
เจ้าอาวาสวัดย่านฝั่งธนฯโรครุมเร้ายิงตัวเองดับคากุฏิ
12 พ.ค. 2558
เจ้าอาวาสวัดย่านฝั่งธนฯโรครุมเร้ายิงตัวเองดับคากุฏิ
วันที่ 12 พ.ค.58 เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.ต.อาทิตย์ ศรีสุพจน์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีพระภิกษุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองมรณภาพ ภายในวัดประเสริฐสุทธาวาส ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.ท.ณัฐจักร จันลา รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในกุฏิมาเจริญ ลักษณะเป็นอาคารปลูกครึ่งตึกครึ่งไม้สูง 2 ชั้น ตรวจสอบบริเวณห้องชั้นล่างซึ่งเป็นสำนักงานของเจ้าอาวาส พบว่าแอร์ยังเปิดอยู่ บนเตียงไม้ตรงกลางห้องพบศพ พระครูวิสุทธิปัญญากร อายุ 61 พรรษา ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมอังสะ นุ่งผ้าสบง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .32 เข้าที่หน้าผากทะลุท้ายทอย 1 นัด ใกล้กันที่ข้างศีรษะฝั่งขวาพบอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อสตาร์ขนาด .32 ตกอยู่ 1 กระบอก ถัดไปไม่ไกลพบว่าหมอนสีแดงมีร่องรอยกระสุนทะลุเป็นรูโหว่วางอยู่ 1 ใบ และจดหมายสั่งเสียเขียนด้วยลายมือผู้เสียชีวิต “ให้นำเงินสดส่วนตัว จำนวน 100,000 บาท แบ่งไปทำบุญและมอบให้ญาติพี่น้อง” จำนวน 1 ฉบับ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งนิติเวชฯ รพ.ศิริราช
จากการสอบถาม พระชัยวัฒน์ ราช่อง อายุ 36 พรรษา พระลูกวัดที่ปรนนิบัติเจ้าอาวาสอยู่เป็นประจำ เล่าว่า ก่อนพบศพเมื่อช่วง 21.00 น.วันที่ 11 พ.ค.58 อาตมามีกิจนิมนต์สวดอภิธรรมศพให้ญาติโยมในวัดพอสวดจบก็เดินเข้ามาในสำนักงานหลวงพ่อเจ้าอาวาสซึ่งเป็นห้องกระจกใสมองเห็นภายในได้พบว่าไฟปิดอยู่ ส่วนหลวงพ่อยังนอนอยู่บนเตียงไม่เคลื่อนไหว จึงคิดว่าท่านจำวัดตามปกติ กระทั่งประมาณตี 1 ที่ผ่านมาเดินมาดูอีกครั้งก็พบว่าไฟยังปิดอยู่เช่นเดิมและประตูทางเข้าก็ไม่ได้ล็อก จึงตัดสินใจเดินเข้ามาเรียกหลวงพ่อเพื่อปลุกให้ท่านตื่นขึ้นมาล็อกประตู แต่กลับไม่มีการตอบรับ เมื่อเปิดไฟก็พบว่าท่านมรณภาพแล้ว รวมทั้งมีอาวุธปืนตกอยู่ข้างๆ ด้วย จึงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่วัดที่เกี่ยวข้องให้เดินทางมาที่วัดและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าท่านคงเกิดความเครียดเรื่องสุขภาพร่างกายประกอบกับเป็นคนพูดน้อยไม่เคยระบายปัญหาอะไรให้ใครฟัง
ด้าน พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เปิดเผยว่า ทางแพทย์สันนิษฐานว่า หลวงพ่อมรณภาพมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ส่วนตอนเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียงปืนเนื่องจากมีการใช้ปากกระบอกปืนอัดใส่หมอนก่อนลั่นไก จากการสอบถามพระลูกวัดและญาติๆ ทราบว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสมีโรคเบาหวานและมีอาการปวดข้อเข่ารุมเร้า เพิ่งผ่าตัดหัวเข่าข้างขวามาได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งอาการเบาหวานต้องทานยาตลอด
“เบื้องต้นเมื่อเทียบลายมือในจดหมายสั่งเสียก็ตรงกับหนังสือฉบับอื่นที่ท่านเคยเขียนเอาไว้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบอาวุธปืนว่าเป็นของผู้ใด ลายนิ้วมือแฝงตรงกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ และเพื่อความไม่ประมาทจะทำการตรวจสอบเขม่าดินปืนบุคคลใกล้ชิดทุกรายที่พักอาศัยในวัดก่อนสรุปสำนวนคดีตามคำให้การของพยาน หลักฐานที่พบ และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ” พ.ต.อ.ชูศักดิ์ กล่าว