ข่าว

จับ2สาวแสบตั้งแก๊งเชิดรถ

จับ2สาวแสบตั้งแก๊งเชิดรถ

07 ส.ค. 2558

ตำรวจนครบาลรวบ 2 สาวแสบ ตั้งแก๊งเชิดรถเช่า โดยปลอมแปลงเอกสาร ตระเวนหลอกเช่ารถทั่วกรุงฯ ก่อนเชิดขายเต็นท์มือสอง มูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท

             เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2558 พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.  พร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.อารยะพันธ์ พุกบัวขาว รองผบก.น.2 พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.พิภพ สุขก่ำ รองผกก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.อาทิตย์ พรหมนอก สวป.สน.ทุ่งสองห้อง  ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งหลอกเช่ารถ แล้วนำไปขายต่อเต็นท์รถมือสอง ซึ่งมีผู้ต้องหาเป็นหญิงสาว 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.ปภิณดา ชัยสาธิตพร หรือปอ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่409/1 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่1758/2558 ลงวันที่ 5 ส.ค.58 และ น.ส.อำมรีย์ เมฆทา หรือ หมี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่147 หมู่12 ตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่1759/2558 ลงวันที่ 5 ส.ค.58 
 
              นอกจากนี้ยังมีของกลางประกอบด้วย รถยนต์โตโยต้ารุ่นวีออสสีเทา หมายเลขทะเบียน กย-6346 ระยอง จำนวน 1 คัน , สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์โตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน กย-6346 ระยอง จำนวน 1 ฉบับ , สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของ น.ส.ศิริลักษณ์ พลราช (ผู้ครอบครองรถยนต์ แต่มีรูปใบหน้าของผู้อื่นมาแทนที่รูปของผู้เสียหาย)จำนวน 1 ฉบับ , รถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน กง-4917 ชุมพร จำนวน 1 คัน , สำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน กง-4917 ชุมพร จำนวน 1 ฉบับ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของ นายอมรเทพ สนั่นแสง(ผู้ครอบครองรถยนต์แต่มีรูปใบหน้าของผู้อื่นมาแทนที่รูปของผู้เสียหาย) จำนวน 1 ฉบับ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณเต็นท์รถไม่มีชื่อถนนกำแพงเพชร6 ซอย7 แยก3-6 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสาร,ปลอมแปลง และใช้เอกสารสิทธิ หรือเอกสารที่ราชการออกให้ , ร่วมกันฉ้อโกงและรับของโจร
 
             พ.ต.ท.พิภพ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.ปภิณดา และ น.ส.อำมรีย์ ได้ร่วมกันวางแผนโดยออกตระเวนเช่ารถยนต์ตามบริษัทต่างๆใน กทม. และต่างจังหวัด จากนั้นก็จะนำข้อมูลจากสำเนารายการจดทะเบียนรถ ที่ผู้ให้เช่ารถมอบให้ พร้อมรถที่เช่า ไปทำสำเนาบัตรประชาชนปลอม โดยใช้ชื่อของผู้ครอบครองรถดังกล่าว แล้วนำเอกสารพร้อมรถยนต์ที่เช่ามา ไปฝากขายกับเต็นท์รถต่างๆ ซึ่งแสดงตนว่าเป็นผู้มีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนรถ และเป็นผู้ครอบครองรถจริง จึงทำให้เต๊นท์รถหลงเชื่อว่า หญิงสาวทั้ง 2 คนนี้ เป็นผู้ครอบครองรถ ก่อนจ่ายเงินให้ตามราคาที่ตกลงซื้อขายกัน กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. บริษัทนิคคาร์เร้นท์แอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้เช่ารถได้ตรวจสอบความผิดปกติจากสัญญาณจีพีเอส พบว่า รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีเทา ทะเบียน กย-6346 ระยอง ที่ให้ผู้ต้องหาเช่าไปนั้น ถูกนำไปจอดไว้ที่เต็นท์รถไม่มีชื่อแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยไม่มีการใช้งานตามปกติ ต่อมาทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้นำรถยนต์ที่ให้เช่าไปขายฝากโดยใช้เอกสารปลอมที่ทำขึ้น จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง
 
