
โสเภณีข้ามชาติ (ตอน1) หอกข้างแคร่สังคมไทย
12 ก.ค. 2558
เรื่องเล่าข่าวดัง : โสเภณีข้ามชาติ (ตอน1) หอกข้างแคร่สังคมไทย : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม
บ้านชั้นเดียวก่ออิฐถือปูนหลังคามุงด้วยสังกะสีสภาพค่อนข้างเก่า ปลูกอยู่สุดทางถนนลูกรัง ซึ่งแดดช่วงฤดูแล้งแผดเผาน้ำผิวดินจนแห้งเหือดเหลือไว้แต่ฝุ่นผงที่ลอยละลิ่วปกคลุมไปทั่วบริเวณทุกครั้งที่มีรถสัญจรผ่าน
เพราะความที่ปลูกอยู่สุดทางทำให้บ้านหลังนี้ไม่ใช่ทางผ่าน ซึ่งด้วยที่ตั้งลึกสุดซอยบ้านหลังนี้จึงไม่น่าจะพลุกพล่านนัก แต่ความเป็นจริงต่างไปจากนั้น เมื่อภายในบ้านหลังนี้กลับพลุกพล่านไปด้วยผู้ชายมากหน้าหลายตาที่แวะเวียนเข้าไปหาความสำราญภายในบ้านหลังนี้
โต๊ะค่อนข้างเก่า 3-4 ตัว วางอยู่กลางห้องโถงของตัวบ้าน มีเก้าอี้ไม้ซึ่งอายุการใช้งานไม่น่าจะแตกต่างจากโต๊ะมากนัก ถูกใช้เป็นสถานที่รับรองอาคันตุกะที่แวะเวียนมาเยือน เวลาเคลื่อนคล้อยหลังจากนั้นไม่นานชายฉกรรจ์วัย 40 ปีเศษ เจ้าของบ้านก็ส่งเสียงเรียกเด็กสาว ซึ่งอยู่ในวัยไล่เลี่ยกันกว่า 20 คน ออกมาจากห้องพักที่ถูกแบ่งซอยเป็นห้องเล็กๆ ราว 10 กว่าห้อง
“พี่สนใจคนไหนเลือกเอาได้เลยเพิ่งมาใหม่ๆ กันทั้งนั้น” เจ้าของบ้านบอกด้วยภาษาไทย สำเนียงแปร่งๆ ที่คนฟังรับรู้ได้ว่าผู้พูดไม่ใช่เจ้าของภาษา ซึ่งคำพูดเช่นนี้จะได้ยินจากปากของชายวัย 40 ปีเศษรายนี้ แทบทุกครั้ง ที่มีชายชาวไทยเข้าไปภายในบ้านของเขา
เป็นที่รับรู้กันดีว่า บ้านชั้นเดียวสภาพค่อนข้างเก่าปลูกอยู่ตรงสุดซอยบนเกาะสอง ของพม่า หลังนี้ เปิดเป็นซ่อง ที่มีหญิงสาวจากย่างกุ้ง และจังหวัดทางภาคกลางของพม่า รอให้บริการแก่ชายนักเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย มานับสิบปี ซึ่งซ่องแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งฝึกงานบริการแล้ว ยังเป็นแหล่งฝึกภาษาไทยสำหรับเด็กสาวชาวพม่าที่ตัดสินใจจะเดินทางข้ามทะเลเข้ามาเสี่ยงโชคในประเทศไทย
เด็กสาวเหล่านี้จะใช้เวลาอยู่ในซ่องบนเกาะสองราว 3 เดือน ก่อนจะถูกเอเย่นต์ค้าผู้หญิง ซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกันทั้งที่เป็นคนไทยและชาวพม่า โดยในไทยมีเอเย่นต์ใหญ่อยู่ราว 10 ราย ในตัวเมืองระนอง
หลังจากหญิงสาวพร้อมเดินทางเข้าไทยก็จะถูกเอเย่นต์ค้าผู้หญิงฝั่งพม่านำตัวมาส่งให้เอเย่นต์ในฝั่งไทย โดยใช้บริการเรือโดยสารข้ามฝั่ง เหมือนกับชาวพม่าและชาวไทยรายอื่นๆ ที่มีการเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ตามระเบียบชาวพม่าที่ข้ามมาจากเกาะสอง โดยมีบอร์เดอร์พาส จะสามารถพักอาศัยในไทยได้ 7 วัน และสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ภายในรัศมี 15 กิโลเมตร หลังจากผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณสะพานปลา ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง
เครือข่ายค้าผู้หญิงจะอาศัยข้อปฏิบัตินี้นำหญิงจากเกาะสองเข้ามาขายบริการทางเพศ โดยมักแฝงอยู่กับร้านคาราโอเกะ และซ่องที่เปิดเป็นอพาร์ตเมนต์บังหน้า มีศูนย์กลางแหล่งใหญ่อยู่ในย่านสะพานปลาซอย 3
“สะพานปลาซอย 3 เปรียบเสมือนห้องรับแขกของผู้ที่นิยมเที่ยวผู้หญิงมานานหลายปี ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้น หากมาระนองแล้วไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงระนอง” ชายชาวระนองวัย 38 ปี ซึ่งทำหน้าที่มัคคุเทศก์จำเป็นให้แก่ทีมงาน บอก
เมื่อครบกำหนด 7 วัน หญิงสาวส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่เดินทางกลับประเทศ บางส่วนเลือกที่จะค้าบริการทางเพศต่อในซ่องย่านสะพานปลาซอย 3 อย่างเดิม
