
สานฝันวัยเด็กเป็นเจ้าของกิจการรองเท้ากีฬา
สานฝันวัยเด็ก เป็นเจ้าของกิจการรองเท้ากีฬา : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดยสันทนา รัตนอำนวยศิริ
หากคุณเป็นนักกีฬา หรือชื่นชอบการออกกำลังกาย สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ชุดกีฬาคือ "รองเท้า" ที่ต้องรองรับการเคลื่อนไหวของร่างกายในทุกอิริยาบถของการออกกำลังกายแต่ละประเภท รองเท้ากีฬาดีๆ มีมากมายหลายยี่ห้อ แต่เด็กหนุ่มคนนี้ "ชิน" ธนาคม รัชตโรจน์ เลือกที่จะนำเข้ารองเท้ากีฬายี่ห้อ "พีค" (PEAK) มาให้คนไทยสวมใส่เพื่อการออกกำลังกายและเล่นกีฬา
ชิน หรือ ธนาคม รัชตโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปอร์ต แพสชั่น อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้ารองเท้า เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา แบรนด์ "พีค" (PEAK) เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ในวัย 30 ต้นๆ เล่าถึงความตั้งใจในการทุ่มเทการเปิดบริษัท สปอร์ต แพสชั่น อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ด้วยตัวของเขาเองว่า เป็นลูกชายคนโตในครอบครัวคนจีน และมีน้องๆ อีก 4 คน ลูกทุกคนจะได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการทำมาหากิน มีความขยันอดทน และตั้งใจจริงในการทำงาน หลังจากที่จบปริญญาตรี และเข้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งประมาณ 6-7 เดือน ก็อยากจะตามฝันในการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงไปลงทะเบียนเรียนปริญญาโทที่วิทยาลัยบริหารจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาผู้ประกอบการและนวัตกรรม เพราะเชื่อว่า คณะวิชานี้จะสามารถบ่มเพาะให้สามารถออกมาประกอบธุรกิจได้เลย
"ส่วนตัว ผมเป็นคนชื่นชอบด้านกีฬา ชอบเสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา และสะสมรองเท้ากีฬา ตอนเป็นเด็ก เวลาไปเดินห้างจะตรงดิ่งเข้าไปแผนกกีฬาเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะรองเท้ากีฬาบาสเกตบอล ที่มีความสวยงามในตัว ผมเข้าขั้นหลงใหล แค่ได้จับๆ ลูบๆ ไม่ได้ซื้อ ก็มีความสุขแล้ว ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ถึงกับเคยฝันไว้ว่า วันหนึ่งถ้าได้เป็นเจ้าของธุรกิจ จะขายรองเท้ากีฬา เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา แรงบันดาลใจในวัยเด็ก ทำให้ผมมีวันนี้ วันที่ผมมีธุรกิจที่ผมชอบและรักมาตั้งแต่เด็ก อีกอย่าง ผมในฐานะพี่ชายคนโต ก็อยากให้น้องๆ มีส่วนร่วมในการทำธุรกิจร่วมกันในครอบครัวด้วย ความจริงคุณพ่อคุณแม่มีกิจการเป็นร้านขายทองรูปพรรณอยู่แล้ว แต่โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบ ผมชอบด้านกีฬามากกว่า คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ไม่สานต่อกิจการของครอบครัว แต่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนผมและน้องๆ ให้เป็นเจ้าของธุรกิจกันเอง"
