
รักเริ่มต้นใหม่กับหัวใจดวงเดิมของสาวเชียงใหม่-หนุ่มเบลเยียม
23 เม.ย. 2558
รักเริ่มต้นใหม่กับหัวใจดวงเดิมของสาวเชียงใหม่-หนุ่มเบลเยียม : คอลัมน์ เขยฝรั่ง..สะใภ้อินเตอร์ เรื่อง... กวินทรา ใจซื่อ เรียบเรียง... เสาวลักษ์ คงภัคพูน
ชีวิตนักธุรกิจคนดังของเมืองเหนือทำให้ "บุศรินทร์ อินต๊ะ" หรือบุศย์ เจ้าของธุรกิจรถเช่า นายหน้าขายทัวร์ชาวเชียงใหม่พบปะกับผู้คนหลากหลาย เมื่อขยายกิจการค้าขายมีสินค้าแฮนด์เมด และทำโคมลอยจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ จึงขยายตลาดออนไลน์ขึ้นเพื่อเปิดรับเพื่อนใหม่ พร้อมโปรโมทสินค้าพื้นบ้านของไทย เปิดตลาดต่างประเทศโดยใช้เว็บแท็กเว็บไซต์ที่คล้ายกับเฟซบุ๊ก สามารถโพสต์รูปภาพ ข้อความ ใส่เพลงประกอบได้ หากมีคนสนใจเข้ามาเปิดดูก็จะมีดนตรีบรรเลงของไทย รวมถึงภาพผลิตภัณฑ์ที่นำมาเปิดตัวด้วย จากความสนใจเรื่องโคมลอยทำให้นายทหารหนุ่มชาวเบลเยียม "อีริค คิวลิเคินส์" เข้าไปดู และนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ได้เริ่มติดต่อพูดคุยกันและเกิดเป็นความรัก
“เริ่มคุยกันเมื่อปี 2551 ผ่านเว็บแท็กก่อน พอเริ่มสนิทกันก็เปลี่ยนมาแชททางเอ็มเอสเอ็น จากนั้นเขาก็ขอให้โพสต์รูปพอเห็นก็ชอบและเริ่มจีบ ตลอด 1 ปีที่ติดต่อพูดคุยกันผ่านจอทุกวัน ทำให้รู้จักนิสัยใจคอ จากนั้น อีริคตัดสินใจเดินทางมาเมืองไทยครั้งแรก เพื่อมาเรียนรู้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น” บุศรินทร์ กล่าว
ครั้งแรกที่เจอกันทั้งคู่นัดเจอกันที่สนามบินเชียงใหม่ บุศรินทร์เห็นชายหนุ่มยืนหันหลังให้ไกลๆ มั่นใจว่าเป็นอีริค เพราะคุ้นเคยลักษณะท่าทางจึงเดินเข้าไปหาพร้อมทักทาย พออีริคหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ได้เริ่มต้นศึกษากันแบบตัวจริงเสียงจริง
“ทันทีที่ผมเจอหน้าเธอก็ชอบใจมาก เห็นสาวไทยตัวน้อยๆ ผมยาว หน้าตาแบบหญิงไทยแท้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ใส่เสื้อยืดสีแดงกับกางเกงยีน สัมผัสได้ว่าเป็นคนจิตใจดี กำลังจะหอมแก้มทักทาย คุณบุศย์บอกว่าต้องสวัสดีแบบยกมือไหว้ เพราะที่นี่ประเทศไทย ยิ่งทำให้ชอบเธอมากยิ่งขึ้น ผมบอกเธอว่า ถ้าไปที่บ้านผมต้องสวัสดีแบบหอมแก้มสามที เป็นธรรมเนียมเช่นกัน” อีริค กล่าว
ทันทีที่มาถึงเมืองไทย อีริคขอเจอครอบครัวของหญิงสาว ครั้งแรกที่ได้พูดคุย ถึงจะสื่อสารไม่เข้าใจ อีริคพยายามพูดจาภาษามือ ใจดีขี้เล่น ให้ความเคารพ สร้างความประทับใจให้พ่อแม่ของเธอไม่น้อย ครั้งแรกที่เจอก็ขอหญิงสาวกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงทันที ในช่วงเวลา 1 เดือนที่ได้ศึกษานิสัยใจคอกันยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แต่หลังจากอีริคกลับบ้านได้ไม่นาน ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มขาดการติดต่อ หายเงียบไปอย่างไม่รู้สาเหตุ จนคิดว่าถูกฝ่ายชายหลอกให้รักนาน 1 ปี จนเริ่มตัดใจได้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่ออีริคติดต่อกลับมา พร้อมทั้งขอแต่งงาน
