
เอล ชาโป คือใคร
19 ก.ค. 2558
เอล ชาโป คือใคร
ทางการเม็กซิโกและสหรัฐ ต้องออกแรงเหนื่อยกันอีกครั้ง ในการแกะรอยไลล่า ฆัวกิน กุซมาน หัวหน้าแก๊งยาเสพติดซีนาเลา ที่หลบหนีออกจากเรือนจำเป็นครั้งที่สองในรอบ 14 ปีเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม หลังจากเพิ่งตามจับตัวมาได้จากการแหกคุกครั้งแรกเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ทิ้งไว้แต่อุโมงค์ความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตรจากห้องอาบน้ำในห้องขัง นำพาเจ้าพ่อยาเสพติดไปโผล่ยังบ้านหลังหนึ่งบนเนินเขา ไว้ให้ดูต่างหน้า เป็นโจทย์หาคำตอบกันไปว่าสร้างได้อย่างไร ใช้เวลานานแค่ไหน หมดเงินไปเท่าไหร่ ใครช่วยคิดช่วยออกแบบ
ฆัวกิน กุซมาน หรือ เอล ชาโป หรือ เตี้ย (The Shorty) ฉายาที่มากับความสูง 168 ซม. แต่สื่ออเมริกันอย่างเอ็นบีซี ระบุว่า The Mole หรือตัวตุ่น เป็นฉายาที่น่าจะเหมาะกว่าสำหรับเขาคนนี้ที่ชีวิตวนเวียนอยู่กับอุโมงค์ใต้ดิน ทั้งสร้างเพื่อขนยาและหลบเงื้อมมือเจ้าหน้าที่ ขณะขยายเครือข่ายแก๊งยาเสพติดซีนาเลาจนทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ร่ำรวยจนฟอร์บส์ เคยจัดเข้าทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้าน ก่อนจะถอดออกไปเมื่อปี 2556 โดยอ้างว่าทรัพย์สินไม่ชัดเจน แต่ยังอยู่ในทำเนียบบุคคลโลกทรงอิทธิพลของฟอร์บส์ในอันดับที่ 67
เอล ชาโป เกิดในครอบครัวเกษตรกรยากจนในเมืองบาดีรากัวโต ในรัฐซีนาเลา ไม่มีใครรู้วันเดือนปีเกิดที่แน่ชัด โดยมากว่ากันว่าเกิดเมื่อ 25 ธันวาคม 2497 หรือ 4 เมษายน 2500 อายุจึงอยู่ระหว่าง 58-61 ปี
ในห้วงเวลาที่เกิดและเติบโตนั้น การค้ายาเสพติดในเมืองบ้านเกิดกำลังเริ่มเฟื่องฟู
ด้วยสภาพแวดล้อมและความจน กุซมานเข้าสู่วงการตั้งแต่ยังเด็กหลังออกจากโรงเรียนประถมกลางคัน เพื่อทำงานในไร่ฝิ่นและกัญชาประทังชีวิต ก่อนจะเข้าทำงานให้แก่ มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ กาญาร์โด เจ้าพ่อวงการแก๊งยาเสพติดเม็กซิโกในเวลานั้น รับหน้าที่ติดต่อพ่อค้ายาในเมืองเมดิลินและบาร์รังกีญา ในโคลอมเบีย ซึ่งก็สามารถเจรจาได้ข้อตกลงส่งโคเคนเข้าสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ขณะเดียวกันก็เริ่มก่อตั้งแก๊งของตัวเองในปี 2524 และหลังจากเฟลิกซ์ กัลญาร์โด ถูกจับในปี 2532 แก๊งซีนาเลาของกุซมานเริ่มผงาดเป็นแก๊งใหญ่สุดของเม็กซิโกที่ป้อนโคเคน กัญชาและเฮโรอีนเข้าตลาดสหรัฐ
แม้มีชีวิตลึกลับ แต่ลือกันว่าชอบชีวิตหรูหรา มีสาวข้างกายไม่ขาด เอล ชาโป มีภรรยาอย่างน้อย 4 คน ลูกๆ 10 คนกับผู้หญิงหลายคน หนึ่งในภรรยาของเขาเป็นอดีตนางงามเม็กซิกัน วัย 18 ปี เอมมา โคโรเนล เมื่อปี 2550
เมื่อสมาชิกในครอบครัวและลูกส่วนใหญ่ตามรอยพ่อเข้าวงการยาเสพติด เอล ชาโป จึงสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุฆาตกรรมหลายคน อาร์ตูโร น้องชายของเขาถูกสังหารในคุกเมื่อปี 2547 ลูกชาย เอดการ์ ถูกมือปืนกระหน่ำยิงที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อปี 2551 แฟนสาว ซูเลมา เอร์นานเดซ ถูกรัดคอเสียชีวิต โดยพบศพอยู่ในกระโปรงรถ และหลานชายถูกยิงตายในงานเลี้ยง
การสั่งลอบสังหาร โรโดลโฟ การ์ริโญ ฟูเอนเตส หัวหน้าแก๊งฆัวเรสของเอล ชาโป เป็นจุดเริ่มต้นของการฟาดฟันนองเลือดชิงอำนาจและพื้นที่ระหว่างแก๊งยาและแก๊งอาชญากรรมอื่นๆ รวมถึงแก๊งเซตาส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 8 หมื่นคนนับจาก 2549 หรือตั้งแต่นายฟิลิเป คัลเดโรน ประธานาธิบดีเวลานั้น ใช้ทหารเข้ามาปราบ
