น้ำใจคนไทยในยามวิกฤติ | คมชัดลึก

 

                       เกิดวิกฤติเมื่อใด เรามักจะได้เห็นน้ำใจของคนไทยเสมอ ซึ่งนอกจากจะช่วยกันเองในยามยากแล้ว เรายังแบ่งปันน้ำใจไปยังเพื่อนบ้านที่เดือดร้อนโดยไม่รีรอด้วย ล่าสุดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาล ก็ได้เห็นคนไทยทุกภาคส่วนของสังคมเร่งระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือ ไม่ใช่ทำโดยหน้าที่ แต่เกิดจาก “จิตใจอาสา” ล้วนๆ

 

                       นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้ำใจและความเอื้ออาทรของไทยส่งไปต่างแดน ก่อนหน้านี้มีหลายเหตุการณ์ที่น่าจะจำกันได้ ทั้งพายุนาร์กีสในพม่า, พายุไห่เยี่ยนถล่มฟิลิปปินส์ และกรณีแผ่นดินไหวในเฮติ ซึ่งการช่วยเหลือของคนไทยได้สร้างความแปลกใจให้สังคมโลก เพราะมียอดเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัยเฮติมากที่สุดในโลกเป็นจำนวนกว่า 160 ล้านบาท จนมูลนิธิการกุศลระหว่างประเทศ (Charities Aid Foundation-CAF) จัดอันดับ 153 ประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับจิตอาสา พบว่าไทยติดอันดับ 9 โดยเฉพาะเรื่องการระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือเป็นจำนวนเงินมาก พอๆ กับการบริจาคของอังกฤษและไอซ์แลนด์เลยทีเดียว

 

                       ผมภูมิใจ...ที่เกิดเป็นคนไทยและได้เห็น “น้ำใจ” ในยามวิกฤติ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในเนปาล ต้องชื่นชมกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของคนไทยในครั้งนี้ ที่แม้เศรษฐกิจบ้านเรายังไม่ค่อยจะสู้ดีนัก แต่การแสดงน้ำใจบริจาคเงินเข้าช่วยเหลือทั้งประเทศยอดเงินวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ก็สูงถึง 186 ล้านบาท ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจชั้นนำที่ร่วมบริจาค เช่น ไทยเบฟเวอเรจ บริจาคเงิน ยา และผ้าห่ม มูลค่ารวม 10 ล้านบาท, เชฟรอนประเทศไทย 1 ล้านบาท, ปตท. 9 ล้านบาท, อินทัช 2 ล้านบาท, เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซีพี ออลล์ และทรู คอร์ปอเรชั่น บริจาคเงินสดและสิ่งของดำรงชีพ น้ำ, อาหาร, ยา รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท แถมยังใช้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นช่องทางรับบริจาคเงินจากชาวไทยทั่วประเทศโดยไม่คิดค่าบริการ

 

                       ยิ่งวิกฤติมากเท่าไร “น้ำใจ” และ “ความดี” ของคนไทยจะยิ่งปรากฏให้เห็นมากเท่านั้น อย่างที่บอกคนไทยช่วยกันอย่างเต็มกำลัง เท่าที่ทราบมาตอนนี้ภาครัฐยังได้ส่งทีมแพทย์ไปเนปาลแล้ว 2 ผลัด แถมจัดหาทั้งเครื่องกรองน้ำ, ส้วมสนาม และยารักษาโรค ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ป่วยเพราะเริ่มมีปัญหาโรคระบาด จนองค์การอนามัยโลกเอ่ยปากชื่นชมในทีมแพทย์ไทย

 

                       เรื่องที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟัง ทั้งหมดนี้ทำให้ผมกลับมาคิดว่า...ยิ่งเกิดวิกฤติมากเท่าไร ยิ่งเห็นน้ำใจและความดีของคนไทยมากเท่านั้น ที่สุดแล้ว “คนดีไม่มีวันตาย” เหมือนกับน้ำใจไม่มีวันแห้งแล้งไปจากสังคมไทย ดังคำที่พ่อหลวงเคยสอนไว้ว่า “คนดี” ทำให้คนอื่นดีได้ หมายความว่าคนดี ทำให้เกิดความดีในสังคม คนอื่นก็ดีไปด้วย ความเลวนั้นจะทำให้คนดีเป็นคนเลวก็ยาก แต่เป็นไปได้ ถ้าคนดีเข้มแข็งในความดี...จะทำให้คนเลวมาทำให้คนดีเป็นคนเลวยาก สำคัญอยู่ที่ “ความเข้มแข็งของคนดี”

 

                       ก็ได้แต่หวังว่าความมีน้ำใจ ความดีงาม และนิสัยชอบการช่วยเหลือผู้อื่นของคนไทยนี้ จะเป็นคุณสมบัติที่ถูกปลูกฝังและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นไปอีกนานเท่านาน

 

 

 

 

----------------------

 

(เล่าสู่กันฟัง : น้ำใจคนไทยในยามวิกฤติ : โดย...บัญญัติ คำนูญวัฒน์)