อีริค เล่าว่า หลังจากกลับบ้านได้เล่าเรื่องราวของความรัก ความประทับใจให้ครอบครัวร่วมรับรู้ แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเพราะเข้าใจว่าผู้หญิงไทยหลอกลวงและไม่ให้ติดต่อ แม้จะพยายามอธิบายให้เข้าใจ แต่ก็ไม่มีใครยอมรับ จึงพยายามตัดใจพร้อมกับลองเริ่มต้นคบหาหญิงสาวคนใหม่หลายคนนานนับปี แต่สุดท้ายก็ลืมบุศรินทร์ไม่ได้ จึงคุยทำความเข้าใจกับครอบครัวอีกครั้ง
“ผมรักเธอมาก ลองพยายามคบหากับหญิงสาวหลายคนแต่ก็ไม่เจอคนที่ใช่ จนตัดสินใจคุยกันในครอบครัว ขอโอกาสพาเธอมาทำความรู้จัก นอกจากนี้ลูกสาวของผมทำงานพิเศษที่ร้านฟิตเนส และเจ้าของร้านพาแฟนคนไทยไปอยู่ด้วย ทำให้ลูกสาวเห็นสาวไทยอีกมุมในด้านดี ทำให้ครอบครัวเปลี่ยนทัศนคติและเปิดโอกาสให้ทำความรู้จักกันมากขึ้น” อีริค กล่าว
ทันทีที่ทั้งคู่เดินทางไปถึงเบลเยียม ในใจบุศรินทร์คิดวิตกและกังวล แต่บรรยากาศไม่เป็นเหมือนที่คิด เมื่อถึงสนามบินบรัสเซลส์ได้เจอหน้าลูกสาวของอีริคที่มารอรับพร้อมด้วยรอยยิ้มต้อนรับอย่างมีไมตรี จากนั้นก็พาไปพบพ่อและแม่ ทันทีเจอกันทั้งคู่ตรงเข้ามาสวมกอดลูกสะใภ้ ทำให้ความวิตกว่าความรักครั้งนี้จะไม่ราบรื่น กลายเป็นความสุขและความยินดีที่ได้รับการต้อนรับเป็นเหมือนคนในครอบครัว
“เรื่องครอบครัวของอีริคกับหญิงไทย ตอนนี้ดีมากๆ แล้วค่ะ เมื่อก่อนเขามองเห็นแต่ด้านเดียว มาถึงตอนนี้พวกเขามองเห็นแล้วว่าหญิงไทยหรือคนไทยก็เหมือนคนที่นี่ มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกัน บุศย์ได้พาไปพบปะเพื่อนๆ สาวไทยที่อาศัยที่นี่ด้วย บางทีมีงานก็ไปร่วมด้วย พอได้เจอคนไทยเยอะๆ ได้พูดคุยกับคนไทยที่นี่ เขาก็เปลี่ยนความคิดและรู้ว่า คนไทยที่น่ารักยังมีอีกเยอะ” บุศรินทร์ กล่าว
ทุกวันนี้บุศรินทร์ทำงานเป็นผู้ช่วยในครัวร้านอาหารพร้อมกับการตั้งกลุ่ม "ไทย-เบลเยียม" เพื่อบอกเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในประเทศเบลเยียม อีกทั้งยังคอยให้ความรู้ คำแนะนำและความช่วยเหลือกับเพื่อนๆ หญิงไทยที่อาศัยอยู่ในเบลเยียมและผู้ที่กำลังจะเดินทางมาเป็นอาสาสมัคร เปิดเพจในเฟซบุ๊กนำเสนอเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี เทศกาลอันดีงามของไทย เพื่อให้ชาวเบลเยียมและชาวโลกทั่วไปได้มองภาพเมืองไทยในมุมมองที่สวยงาม โดยได้รับการสนับสนุนจากสามีชาวเบลเยียมของทุกครอบครัว ทำให้กลุ่มนี้เริ่มเป็นที่รู้จัก มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมาขอสัมภาษณ์เพื่อนำไปทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับหญิงไทยที่ได้แต่งงานและย้ายมาอยู่ต่างประเทศ มุมมองและทัศนะต่างๆ อีกทั้งยังได้มีการเปิดสอนให้เด็กๆ เรียนรู้และหัดทำอาหารไทย สอนภาษาไทยให้แก่เด็กๆ ลูกครึ่งและชาวต่างชาติที่สนใจ
“เมื่อถึงเวลาเราทั้งหมดจะย้ายกลับไปอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย อยู่อย่างพอเพียงและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบั้นปลาย”
........................................
(หมายเหตุ รักเริ่มต้นใหม่กับหัวใจดวงเดิมของสาวเชียงใหม่-หนุ่มเบลเยียม : คอลัมน์ เขยฝรั่ง..สะใภ้อินเตอร์ เรื่อง... กวินทรา ใจซื่อ เรียบเรียง... เสาวลักษ์ คงภัคพูน)