'ความทรงจำ พระราชาไทยในโลซานน์'
Play
27 ก.ค. 2558
'ความทรงจำ พระราชาไทยในโลซานน์' : ไลฟ์สไตล์
อีกครั้งที่ภาพถ่ายสามารถเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันน่าปลาบปลื้มประทับใจ ในการเปิดตัวหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9” และเจ้านายไทยในโลซานน์” โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์บันทึกความทรงจำในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ขณะประทับอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างพุทธศักราช 2476-2494 เรียบเรียงโดย ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส ภายในงานมีผู้สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่คนไทยยังไม่เคยได้เห็นมากนักมาร่วมรับชมและฟังความเป็นมาของหนังสืออย่างคับคั่งบริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ในการนำบันทึกความทรงจำของ เกลย์อง เซ.เซไรดารีส ซึ่งเป็นครูส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นบุคคลที่ได้อุทิศตนเพื่อรับใช้
พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดระยะเวลา 26 ปี ลีซองดร์ เซ.เซไรดารีส บุตรชายในวัย 69 ปี ผู้รวบรวมงานเขียนและภายถ่ายทั้งหมดไว้ในหนังสือเล่มนี้ เล่าว่า ไฮไลท์ของหนังสือเล่มนี้ มีอยู่ทุกๆ หน้าทั้ง 500 หน้า เพราะถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงในเหตุการณ์นั้นๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชานุญาตให้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เพื่อคนไทยจะได้รู้เรื่องจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และเรื่องราวช่วงชีวิตที่สำคัญของพระองค์ท่าน
“ผมใช้เวลาถึง 4 ปี ในการเลือกภาพและเรียบเรียง ความยากสำหรับหนังสือเล่มนี้คือการทำพิมพ์จากภาพถ่ายฟิล์มเก่าให้เป็นภาพดิจิทัล ส่วนความประทับใจเป็นพิเศษคือได้เห็นจดหมายลายพระหัตถ์ของพระราชวงศ์ทั้ง 4 พระองค์ ที่เขียนถึงพ่อของผม เขียนเล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ และมีเรื่องที่ผมจำได้ถึงร้านอาหารจีนแห่งเดียวที่เจนีวาในสมัยนั้น เป็นร้านประจำของพระบรมวงศานุวงศ์ที่โปรดเสวยอาหารเอเชีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเก็บเชอร์รี่จากสวนในที่ประทับวิลล่าวัฒนา มาพระราชทานให้แก่เจ้าของร้าน แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีความสุขที่ได้มากินอาหารร้านนี้ เลยมีของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก สิ่งนี้แสดงให้ผมเห็นว่าพระองค์ทรงมีพระทัยดีต่อผู้ที่ทรงทำงานให้ ทรงมีพระราชหฤทัยดี มีพระเมตตาต่อคนรอบข้างเสมอ” ผู้เรียบเรียงหนังสือกล่าว
ด้าน นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า คนรุ่นหลังๆ จะได้ทราบถึงเรื่องราวเก่าๆ ผ่านภาพถ่ายชุดสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพถ่ายที่แทบไม่เคยได้เห็นเลย เพราะบันทึกโดยพระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงของในหลวงทั้งสองพระองค์ (รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9) ทั้งมีภาพของสมเด็จพระราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สะท้อนพระจริยวัตรสมัยทรงพระเยาว์ จนช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ก็มีภาพเสด็จเยือนสวิตเซอร์แลนด์หลังจากนั้น นับเป็นอันซีนของคนไทย รวมถึงเรื่องราวในครอบครัวพระบรมวงศานุวงศ์ที่อบอุ่น น่าตื่นเต้นและไม่มีใครทราบมาก่อน
ในความรู้สึกของนักแปลภาคภาษาอังกฤษ ดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นแม่คน เมื่อได้มาแปลหนังสือเล่มนี้ รู้สึกประทับใจในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงอภิบาลพระโอรสและพระธิดาอย่างคนธรรมดา มีความมัธยัสถ์ อยากซื้อ อยากได้อะไรต้องเก็บเงินเอง เพราะสมัยนั้นเป็นยุคสงครามที่ทุกอย่างราคาแพงไปหมด และยังมีเรื่องราวน่ารักๆ ที่เห็นแล้วต้องยิ้มว่าเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมาก ส่วน ดร.อดิเทพ เวณุจันทร์ ผู้แปลภาษาไทย กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อนที่จะทรงรับภาระอันหนักหน่วง ซึ่งจะเห็นว่าพระองค์ทรงมีความสุขกับพระเชษฐาและพระพี่นางมาก ทรงมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันมากมายอยากให้คนไทยได้เห็นเรื่องราวผูกพันของพี่น้องที่ชวนปลื้มปีติ
สำหรับผู้สนใจสามารถซื้อหนังสืออันทรงคุณค่านี้ได้ที่ร้านเอเชียบุ๊คส์ทุกสาขา รายได้จากการจำหน่ายหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย