นัดดวลหุ่นยนต์ยักษ์ครั้งประวัติศาสตร์ | คมชัดลึก

 

        "ซูอิโดบาชิ เรามีหุ่นยนต์ยักษ์ คุณก็มีหุ่นยนต์ยักษ์ คุณก็น่าจะรู้ว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้น เราขอท้าดวลกับคุณ” สารท้ารบผ่านคลิปวิดีโอบนยูทูบ ที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโลกแห่งหุ่นยนต์ ที่เกิดขึ้นจากปากของนายแมทท์ โอห์เรอลิน และกุย คาวัลคานตี สองผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเมกะบ็อทส์ ในสหรัฐอเมริกา ที่ส่งไปถึงบริษัท ซุอิโดบาชิ เฮฟวี อินดัสตรี ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อท้าทายให้เกิดการดวลการต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์ยักษ์ที่ทั้งสองฝ่ายสร้างขึ้นมาได้สำเร็จ

 

        ที่ผ่านมาการประลองหุ่นยนต์ยักษ์นั้นเกิดขึ้นบนแผ่นกระดาษในหนังสือการ์ตูน ไม่ก็หน้าจอภาพยนตร์ในรูปแบบของแอนิเมชั่นเท่านั้น แต่การดวลระหว่างหุ่นยนต์ยักษ์ของทั้งสองบริษัทที่อยู่ต่างประเทศ ต่างทวีปครั้งนี้ จะนับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลก เมื่อนายโคโกโระ คุราตะ ผู้ก่อตั้งบริษัทซูอิโดบาชิ เฮฟวี อินดัสตรี ตอบรับคำท้าจากฝ่ายอเมริกันอย่างไม่หวั่นไหว ทั้งยังกล่าวสำทับด้วยว่า “เราจะให้ประเทศอื่นชนะเราไม่ได้ หุ่นยนต์ยักษ์เป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น”

 

        หุ่นยนต์ที่ควบคุมด้วยมนุษย์ที่นั่งอยู่ในตัวหุ่นนั้น เกิดขึ้นมาในจินตนาการของนักเขียนการ์ตูนแดนอาทิตย์อุทัยมานานแล้วและปรากฏออกมาเป็นการ์ตูนสงครามอวกาศที่ใช้หุ่นยนต์ประเภทนี้ในการต่อสู้กัน เช่น การ์ตูน “กันดั้ม” และ “อีแวนเจเลียน” สองฝ่ายนัดดวลหุ่นยนต์ยักษ์กันในเดือนมิถุนายน 2559

 

        จุดเริ่มต้นของจุดหมายปลายทางที่มาบรรจบกันด้วยการดวงหุ่นยนต์ยักษ์จากสองทวีปมาจากการที่ต่างฝ่ายต่างพัฒนาหุ่นยนต์ยักษ์ขึ้นมาเติมเต็มความฝันของตนเอง

 

        เมื่อปี 2555 นายคุราตะ เริ่มต้นทำตามความฝันของเด็กชาย ด้วยการสร้างหุ่นยนต์คูราตาส ความสูง 4 เมตร ยืนได้ด้วยขาทั้ง 4 น้ำหนัก 4 ตันสามารถใช้งานชิ้นส่วนทุกชิ้นและเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วราว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแน่นอน บนหุ่นตัวนี้ มี “ค็อกพิท” ของผู้บังคับการ ที่ต้องให้คนปีนขึ้นไปนั่งอยู่ในห้องค็อกพิทแล้วบังคับควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ยักษ์ตัวนี้

 

        คู่ต่อสู้ของนายคุราตะนั้น เริ่มต้นจากโครงการระดมทุนเพื่อสร้างนวัตกรรมและธุรกิจ ที่เรียกกันว่า “สตาร์ท-อัพ” (Start-up) เมื่อปี 2557 ได้เงินทุนจำนวนหนึ่งไม่ถึงเป้าที่ 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้สร้างหุ่นยนต์ยักษ์ขนาดความสูง 4.6 เมตรมีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ และให้ชื่อว่า “เมกะโรบอทส์ มาร์ค ทู” ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การติดปืนเพ้นท์บอล ที่สามารถยิงกระสุนสีออกไปได้ที่ความเร็วกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

        กระนั้นก็ดี ฝ่ายญี่ปุ่นยังหยามหยันฝ่ายอเมริกันว่าน่าจะสร้างหุ่นยนต์ให้เจ๋งกว่านี้ขึ้นมา โดยนายคุราตะกล่าวว่า “ไม่เอาน่าเพื่อน สร้างหุ่นให้เจ๋งกว่านี้อีกหน่อย ให้ดีกว่าแค่สร้างหุ่นตัวโตๆ แล้วติดปืนเข้าไปที่ดูเป็นอเมริกันเหลือเกิน”

 

        กติกาในการดวลหุ่นยนต์ของทั้งสองฝ่ายคือ การต่อสู้ด้วยมือเปล่าซึ่งนายคุราตะกล่าวว่าจะ “ต่อย (คู่ต่อสู้) ให้พังเป็นเศษเหล็ก”

 

        ทั้งสองฝ่ายยังมีเวลาปรับปรุงพัฒนาหุ่นยนต์อีกราว 1 ปี ก่อนที่จะเปิดศึกประลองหุ่นยนต์ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้หุ่นยนต์ของตนนั้น ดีขึ้นไปอีก

 

        สำหรับคนภายนอกที่สนใจจะเป็นเจ้าของหุ่นยนต์คูราตาส ของนายคุโรตะนั้นอาจจะต้องรอโอกาสดีๆไปก่อน เพราะนายคุโรตะเคยประกาศขายชุดประกอบหุ่นยนต์ยักษ์ไว้ในเว็บไซต์อะเมซอนดอทคอม ที่ราคา 120,000,000 ล้านเยน (ประมาณ 32 ล้านบาท) แต่ตอนนี้ประกาศขายหุ่นยนต์ยักษ์นั้นหายไปจากเว็บไซต์แห่งนี้แล้ว