ข่าว

แกะจาก 'ลายนิ้วมือบนถุงดำ' ล่าฆาตกรฆ่ายัดกล่อง

แกะจาก 'ลายนิ้วมือบนถุงดำ' ล่าฆาตกรฆ่ายัดกล่อง

19 เม.ย. 2558

แกะจาก 'ลายนิ้วมือบนถุงดำ' ล่าฆาตกรฆ่ายัดกล่อง : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม

 
                       กองขยะขนาดใหญ่ภายในซอยอุดมสุข 60 แยกย่อยซอยสวนสวรรค์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2554 มีปริมาณขยะหมักหมมอยู่จำนวนมาก กลิ่นขยะที่ลอยอบอวลไปทั่วบริเวณทำให้ไม่เป็นที่สังเกตของคนทั่วไป แม้จะมีศพหมกอยู่บริเวณนั้น
 
                       กล่องกระดาษขนาดใหญ่เท่าตัวคนมีเทปกาวพันอยู่อย่างแน่นหนา มองเผินๆ เข้าใจได้ว่าภายในคงบรรจุขยะ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่วางกองรวมอยู่กับขยะอื่นๆ กระทั่งบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 29 มีนาคม 2554 นางวันเพ็ญ เจริญสุข หญิงเก็บของเก่าขายวัย 65 ปี เข้าไปรื้อค้นหาเศษขยะแล้วพบเข้ากับกล่องกระดาษกล่องนี้ 
 
                       หญิงวัยเกษียณพยายามจะเคลื่อนย้ายกล่องกระดาษใบนี้ แต่กลับพบว่ามีน้ำหนักมากเกินกำลังที่เธอจะเคลื่อนย้ายได้ จึงไปเรียกให้นายมนัส แสงโสรส ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเข้ามาช่วย ทันทีที่กล่องกระดาษถูกเปิดออกสองขาของมนุษย์เพศชายก็ปรากฏให้เห็น 
 
                       ทั้งนางวันเพ็ญ และ นายมนัส แทบจะสติแตกกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า หลังตั้งสติได้จึงรีบแจ้ง ร.ต.อ.ยุทธศิลป์ การินทร์ พนักงานสอบสวน สน.บางนา (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่งได้แก่ พ.ต.ท.หญิง ศิริประภา รัตตัญญู, ร.ต.อ.หญิง สรัลนุช ชูกลิ่น และ ร.ต.ต.เกริกไกร จันทรกกุล (ยศและตำแหน่งขณะนั้น)
 
                       กล่องกระดาษที่พบสูงประมาณ 160 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร ปิดมัดด้วยเทปกาวแน่นหนา โดยมีเชือกฟางสีฟ้าพันไว้อีก 3 รอบ เมื่อแกะดูพบกล่องกระดาษถูกนำมาต่อกันจำนวน 2 กล่อง ซึ่งกล่องแรกยี่ห้อ E-CO อีกกล่องเป็นของห้างเทสโก้ โลตัส เป็นกล่องสำหรับบรรจุกระดาษชำระ ขนาดบรรจุ 120 ห่อ
 
                       ภายในมีศพชายอายุประมาณ 40-50 ปี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร บรรจุอยู่ในลักษณะนั่งขัดสมาธิ แขนและขาถูกมัดด้วยเชือกฟางสีฟ้า บรรจุอยู่ในถุงดำขนาดใหญ่อีกชั้น เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน สภาพศพเริ่มขึ้นอืด
 
                       ผู้ตายสวมเสื้อคอปกสีเขียว ยี่ห้อ wese นุ่งกางเกงสแลคสีเทาลายทางตรงสีขาว เข็มขัดสีดำ มีซองโทรศัพท์คล้องติดอยู่ ที่หน้าท้องด้านซ้ายถูกแทง 1 แผล หน้าอกและใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ในกระเป๋าเสื้อพบซองบุหรี่ยี่ห้อบูแดการัม จากประเทศอินโดนีเซีย 1 ซอง ไฟแช็ก 1 อัน และยังพบหวีอีก 1 อัน อยู่ภายในกระเป๋ากางเกงด้านหลังของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานไว้
 
                       ขณะที่ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. (ตำแหน่งในขณะนั้น) ระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวนออกควานหาร่องรอยของคนร้าย โดยเฉพาะภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดในละแวกนั้น เพื่อหาเบาะแสของบุคคลที่นำกล่องกระดาษบรรจุศพมาทิ้งไว้
 
                       วัตถุพยานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุทั้งหมด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ได้แก่ ถุงพลาสติกสีดำที่คนร้ายใช้ห่อหุ้มศพ กล่องกระดาษที่คนร้ายใช้บรรจุศพ เทปกาวสีน้ำตาล ถูกนำเข้าสู่ขั้นตอนตรวจหาลายนิ้วมือแฝง และขั้นตอนการตรวจพิสูจน์หาดีเอ็นเอ
 