ย้อนหลังไป 2-3 ปีก่อน ปัญหาการค้าบริการทางเพศหญิงสาวชาวพม่าในระนองเป็นไปอย่างแพร่หลาย จนหน่วยงานที่มีหน้าที่ในด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับประเทศ ทั้งตำรวจ บก.ปคม. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รวมถึงเอ็นจีโอ หลายกลุ่ม ให้ความสนใจเข้าไปแก้ปัญหานี้ ขณะที่จังหวัดระนองเอง ฝ่ายปกครองได้ร่วมกับทหารกองกำลังเทพสตรี เข้าไปจัดระเบียบต่างด้าวภายใต้แผนงาน “ระนองโมเดล” ซ่องในย่านสะพานปลาซอย 3 จึงถูกจัดระเบียบไปด้วย
ซึ่งบรรดาเอเย่นต์ค้าผู้หญิงที่นี่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการลูกค้า จากเดิมที่เคยเปิดพื้นที่ให้สำหรับลูกค้าได้พบเจอกับหญิงชาวพม่าในสถานที่ให้บริการทางเพศโดยตรง ได้เปลี่ยนมาใช้วิธีนำภาพถ่ายหญิงสาวมาให้ลูกค้าเลือก เมื่อตกลงกันได้แล้วจึงให้ลูกค้าเปิดห้องพักรอรับบริการจากหญิงสาว โดยเอเย่นต์จะทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับหญิงสาวจากห้องพักที่อยู่ในละแวกนั้นมาส่งมอบให้
“ต้องหาเงินส่งกลับไปบ้านที่ย่างกุ้ง ส่งให้ทุกเดือน อย่างน้อย 5 พัน อยู่ไทยสบายกว่าฝั่งโน่นเยอะ ทำงานแบบนี้ได้เงินง่าย ผู้ชายไทยใจดี ให้ทิปเยอะ อยู่ฝั่งโน่นก็หนีเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่ดี เลยเลือกมาทำแบบนี้” หญิงค้าบริการชาวพม่า บอกถึงเหตุผล
หญิงสาวชาวพม่าจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะไม่เดินทางกลับประเทศหลังบอร์เดอร์พาสหมดอายุ ซึ่งนอกจากจะเลือกใช้ชีวิตอยู่ใน จ.ระนอง แล้ว ยังเลือกที่จะให้เอเย่นต์ค้าผู้หญิงส่งพวกเธอให้เครือข่ายค้าผู้หญิงนอก จ.ระนอง โดยส่วนหนึ่งถูกส่งต่อไปยังจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และจังหวัดที่เป็นเมืองที่เป็นศูนย์รวมของแรงงานประมงในจังหวัดทางภาคใต้ตอนล่าง บางส่วนถูกส่งต่อมายังหลายจังหวัดในภาคกลาง
เป็นที่รับรู้ในกลุ่มเอเย่นต์ค้าผู้หญิง พวกเธอคือ “สินค้ามีชีวิต” ที่พร้อมใช้ร่างกายแลกเงิน พวกเธอจึงถูกส่งเข้าไปขายบริการทางเพศ โดยส่วนใหญ่จะแฝงอยู่ตามร้านคาราโอเกะ ในแหล่งที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันกับเอเย่นต์ค้าผู้หญิงใน จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นทาง
“ปากน้ำชุมพร ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุไหงโก-ลก หรือแม้แต่ย่านปากน้ำปัตตานี รวมถึงสมุทรสาคร มีเครือข่ายค้าผู้หญิงเชื่อมโยงกันหมด มีหญิงสาวจากพม่าที่เข้ามาทาง จ.ระนอง ไปหมด ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานมากแล้ว” เจ้าหน้าที่ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคใต้ ให้ข้อมูล
หญิงสาวจากพม่าที่เข้าเมืองมาทางด้าน จ.ระนอง นอกจากจะอาศัยข้อปฏิบัติเกี่ยวกับบัตรผ่านแดนชั่วคราว หรือบอร์เดอร์พาส เดินทางเข้าไทยในฐานะนักท่องเที่ยวแล้ว มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกเครือข่ายค้าผู้หญิงนำพาเข้าประเทศโดยการหลบหนีเข้าเมือง อาศัยเรือหางยาวข้ามทะเลเข้ามาในเวลากลางคืน โดยมักขึ้นฝั่งประเทศไทยที่ชายฝั่งย่านบ้านหินช้าง และบ้านปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง
หลังประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเริ่มขึ้น การเดินทางในประเทศกลุ่มสมาชิกจะเป็นไปโดยง่าย การนำพาหญิงสาวจากพม่าเข้ามาขายบริการทางเพศในไทยก็จะทำได้โดยสะดวกขึ้นเช่นกัน จ.ระนอง เป็นเพียงหนึ่งในพื้นที่ต้นทางที่ขบวนการค้ามนุษย์นำหญิงสาวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายบริการทางเพศในไทย ไม่แตกต่างจากหลายจังหวัดที่เป็นพื้นที่ตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ...ติดตามต่อตอนหน้า
-------------------
(เรื่องเล่าข่าวดัง : โสเภณีข้ามชาติ (ตอน1) หอกข้างแคร่สังคมไทย : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)