‘ไฮโซม่านฟ้า’ร้องปอท.เอาผิดผู้โพสต์ข้อความเท็จ

 

         ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2558 น.ส.อรปภัตร  จันทรสาขา หรือไฮโซม่านฟ้า อายุ 25 ปี พร้อมด้วยนายภคพล เพชรกิ่ง ทนายความส่วนตัว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ร.ต.ท.อาคม จำปามูล พนักงานสอบสวน กก.3บก.ปอท. พร้อมนำเอกสารหลักฐานข้อความและการโพสต์ข้อมูลเท็จมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ชื่อดังกรณีแฉเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เป็นจริง พร้อมทั้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำความผิดซึ่งเดินทางมา 12 คน มาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนคนที่ยังไม่ได้ติดต่อมาจะแจ้งความดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายตามมูลค่าที่ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบ

 

 

 

 

         น.ส.อรปภัตร กล่าวว่า วันนี้(13 ส.ค)ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่โพสต์ภาพและข้อความ ข้อมูลอันเป็นเท็จ จากกรณีที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว หลังจากเกิดเหตุผู้ที่โพสต์ข้อความได้ติดต่อและโทรมาขอโทษแล้วบางส่วน ตนเข้าใจและให้อภัยกับผู้ที่โทรมาขอโทษและไม่ติดใจเอาผิด ซึ่งมีผู้ที่ติดต่อเข้ามาประมาณ 25 คน และได้บอกให้มาขอโทษผ่านสื่อ บางส่วนหลังทราบข่าวก็ได้เดินทางมาขอโทษด้วยตนเอง แต่สำหรับผู้ที่ยังโพสต์ข้อความต่อซึ่งส่งผลให้ธุรกิจของตนเสียหายและได้รับผลกระทบจึงจะแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง โดยในทางแพ่งจะเรียกร้องค่าเสียหายตามที่ธุรกิจของตนได้รับความเสียหาย

 

 

 

 

         น.ส.อรปภัตร กล่าวว่า วันนี้(13 ส.ค)ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่โพสต์ภาพและข้อความ ข้อมูลอันเป็นเท็จ จากกรณีที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว หลังจากเกิดเหตุผู้ที่โพสต์ข้อความได้ติดต่อและโทรมาขอโทษแล้วบางส่วน ตนเข้าใจและให้อภัยกับผู้ที่โทรมาขอโทษและไม่ติดใจเอาผิด ซึ่งมีผู้ที่ติดต่อเข้ามาประมาณ 25 คน และได้บอกให้มาขอโทษผ่านสื่อ บางส่วนหลังทราบข่าวก็ได้เดินทางมาขอโทษด้วยตนเอง แต่สำหรับผู้ที่ยังโพสต์ข้อความต่อซึ่งส่งผลให้ธุรกิจของตนเสียหายและได้รับผลกระทบจึงจะแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง โดยในทางแพ่งจะเรียกร้องค่าเสียหายตามที่ธุรกิจของตนได้รับความเสียหาย

 

        "ถ้ามีการมาขอโทษแล้ว ก็ไม่มีเจตนาจะฟ้องร้องหรือกล่าวโทษใคร พร้อมให้อภัยอยู่แล้ว ซึ่งมีบางส่วนแจ้งขอโทษผ่านทางเฟสบุ๊ก และอยากเจอเราด้วยจึงเดินทางมาขอโทษในวันนี้(13 ส.ค.) ไม่ได้มองว่าเขาผิดมากนัก หลังจากวันนี้ให้ทนายคุยกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นในเรื่องของกฎหมายต่อไป ส่วนเรื่องฟ้องเรียกค่าเสียหายไป 100 ล้านบาทนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะทำให้ได้รับความเสียหายทั้งในเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเอง ครอบครัว และธุรกิจ คนที่จะยอมลงทุนใหม่ไม่ยอมลงทุนกับเรา และเลื่อนระยะเวลาการดำเนินการธุรกิจพักไว้ก่อน ก็เห็นใจคนที่โพสต์แต่เราเสียหายผ่านสื่อ ก็อยากให้คนที่เป็นแกนหลักมาขอโทษออกสื่อด้วย และอยากจะฝากประชาชนทุกคนที่ได้อ่านข่าว ก็อยากให้ลองเปิดใจกว้างๆ อย่าตัดสินใจใครด้วยข้อความที่ได้อ่านจากในกระทู้ที่อยู่ในเงามืด เพราะเขาจะโพสต์อะไรก็ได้ แต่ผู้ที่ได้รับความเสียหายคือตัวหนูเอง" น.ส.อรปภัตร กล่าว

 

 

 

 

         ด้านนายภคพล กล่าวว่า ตนเป็นทนายความส่วนตัวของ น.ส.อรปภัตร หรือไฮโซม่านฟ้า ที่เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความและแชร์ภาพต่อเนื่องมาประมาณ 2 เดือน ที่ไม่ได้ประสานมาขอโทษ และยังโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จต่อเนื่อง หลังจากที่มีการแถลงชี้แจงกับสื่อมวลชนวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้กำหนดไว้หากไม่มาขอโทษภายในวันนี้(13 ส.ค)ก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่ยังไม่มาขอโทษ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดที่ยังไม่พบ ที่สร้างความเสียหายต่อธุรกิจและส่งผลกระทบต่อครอบครัวซึ่งจะแจ้งในข้อหาหมิ่นประมาทให้เสื่อมเสียชื่อเสียงทางโซเซียลมีเดีย และนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อหาหรือความผิดอื่นๆ อยู่ที่เจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่าเข้าข่ายข้อหาใดบ้างส่วนคนที่มาขอโทษถือว่าคนเหล่านี้รู้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน ผู้กระผิดจริงๆ มีประมาณ 4-5 คน ส่วนใหญ่ที่มาขอโทษเป็นคนที่รู้เท่าไม่ถึงการ

 

 

 

 

         ขณะที่ น.ส.จันทิมา สุขปานกลาง อายุ 27 ปี และน.ส.มนัสนันท์ ตระกูลเกียรติธนา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/17 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บอกว่า ตนทั้ง 2 คน ทราบข่าวว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความ จึงตั้งใจเดินทางมาขอโทษกับไฮโซม่านฟ้าด้วยตนเอง หลังจากที่ช่วงประมาณเดือนกว่าๆ ได้เข้าไปอ่านกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปและได้แสดงความคิดเห็นในกลุ่มเพื่อน โดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ซึ่งอาจเป็นการเข้าใจผิด และเห็นใจหากโดนโพสต์แสดงความคิดเห็นแบบไฮโซม่านฟ้า มองว่ามันแรงไป เพราะจริงๆ แล้วเขาก็นิสัยดี อัธยาศัยดี ไม่ถือตัวอีกด้วย

 

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำน.ส.อรปภัตร และตรวจสอบหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมายื่น และจะรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อหาต้นตอการเผยแพร่ภาพดังกล่าวเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำและฝากเตือนประชาชนอย่ากดไลค์ กดแชร์ หรือเผยแพร่ภาพที่อาจเข้าข่ายต่อการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์