วันหนึ่ง ได้ไปพบแบรนด์ "พีค" ซึ่งเน้นรองเท้าบาสเกตบอล อย่างที่ธนาคมฝันไว้ เขาจึงกลับมาค้นหาข้อมูล และเข้าไปเจรจาติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นรายแรกในประเทศไทย ช่วงแรกมีอุปสรรคมากมาย เพราะทางบริษัทแม่ แบรนด์ "พีค" ไม่มีความมั่นใจในตัวของเขาเลย ประมาณว่า เด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงกล้าหาญจะมาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย เพราะแบรนด์ "พีค" มีชื่อเสียงในวงการบาสเกตบอล ระดับเอ็นบีเอ กอปรกับประวัติส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้มีประสบการณ์ธุรกิจด้านนี้มาก่อน
"ตอนนั้น ผมอายุ 29 ปี ผมอยากทำธุรกิจนี้มาก ผมใช้วิธีตื๊อ เข้าไปหาบริษัทแม่บ่อยๆ ปรับเปลี่ยนแผนการตลาดหลายครั้ง เพื่อให้บริษัทแม่มั่นใจว่า เราทำได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้เขา บริษัทแม่เห็นถึงความพยายามของผม จึงตกลงให้บริษัทของผมเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย โดยเริ่มทีละขั้นตอนตามที่เขากำหนดมา จากเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยขยายจนถึงวันนี้เกือบ 2 ปีแล้ว บริษัทแม่พอใจในการบริหารงานของผม"
แบรนด์ "พีค" เปิดอย่างไม่เป็นทางการในปี 2555 เพื่อลองตลาด โดยช่วงแรกเน้นเรื่องการจัดอีเวนท์ กับการขายทางอินเทอร์เน็ต เป็นหลัก ด้วยการทดลองสอบถามความสนใจในแบรนด์ "พีค" ไปตามเว็บบอร์ดของคนรักบาสเกตบอลต่างๆ เพื่อสำรวจความต้องการของลูกค้า จากนั้นก็เริ่มขายทางออนไลน์ ทางเฟซบุ๊ก พอได้จำหน่ายในไทย ก็เริ่มจัดอีเวนท์ตามงานแฟร์เกี่ยวกับกีฬาต่างๆ เพราะถือว่า การออกบูธตามงานแฟร์เหล่านี้ เป็นการได้พบปะกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง
ธนาคม พูดถึงความพิเศษของรองเท้า "พีค" ว่า พีคมีเทคโนโลยีเด่นๆ อยู่ 3 ประการ คือ ระบบรองรับกันกระแทก 3 ชั้น (Cushion 3) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลัก และเป็นหัวใจสำคัญของรองเท้าพีค ช่วยป้องกันการกระแทกได้อย่างสมบูรณ์แบบ Gradient Dual เพิ่มการรองรับการกระแทกส่วนด้านหน้าและด้านหลัง ผสานกำลังพร้อมกระจายน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว และ Foothold ระบบที่ช่วยในการรองรับชั้นรองเท้าส่วนกลางได้อย่างดีเยี่ยม เชื่อมต่อระหว่างเท้าด้านหน้าและส้นเท้า เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการพลิกของเท้า
"พื้นรองเท้าพีค ทนมาก จนมีคำพูดติดปากว่า นุ่ม เบา ทนปูน บางครั้งใช้จนตัวรองเท้าสึกไปแล้ว แต่พื้นรองเท้าพีคยังอยู่เลย นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนไทยชอบในความทนทาน เบาสบาย นอกจากนี้ ราคาก็ไม่แพงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ"
ถ้าพูดถึงแบรนด์ของอุปกรณ์กีฬาบาสเกตบอลในเมืองไทยที่ได้รับความนิยมจากคนไทย มีไม่มากนัก ธนาคม มองว่า ถ้านำสินค้าแบรนด์ "พีค" เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย แนวโน้มการทำตลาดน่าจะออกมาดี หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ต และออกบูธตามงานแฟร์ จึงเริ่มนำสินค้าเข้าจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเมืองไทย เพิ่งฉลองครบ 1 ปีไปเมื่อเร็วๆ นี้