            พ.ต.ท.พิภพ กล่าวอีกว่า เมื่อทำการสืบสวนจึงทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้ยังได้นำรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแจ็ส สีขาว หมายเลขทะเบียน กง-4917 ชุมพร ไปฝากขายที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนการจับกุม และสามารถตรวจยึดรถคันดังกล่าวไว้ เมื่อทำการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้ไปเช่ารถที่ บริษัทเฟรนด์ลี่พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบบริษัทดังกล่าวพบว่า เอกสารที่ผู้ต้องหามายื่นขอเช่ารถนั้นเป็นชื่อของ นายอมรเทพ โดยนำรูปของบุคคลอื่นมาแทนที่รูปเดิม จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ สน.ทุ่งสองห้อง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้บันทึกไว้ตามคดีอาญาที่838/2558
 
            สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคน ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุ เพราะอยากได้เงินนำไปใช้จ่าย โดยก่อนหน้านี้เคยรับจำนำรถตามบ่อนต่างๆ จึงทำให้มีความรู้ วิธีการเช่ารถ และขายฝากเป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อบ่อนถูกปิดก็ไม่มีอะไรทำ จึงหันมายึดอาชีพหลอกเช่ารถ แล้วนำไปขายฝาก แต่ได้เงินจำนวนไม่มาก พอครบกำหนดจ่ายค่าเช่ารถคันก่อนหน้าแล้วไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องไปเช่ารถคันอื่นๆลักษณะเดียวกันต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้เงินมาหมุนเวียนให้ทัน นอกจากนี้ยังใช้วิธีการค้นหาข้อมูลเต็นท์ให้เช่ารถจากอินเทอร์เน็ต และโทรไปติดต่อพูดคุยขอเช่า โดยจะเลือกเต็นท์รถขนาดเล็ก และเลือกรถเป็นที่นิยมในตลาด อาทิ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส กับแคมรี่ และยี่ห้อฮอนด้า ซึ่งทำแบบนี้มากว่า 4 เดือน ส่วนบัตรประชาชนที่ใช้ปลอมแปลงนั้น ได้ติดต่อจ้างทำจากเฟซบุ๊ก ในราคา 2,000-3,000 บาท จากนั้นจะส่งมาให้ทางอีเมล แล้วนำไปปริ๊นเพื่อใช้งาน ก่อนนำไปอ้างกับเจ้าของเต็นท์รถว่า เป็นรถที่เจ้าของโอนลอยมา ทำให้ทางเต็นท์รถรับ เนื่องจากคิดว่าเจ้าของที่มีชื่อในทะเบียนโอนลอยมาจริง เพราะมีหลักฐานจากสำเนาบัตรประชาชนชุดโอนลอยแนบประกอบ ก็ทำให้เต็นท์รถรับไปโอนต่อใส่ชื่อตนเองได้
 
             ทั้งนี้ พบว่ามีผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว ซึ่งเป็นบริษัทรถเช่าจากกรณี กว่า 9 ราย โดยรถยนต์ที่ถูกก่อเหตุไปรวม 17 คัน แต่เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถยนต์ที่ผู้ต้องหานำไปฝากขายกับเต็นท์รถต่างๆกลับคืนมาได้ 14 คัน ประกอบด้วย 1.รถยนต์ของบริษัทนิคคาร์เร้นท์แอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด เขตลาดกระบัง กทม. จำนวน 1 คัน 2.รถยนต์ของนายภัทร์ธิเมศฐ์ เลี้ยงชั่งทอง เขตราษฎร์บูรณะ กทม. จำนวน 4 คัน 3.รถยนต์ของบริษัทไซบีเรียนคาร์เร็นทัล จำกัด จำนวน 2 คัน 4.รถยนต์ของ น.ส.นิด กล่อมขุนทด อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ของ นางณัฎฐ์ชวัล สังข์เมือง ย่านรามอินทรา กทม.จำนวน 1 คัน 6.รถยนต์ของ น.ส.ปุณณพัฒน์ ทรัพย์พจน์ เขตคลองสามวา กทม. จำนวน 1 คัน 7.รถยนต์ของบริษัทเฟรนด์ลี่พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 3 คัน และ 8.รถยนต์ของ นายณัทพจ วงษ์เจริญ เขตจอมทอง กทม. จำนวน 1 คัน รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 15 ล้านบาท