ข่าว

ส่งวัวแคระอินเดียพันธุ์อึดสู้โลกร้อน

ส่งวัวแคระอินเดียพันธุ์อึดสู้โลกร้อน

04 ก.ค. 2558

เวิลด์วาไรตี้ : ส่งวัวแคระอินเดียพันธุ์อึดสู้โลกร้อน

 
          มนุษย์ย่อมพยายามหาทางปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้เสมอ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ดังเช่นที่เป็นมาในอดีตจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต
 
          แม้สภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นใด มนุษย์ย่อมใช้ความฉลาดในการ “รับมือ” ได้เสมอ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในอินเดีย ที่นักวิชาการกำลังหาทางออกให้แก่คนยากจนที่ต้องเผชิญกับภาวะความแห้งแล้งรุนแรง ยาวนาน อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก
 
          อนันธากิชมาน คานนาปาน หัวหน้าครอบครัวคนเลี้ยงวัวนมในเมืองอนันตปุระ รัฐกรณากฏะ ทางตอนใต้ของอินเดีย ที่เลี้ยงวัวมากว่า 30 ปี บอกว่า เป็นครั้งแรกที่เกิดมหันตภัยทางธรรมชาติเช่นนี้ในปัจจุบัน บีบให้คนเลี้ยงปศุสัตว์ในอินเดียต้องยอมขายสัตว์ของตนออกไป แม้จะได้รับค่าตอบแทนต่ำมากก็ตาม เนื่องจากอดทนเลี้ยงปศุสัตว์ในสภาพอากาศร้อน แล้ง ขาดน้ำ และฟาง ซึ่งเป็นอาหารของปศุสัตว์ไม่ได้อีกต่อไป
 
          แต่นักวิชาการในอินเดียก็ไม่ย่อท้อต่อปัญหา และได้หาทางออกให้แก่ชาวบ้านตาดำๆ ที่อาศัยน้ำนมสัตว์เป็นเครื่องเลี้ยงชีพ ด้วยการนำเสนอวัวแคระ ตัวเล็ก ที่ทนทานต่ออากาศร้อนและสภาพความแล้งได้มากเป็นพิเศษ
 
          ทีมนักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยสัตวแพทย์และสัตวศาสตร์กรณากฏะ และกรมสัตวบาล แห่งรัฐกรณากฏะ ออกโรงส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมือง อย่าง พันธุ์เวเชอร์ และ คาซาก๊อดแคทเทิล ที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อโรคภัย และที่สำคัญที่สุดสามารถรับมือกับอุณหภูมิอากาศที่สูงมากได้ดีกว่าวัวสายพันธุ์ผสมที่เป็นที่นิยมมากกว่า
 
          นักวิชาการด้านปศุสัตว์อธิบายว่า วัวท้องถิ่นในอินเดียทนทานต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ดีกว่า แม้จะมีตัวเล็กจนเรียกกันเล่นๆ ว่า “วัวแคระ” แต่ในพันธุกรรมของวัวชนิดนี้มีการปลูกฝังมาให้ทนต่อความร้อน
 
          ในเวลานี้ชาวอินเดียบางส่วนให้ความสำคัญกับวัวท้องถิ่นขนาดเล็กมากขึ้น เนื่องจากวัวชนิดนี้กินอาหารและน้ำน้อยกว่า และครอบครัวขนาดเล็กก็เลี้ยงวัวชนิดนี้เพียง 1-2 ตัว ก็มีน้ำนมเพียงพอต่อการบริโภคแล้ว
 
          วัวพื้นบ้านของอินเดียยังมีราคาเท่าๆ กับวัวสายพันธุ์ผสม คือราว 20,000 รูปีต่อตัว (ประมาณ 9,000 บาท) ปัจจุบันมีวัวราว 2.3 ล้านตัว ในรัฐกรณากฏะ แต่มีวัวแคระเพียง 6.5% เพราะวัวสายพันธุ์ผสมสามารถให้นมได้มากกว่าเมื่อมีสุขภาพดี เกษตรกรรายหนึ่งบอกว่า วัวพันธุ์ผสมจะให้นมราว 10 ลิตร ขณะที่วัวแคระให้นมเพียง 4 ลิตร ในสภาพที่เท่าๆ กัน
 
          แต่ บาชาร์ บัลลากริชนาน เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวในเมืองกาลิกัต แย้งว่า น้ำนมของวัวสายพันธุ์พื้นเมืองมีราคาดีกว่านมจากวัวสายพันธุ์ผสม โดยประสบการณ์ตรงของเธอพบว่า น้ำนมสายพันธุ์พื้นเมืองมีราคาสูงกว่าน้ำนมของวัวสายพันธุ์ผสมถึง 3 เท่า
 
          และแม้จะมีราคาสูงกว่า ก็ยังมีตลาดรองรับที่ชัดเจน เป็นกลุ่มคนร่ำรวยที่อาศัยอยู่ในตึกสูงในเมืองคาลิกัต ที่เชื่อมั่นว่า นมจากวัวพื้นเมืองมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์กว่านมจากวัวชนิดอื่น
 
          เรียกได้ว่า อินเดีย มีขุมสมบัติที่อยู่ในประเทศอยู่แล้ว และเหมาะที่จะนำมาใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกอยู่ในภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรุนแรง นั่นเอง