แนวทางการพัฒนาแบรนด์ "พีค" ในเมืองไทยขณะนี้ ธนาคม บอกว่า คนไทยเริ่มรู้จักมากขึ้น ต่อไปเขาอยากทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และกระจายไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่ขณะนี้มีทั้งหมด 10 สาขา ได้แก่ Peak concept Store สาขารามอินทรา กม.8 (สำนักงานใหญ่) Peak concept Store สาขาห้างสยามสแควร์วัน Peak corner at เดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ เดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน เดอะมอลล์ สาขาบางแค เดอะมอลล์ สาขาท่าพระ เดอะมอลล์ สาขาโคราช สปอร์ตเวิลด์สาขา แฟชั่นไอส์แลนด์ สปอร์ตเวิลด์สาขา เมกาบางนา สปอร์ตเวิลด์ สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
และเร็วๆ นี้ จะเปิดตัว Peak concept Store สาขาสวนหลวงสแควร์ และวางแผนหาตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเป็นลำดับต่อไป ขณะนี้ก็มีตัวแทนจากหลายจังหวัดติดต่อเข้ามา นอกจากนี้ ยังมีการขายในเว็บไซต์ด้วย
ธนาคม อยากเห็นคนไทยหันมาให้ความสนใจกับการสวมใส่ "รองเท้ากีฬา" คู่กับชุดทำงาน ชุดสุภาพ หรือชุดแฟชั่นทั่วไป เพราะปัจจุบันรองเท้ากีฬาพัฒนารูปลักษณ์มากขึ้น ทั้งรูปทรง สีสัน ความนุ่มเท้าเบาสบาย สามารถเลือกใส่ให้เข้าเสื้อผ้าได้ทุกสถานการณ์ อยากเห็น "สปอร์ตคู่กับแฟชั่น" เพราะรองเท้า "พีค" มีทั้งแบบสีสุภาพ และสีสันตามแฟชั่น ขึ้นอยู่กับกาลเทศะในการสวมใส่
"คนทำงาน ทำไมต้องใส่แต่รองเท้าหนัง ใส่สูทก็สามารถใส่รองเท้ากีฬาที่สุภาพได้ เป็นอีกรสนิยมของคนที่ชื่นชอบกีฬา และเน้นความสบายของเท้า บางครั้งต้องสวมใส่รองเท้าทั้งวัน ผมอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ในเมืองไทยบ้าง เพราะในต่างประเทศ เขาทำกันมานานแล้ว ดูสุภาพและดูดีมาก"
ผลิตภัณฑ์ของพีค ไม่ได้มีเฉพาะรองเท้าบาสเกตบอล แต่ยังมีชุดกีฬาต่างๆ รองเท้าใส่ออกกำลังกาย และเล่นกีฬาชนิดอื่น และที่เด่นรองจากบาสเกสบอล คือ รองเท้าใส่วิ่ง ที่นุ่มเบาสบาย รองรับการกระแทกจากการวิ่งได้เป็นอย่างดี สีสันสดใส รูปแบบทันสมัย ใส่แล้วไม่เชย ใส่ได้หลายโอกาส ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
บริษัท สปอร์ต แพสชั่น อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้กำลังสำคัญจากน้องสาวทั้ง 3 คน ได้แก่ "พลอย" รมยธร รัชตโรจน์ "แพรว" จิตริณี รัชตโรจน์ และ "พราว" จิตวารี รัชตโรจน์ ที่เขามาช่วยพี่ชายบริหารกิจการ โดยแบ่งหน้าที่กันดูแล ทั้งทางด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ บัญชี และอื่นๆ