                       โดยเฉพาะถุงพลาสติกสีดำ ร.ต.ท.หญิง ศศิรัตน์ สุทธิพรชัย นวท.(สบ 1) (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ได้นำเข้าตู้อบ "ซูเปอร์กลู"  ปรากฏลายนิ้วมือแฝง 3 นิ้ว ซึ่งน่าจะเป็นของคนร้าย
 
                       พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ. (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) สั่งการให้นำลายนิ้วมือแฝงที่ปรากฏหลังผ่านกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ ไปเปรียบเทียบกับลายพิมพ์นิวมือในทะเบียนประวัติอาชญากร พบว่าตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือของ นายซูฮา อีแต หรือ ยู วัย 25 ปี ชาว อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งมีประวัติถูกตำรวจ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี จับกุมเมื่อปี 2549 ในข้อหาครอบครองและพกพาอาวุธ 
 
                       ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบของตำรวจพิสูจน์หลักฐานถูกส่งต่อให้ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ซึ่งรับผิดชอบคดีดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมคนร้าย
 
                       ในเวลาไล่เลี่ยกันชุดสืบสวนภายใต้การควบคุมสั่งการของ พล.ต.ต.รณศิลป์ ก็พบพยานปากสำคัญ คือ นางซูรยา ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเข้ามาแจ้งต่อตำรวจว่า ศพที่ถูกฆ่ายัดกล่องเป็นสามีของเธอ มีชื่อว่า นายรามลิ บิน อ๊อตมาน อายุ 58 ปี ชาวมาเลเซีย นักธุรกิจค้าตุ๊กแก ซึ่งก่อนถูกฆ่า นายซูฮา หรือ ยู อีแต มารับสามีไปรับประทานอาหาร ที่ซอยรามคำแหง 61 แล้วหายตัวไป
 
                       คำให้การของพยานสอดคล้องกับวัตถุพยานที่พบ มีน้ำหนักเชื่อได้ว่า นายซูฮา น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับคดีฆาตกรรมยัดกล่องครั้งนี้ ตำรวจจึงขออำนาจศาลออกหมายจับ และเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 115 ร่มเกล้าอพาร์ตเมนต์ ซอยรามคำแหง 65 แยก 1 ซึ่งเป็นห้องพักที่นายซูฮาเช่าพักอาศัยอยู่ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2554 หลังจากวันพบศพเพียง 5 วัน
 
                       การตรวจค้นพบคราบเลือดบนโซฟา กลางห้องพัก และในห้องน้ำ พร้อมมีดปลายแหลม เชือกฟาง เทปกาวสีน้ำตาล ตำรวจเชื่อว่าห้องพักแห่งนี้น่าจะเป็นจุดสังหาร โดยระหว่างการตรวจค้นปรากฏว่านายยูเดินทางกลับจาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อมาดูลาดเลา เมื่อเห็นตำรวจกำลังตรวจค้นห้องพักจึงรีบหลบหนี แต่ไม่รอดถูกตำรวจติดตามจับได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต ระหว่างรอรถโดยสารเพื่อเดินทางไปกบดานที่ จ.อุบลราชธานี
 
                       "ร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง โดยได้รับจ้างจากนายอาวี ไม่ทราบนามสกุล ชาวมาเลเซียและพวกอีก 4 คน ให้หลอกผู้ตายมายังที่พัก เพื่อทวงเงินจำนวน 19 ล้านบาท ซึ่งผู้ตายยักยอกไปจากการทำธุรกิจค้าเงินดำและยาเสพติด ซึ่งผู้ตายทำร่วมกับกลุ่มนายอาวี แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนให้ นายอาวีโกรธจึงใช้มีดแทงผู้ตายเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงไปซื้อถุงดำ กล่องกระดาษ เชือก และเทปกาว มาจากเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ในซอยรามคำแหง 65 แล้วยัดศพไว้ในกล่อง นำใส่รถเข็นไปเรียกรถแท็กซี่แล้วว่าจ้างให้ไปส่งบริเวณจุดพบศพ" นายยู สารภาพ
 
                       ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีนายยู ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งนายยูระบุว่า ขณะลงมือห่อศพด้วยถุงพลาสติกสีดำ แล้วยัดลงไปในกล่องกระดาษนั้น ได้สวมถุงมือยางตลอดเวลา เพื่อปกปิดไม่ให้ปรากฏลายนิ้วมือบนวัตถุพยาน แต่พลาดเนื่องจากถุงมือยางแตกบริเวณส่วนปลายนิ้ว ทำให้ปลายนิ้วของ 3 นิ้วสัมผัสกับถุงพลาสติกสีดำที่ใช้ห่อหุ้มศพ ซึ่งเพียงแค่นั้นก็มากพอที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายได้ จนกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการปิดคดีฆ่ายัดกล่อง
 
 
 
 
 
 
---------------------
 
(แกะจาก 'ลายนิ้วมือบนถุงดำ' ล่าฆาตกรฆ่ายัดกล่อง : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)