เฉพาะที่เมืองซิวดาด ฆัวเรส แห่งเดียว มีผู้เสียชีวิตกว่าหมื่นคน จากเหตุรุนแรงระหว่างแก๊งซีนาเลากับฆัวเรซ เพื่อชิงความเป็นใหญ่ในเส้นทางส่งยาใกล้ชายแดนรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
เมื่ออำนาจยิ่งมาก กุซมานยิ่งต้องคิดวิธีแยบยลล้ำทางการไปหลายๆ ก้าว เช่น สร้างทางรถไฟ ซื้อเรือดำน้ำและอุโมงค์
เดอะ นิวยอร์กเกอร์ รายงานว่า กุซมานกำกับสถาปนิกส่วนตัว นายฟิลิเป เด เฆซุส โคโรนา เบร์เบรา ด้วยตนเอง ในการออกแบบอุโมงค์ใต้ดินไปโผล่ยังโกดังในฝั่งสหรัฐ นอกจากนี้ เอล ชาโป ยังสร้างอาณาจักรธุรกิจการค้าและชิปปิ้งของตัวเองเพื่อสนับสนุนการค้ายาเสพติดอีกต่อหนึ่ง
เหตุการณ์หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเอล ชาโป แต่มาทราบในภายหลังคือ การลอบสังหารพระคาร์ดินัลและอาร์คบิชอปแห่งกัวดาฆารารา ที่สนามบินกัวดาฆารารา เมื่อปี 2536 เป็นเพราะมือสังหารจากแก๊งยาเสพติดคู่อริ สาดกระสุน 38 นัด หวังปลิดชีวิตเอล ชาโป แต่ยิงรถผิดคัน ส่วนรถของเอล ชาโป จอดอยู่ออกไปไม่ไกลนัก
หลังจากนั้น เอล ชาโป พลาดท่า ถูกจับตัวได้ในปีเดียวกันที่กัวเตมาลาและส่งตัวกลับมาเข้าคุกในเม็กซิโก แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรค เอล ชาโปยังสั่งการและบริหารแก๊งจากหลังกรงขัง แถมยังใช้ชีวิตราวพระราชา รายล้อมด้วยคนสนิทและผู้คุมที่รับเงิน กระทั่งในปี 2544 ได้รับการช่วยเหลือหลบหนีออกมาจากคุกได้โดยซ่อนตัวในรถเข็นผ้า เชื่อกันว่าเอล ชาโป ใช้เงินประมาณ 2.5 ล้านดอลลาร์ในการติดสินบนและอื่นๆ หลบหนีได้ 13 ปี ที่สุดถูกจับอีกรอบเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งนานพอสำหรับการขยายอาณาจักรธุรกิจออกไปไกลทั่วโลก
เกราะป้องกันตัวของเอล ชาโป คือเครือข่ายของผู้จงรักภักดี จ่ายหนักให้แก่สายข่าว และเจ้าหน้าที่ทุจริต บทจะใช้อำนาจก็สุดโหดเหี้ยม แต่ในสายตาของชาวบ้านในบ้านเกิด เอล ชาโป คือพระเอก ซึ่งเป็นเพราะพื้นที่ที่แก๊งซีนาเลาคุมอยู่ รายได้ส่วนใหญ่มาจากการค้ายาเสพติด และเอล ชาโป นำเงินนั้นมาใส่ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น ดูแลโครงสร้างพื้นฐานและช่วยเหลือคนยากจน จึงไม่น่าสงสัยว่าภาพลักษณ์ โรบินฮู้ด มาจากไหน มีผู้แต่งเพลงขับร้องยกย่องชื่นชม เมื่อถูกจับกุม ผู้สนับสนุนในซีนาเลาถึงกับออกมาประท้วง แม้ว่าคนคนเดียวกันนี้อยู่เบื้องหลังการเข่นฆ่าเพื่อนร่วมชาติมากมาย รวมถึงตำรวจและประชาชนผู้บริสุทธิ์
แผนหลบหนีครั้งแรกอันแยบยล ยิ่งเสริมความเป็นตำนาน แถมมีเรื่องเล่าราวกับฉากหนังฮอลลีวู้ดแนวเจ้าพ่อระหว่างหลบหนี ว่า เอล ชาโป เข้าไปใช้บริการร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยขอให้ลูกค้ามอบมือถือให้บอดี้การ์ด นั่งกินเงียบๆ ไป แล้วก็ช่วยออกค่าอาหารแก่ทุกคนค่าที่ไม่ได้รับความสะดวก
ในการตามจับตัวครั้งแรก ทีมสอบสวนอเมริกันพยายามแกะรอยกุซมานทั้งดักฟัง และให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่เม็กซิโก แต่กุซมานมักไหวตัวทันและออกประตูลับหรืออุโมงค์ลับหนีรอดในนาทีสุดท้าย กว่าจะรวบตัวได้เมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เวลานั้น อัยการในหลายเมืองของสหรัฐที่มีลูกค้ายาเสพติดของเอล ชาโป ต่างก็อยากได้ตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐ แต่เม็กซิโกไม่ยอมและมั่นใจว่าจะเอาอยู่ ครั้งนี้หากตามจับตัวไม่ได้เร็ววัน ก็เชื่อว่าจะเป็นตำนานเล่าขานอีกเรื่องของเอล ชาโป
( ต่อมา ทางการเม็กซิโก ตามจับ เอล ชาโป ได้อีกครั้งเมื่อมกราคม 2558 )