ในเมื่อกิจการบริษัทเดินหน้าไปได้ด้วยดี ธนาคม ก็ให้ความสำคัญกับการให้การช่วยเหลือสังคม ด้วยการจัด "คลินิกบาสเกตบอล" ให้แก่โรงเรียนที่สนใจกีฬาบาสเกตบอล โดยนำทีมพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นนักบาสเกตบอลทีมชาติ เข้าไปช่วยแนะนำเทคนิคการเล่นบาสเกตบอล ทักษะต่างๆ ให้น้องๆ ได้เรียนรู้อย่างถูกวิธี รวมทั้งสนับสนุนชุดกีฬา และรองเท้าพีค ให้น้องๆ ได้สวมใส่ให้กับเหมาะสมกับการเล่นบาสเกตบอล หรือออกแคมเปญ "รองเท้าเก่ามาแลกรองเท้าใหม่" เพื่อนำรองเท้าเก่าที่สภาพดีไปบริจาคต่อให้น้องๆ ด้อยโอกาส และจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้น้องๆ ที่รักในกีฬาบาสเกตบอลได้มีโอกาสดีๆ เหมือนเด็กทั่วไป
"ผมวางแผนไว้ว่า จะออกจัดคลินิกบาสเกตบอลเดือนละ 1 ครั้ง หรือให้การสนับสนุนโรงเรียนที่ต้องการให้เราไปช่วยแนะนำเทคนิค หรือฝึกสอนน้องๆ ให้มีทักษะที่ถูกวิธี หรือต้องการการสนับนุน เราก็ยินดี สามารถติดต่อมาได้โดยตรงทั้งทางโทรศัพท์ หรือ อีเมล หรือ เว็บไซต์ของ "พีค" ได้ เรายินดีพิจารณาให้การสนับสนุน และต่อไปวางแผนว่า จะให้การช่วยเหลือกีฬาวิ่งอีกประเภทหนึ่ง แต่ตอนนี้ ขอให้ทุกอย่างลงตัวกว่านี้ก่อน แล้วจะให้การสนับสนุนกีฬาวิ่งต่อไป"
แม้ความฝันในวัยเด็กที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่เขารัก คือ รองเท้ากีฬา จะสำเร็จไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ ธนาคม ไม่หยุดความฝันไว้เพียงแค่นี้ เขาฝันต่อไปว่า สักวัน เขาจะเป็นเจ้าของรองเท้ากีฬาที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยจะใช้ชื่อแบรนด์เป็นชื่อเดียวกับบริษัท "สปอร์ต แพสชั่น"
"แม้ความฝันของผมจะสำเร็จไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ผมจะไม่หยุดฝัน ผมจะพยายามสานต่อความฝัน เพื่อเป็นเจ้าของแบรนด์รองเท้าให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ คนเราต้องมีความมานะอดทน มีความพยายาม มีความซื่อสัตย์ มีความกตัญญู และที่สำคัญ...ต้องไม่หยุดฝัน และฝ่าฟันให้ประสบความสำเร็จในที่สุด"
ความรู้สึกที่มีต่อสินค้า พีค
"ปาล์ม" ดรงค์พันธ์ อภิรมย์วิไลชัย บอกว่า ครั้งแรกที่ใช้รองเท้า "พีค" บอกตรงๆ ว่า ติดใจที่รูปทรงสวย แต่คิดว่าคุณภาพก็คงจะเหมือนทั่วไป ไม่พิเศษอะไรนัก แต่พอทดลองสวมใส่รองเท้ารุ่นใหม่ๆ ของ พีค รู้สึกติดใจ รุ่นแรกที่ใช้คือ รุ่น Shane Battier รู้สึกชอบมาก นุ่มและกระชับ และพอได้ลองใส่รุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น lighting และ TP9 ก็รู้สึกถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่พัฒนาออกมา ทั้งรูปทรง สีสันที่สวยงาม เบา ความกระชับเวลาวิ่งเปลี่ยนทิศทางและหยุด ความนุ่มของฟื้นรองเท้าเวลากระโดด ราคาก็เหมาะสมกับคุณภาพ ไม่แพงมาก
"พอใส่ลงแข่งหลายๆ เกม ทำให้รู้สึกมั่นใจในการแข่งขันมากขึ้น มีผลต่อเกมมากครับ ผมได้รองเท้าที่รู้ใจ พร้อมลงลุยกับคู่ต่อสู้อย่างไม่กลัวครับ"
"ปอย" ดรัญพงศ์ อภิรมย์วิไลชัย เสริมว่า เห็นแบรนด์ "พีค" ตอนไปแข่งขันบาสเกตบอลที่ฮ่องกง แต่ยังไม่เคยลองใส่ หลังจากที่ตอบรับเข้าทีม "พีค ไทยแลนด์" จึงได้ทดลองสวมใส่ดู รู้สึกว่า รองเท้า "พีค" ก็ไม่ได้ด้อยกว่าแบรนด์อื่นเลย บ้างรุ่นใส่แล้วกระชับและเซฟข้อเท้ามากว่าแบรนด์ดังๆ อีกด้วย