุมพื้นที่ รักษาความปลอดภัย และการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมท่องเที่ยวทุกหน่วยงาน อาจมีการประชุมหารือร่วมกับนางกอบกาญจน์ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง รวมถึงหามาตรการเยียวยาต่างๆ พร้อมกันนี้มองว่า แม้เหตุก่อความไม่สงบในครั้งนี้ จะกระทำเพื่อมุ่งหวังเอาชีวิตของนักท่องเที่ยว แต่เชื่อว่า สถานทูตของแต่ละประเทศ ไม่น่าจะประกาศห้ามนักท่องเที่ยวของตนเดินทางเข้ามายังประเทศไทย

เชื่อส่งผลกระทบแค่ระยะสั้น

               นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า เหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นระยะสั้นต่อภาคเศรษฐกิจและนักลงทุนในส่วนของภาคการส่งออก ผู้ซื้อจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นเริ่มแสดงความกังวลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการพิจารณาว่าจะเดินทางมาไทยเพื่อสั่งซื้อสินค้าในช่วงนี้หรือไม่ เนื่องจากในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผู้ซื้อจากต่างประเทศจะเริ่มเดินทางเข้ามายังไทยเพื่อสั่งซื้อสินค้าสำหรับช่วงคริสต์มาส

               อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกมองว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้นเพราะรัฐบาลได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์อย่างจริงจัง ในขณะที่ประเด็นค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง ยังเป็นอุปสรรคสำหรับการค้าในไตรมาส 4 แต่เป็นเรื่องเหนือกว่าที่รัฐบาลจะจัดการได้ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยต้องพิจารณาและดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพและเป็นไปตามภูมิภาคเนื่องจากประเทศไทยมีทั้งเรื่องของการนำเข้าและส่งออกจึงต้องดูปัจจัยหลายอย่างประกอบในการดูแลค่าเงิน

               ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นได้สร้างความตระหนกให้แก่นักท่องเที่ยวและนักลงทุนบ้าง แต่จะมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่รัฐบาลจะจัดการในเรื่องนี้ได้รวดเร็วหรือไม่ ถ้าจับกุมผู้กระทำผิดและจัดการปัญหาต่างๆ ได้รวดเร็ว พร้อมทั้งเร่งอธิบายให้ต่างชาติได้เข้าใจ ก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาได้เร็ว ซึ่งจากประสบการณ์ในอดีตเมื่อเกิดเหตุระเบิดจะกระทบความเชื่อมั่นแต่เพียงในระยะสั้น เพราะสามารถควบคุมไม่ให้ลุกลามออกไปได้ แต่ในครั้งนี้จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเหตุระเบิดที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดมา

เชียงใหม่ไม่กระทบ
     
               นายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากลักษณะการก่อเหตุเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่สามารถบริหารจัดการสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วทันท่วงทีและเป็นระบบ โดยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัว โดยเฉพาะชาวต่างชาตินั้น หวังว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและรักษาภาพลักษณ์ของประเทศ

               นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับผลกระทบต่อการท่องเที่ยวนั้น ยอมรับว่าส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามจากการบริหารจัดการสถานการณ์ที่ดีทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น ในส่วนของ จ.เชียงใหม่ จากการประเมินเบื้องต้นพบว่ายังไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ชื่นชอบและมี จ.เชียงใหม่ เป็นจุดหมายการท่องเที่ยว ชาวจีนยังคงเดินทางท่องเที่ยวเป็นปกติ โดยพบว่ายอดจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงหยุดวันชาติจีนช่วงต้นเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ยังคงอยู่ในระดับร้อยละ 70 ไม่มีการยกเลิก

               นายพรชัย กล่าวอีกว่า คาดหวังว่าเหตุระเบิดในครั้งนี้ ทางการจีนจะไม่มีนโยบายและมาตรการแจ้งเตือนใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยของชาวจีน อีกทั้งโดยปกติแล้วชาวจีนเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยหวั่นไหวต่อปัจจัยกระทบต่างๆ อยู่แล้ว จึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนหรือมีก็ไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการที่สร้างความเชื่อมั่นออกมาอย่างทันท่วงทีในการดูแลหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้ง จ.เชียงใหม่ ด้วย

ชี้รัฐเร่งเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

               ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง จึงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะส่งผลกระทบยาวนานแค่ไหน สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีโปรแกรมเข้ามาในพื้นที่ ยังไม่พบว่ามีการยกเลิกแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยมากถึงร้อยละ 70 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนมีจำนวนน้อยมาก

               “เรื่องความปลอดภัยจากการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่กำลังตัดสินใจเดินทางเข้ามา แต่หากขาดความเชื่อมั่น นักท่องเที่ยวเหล่านั้นก็จะไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านแทน จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลให้เร่งทำความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึงความปลอดภัย ให้เร็วที่สุด” นายวิเชียร กล่าว

               นายธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงย่อมส่งผลกระทบต่อความรู้สึกอย่างแน่นอน อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างรับรู้ข้อมูลข่าวสารว่า ประเทศไทยยังไม่มีความปลอดภัย ซึ่งเป็นเหตุผลทางจิตวิทยา จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ แต่หากรัฐบาลสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ว่า เหตุเกิดเพราะอะไร อาจจะฟื้นความรู้สึกที่ดีของนักท่องเที่ยวต่อประเทศไทยได้

               ด้าน นายอวยชัย อินทร์นาค รองผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การคุมเข้มบริเวณท่าเทียบเรือทุกแห่งและสนามบิน เพื่อความไม่ประมาท เพราะสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้าออกจำนวนมาก ในส่วนของการท่องเที่ยวในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบ นักท่องเที่ยวยังเดินทางเข้าออกตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นปกติ

ภาคใต้นักท่องเที่ยวยกเลิกจองห้อง

               นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการจองห้องพักไปแล้วร้อยละ 5 ถ้ารัฐบาลแก้ไขสถานการณ์ได้เร็ว ทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของสาเหตุ และตอบคำถามคนทั่วโลกได้ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้

               นายภูริต มาศวงศ์ศา นายกสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ต และอุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต มองว่า เหตุระเบิดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามากน้อยแค่ไหน เพราะขณะที่มีบางประเทศเริ่มออกคำเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงของประเทศไทย จึงต้องรอดูสถานการณ์ประมาณ 2 วัน จึงจะเห็นผลชัด แต่จากการสอบถามบริษัทนำเที่ยว ยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

               ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชาวจีนไปเที่ยว และให้หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชนใหญ่ๆ ในประเทศไทย แต่ยังไม่มีการสั่งห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด