อดีต-ปัจจุบัน'วันปีใหม่ไทย' | คมชัดลึก

 

          เทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย  หลายต่อหลายคนคงเฝ้ารอที่จะได้พบหน้ากันทั้งครอบครัว พร้อมหมายมั่นปั้นมือเตรียมออกไปเล่นสาดน้ำคลายร้อนกันจนหนำใจ ในขณะที่คนรุ่นใหม่เห็นได้แต่ภาพการขึ้นไปบนรถสาดน้ำ วางถังหน้าบ้านแล้วเปิดเพลงดังๆ เต้นกันแบบไม่แคร์สายตาใคร คงคิดไม่ออกว่าจริงแล้วประเพณีสงกรานต์เป็นอย่างไร การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ การสรงน้ำพระ เข้าวัดก่อเจดีย์ทราย ประเพณีเหล่านี้ห่างไกลจากพวกเขาจริงหรือไม่ และอยากกลับมาเห็นอีกหรือเปล่า เรามีคำตอบจากคนในสังคม 

 

          ณัฐชานันท์ หาเรือนทรงกุล คุณแม่ลูกสาม กล่าวว่า แต่ก่อนวันสงกรานต์ไม่ได้เล่นน้ำกันรุนแรงแบบนี้ ไม่มีเดินเล่นน้ำ และดื่มเหล้าเหมือนกับสมัยนี้ โดยส่วนตัวมองว่าไม่น่าเล่น ไม่มีความสร้างสรรค์เหมือนทำลายวัฒนธรรม สมัยก่อนเล่นกันแค่แตะแก้มกันเบาๆ เป็นพิธีก็พอแล้ว  เล่นกันตามงานวัดคนเยอะมีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ก่อเจดีย์ทราย ไม่มีการเปลื้องผ้าเต้นโชว์เรือนร่าง ขนถังน้ำขึ้นรถกระบะขับไปเล่นยังที่ต่างๆ ก็ยังไม่มี ส่วนมากเด็กวัยรุ่นสมัยนี้จะไม่ค่อยรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่หรือสรงน้ำพระ จิตใจจดต่อจะเล่นกันอย่างเดียว ตามที่เห็นในทีวีเล่นกันตั้งแต่เช้ายันมืด

 

          “มีลูกสาวก็ไม่อยากให้ไปเล่นเป็นห่วงเขากลัวจะมีเรื่องอันตราย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับห้ามไม่ให้เล่น จะสอนลูกว่าถ้าไปเล่น ก็ต้องแต่งตัวให้รัดกุม ไม่เล่นในที่อโคจร ควรมีเพื่อนไปกันเยอะๆ  สงกรานต์ที่ดีควรเล่นแต่พอดีพอเหมาะให้อยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็น” คุณแม่ให้คำแนะนำ

 

          ด้าน รติกร รักเจริญ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พูดว่า สมัยก่อนคงต้องย้อนกลับไปถึงดึกดำบรรพ์ ประเพณีรดน้ำดำหัว ขนทรายเข้าวัดอะไรแบบนั้น ก็อาจจะมีอยู่ให้เห็นบ้างแต่ก็ยังน้อยนิด ถ้าจะให้พูดถึงประเพณีแบบจับต้องได้ที่มีอยู่ก็พวกขนทรายเข้าวัด รดน้ำดำหัวพอเป็นพิธี ซึ่งส่วนใหญ่จะมีให้เห็นได้ตามต่างจังหวัดมากกว่าในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันประเพณีสงกรานต์ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้วเปลี่ยนไปมากในแง่ของภาพรวม แบบว่าถ้าวัยรุ่นคิดถึงสงกรานต์ก็คิดถึงการสาดน้ำสนุกสนาน อะไรแบบนั้น โตมาหน่อยก็อยู่บ้านพร้อมหน้ากับครอบครัว ซึ่งในแง่ประเพณีมันค่อนข้างเปลี่ยนไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังอยู่คือวันหยุดยาว การสาดน้ำ การได้ออกไปเจอเพื่อนๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่ได้ออกไปเล่นน้ำในวันสงกรานต์มา 2 ปีแล้ว ถ้าเลือกได้ก็จะไม่ออกไปเล่นน้ำ เพราะว่าไม่ชอบคนเยอะแออัด แต่ถ้าจะต้องไปจริงๆ ก็ต้องแต่งตัวให้มิดชิดไปกับเพื่อนเยอะๆ แล้วเลือกสถานที่ไม่เถื่อนมาก ไม่อันตรายมาก 

 

          “สมัยนี้เด็กเต้นเปลือยถ่ายคลิปในเนตมันก็มีเยอะแยะ จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยังมีให้เห็นในหลายๆ สถานการณ์  มันเป็นเพียงแค่ค่านิยมผิดๆ อยากจะโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก ซึ่งเป็นเรื่องไม่ควรเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด็กสมัยนี้โตเร็ว ทำอะไรไม่ทันคิด จ่ายค่าปรับ ปิดหน้า ขอโทษ จบ เดี๋ยวเรื่องก็จางหายไป คนไทยเป็นแบบนี้จริงๆ”  เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้แง่คิด

 

          ส่วน ดวงทิพย์ สุรสีห์เรืองชัย เจ้าหน้าที่การเงินโรงพยาบาลเทพากรจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ถ้าพูดถึงประเพณีวันสงกรานต์ ก็จะนึกถึงช่วงเวลาอันดี ต่างคนในครอบครัวได้พบหน้า ได้เจอกัน พูดคุย เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน แถมยังเป็นช่วงเวลาแสนอบอุ่นในครอบครัว ลูกหลานต่างพากันมารดน้ำดำหัวผู้ขอพร อวยพรให้แก่ผู้ใหญ่ในครอบครัว ได้ทั้งความสุขและความทรงจำดีๆ ที่ไม่มีวันลืมเลย

 

          “ในส่วนตัวจะแบ่งเวลา ให้กับทั้งครอบครัวแล้วก็เพื่อนๆ อย่างช่วงเช้าก็จะอยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน พูดคุย ขอพร พอตกช่วงบ่ายๆ ก็จะออกไปเล่นน้ำผ่อนคลายความเครียดกับเพื่อนๆ เหนื่อยกับงานมาทั้งทีก็ขอสนุกกับวันหยุดยาวๆ ให้สมใจสักครั้ง” เจ้าหน้าที่การเงินแจงถึงสิ่งที่อยากทำในปีใหม่ไทย

 

          ปิดท้ายที่ ธารา ฤทธิ์บุญ ธุรกิจส่วนตัว พูดว่า ส่วนตัวคิดว่าทุกคนต้องยอมรับสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ส่งผลให้ค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณี มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในยุคสมัยใหม่วัยรุ่นมีการเรียนรู้กับวันสำคัญน้อยมาก อย่างวันสงกรานต์ จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าวันที่ 13 เมษายนคือวันอะไร 14 เมษายน คือวันอะไร 15 เมษายนคือวันอะไร ในความคิดของวัยรุ่น คือเข้าวันสงกรานต์ก็คิดแต่จะหาสถานที่ว่าไปเล่นสาดน้ำที่ไหนดี เป็นแบบนี้เสียส่วนใหญ่ซะมากกว่า จะมีก็แต่ผู้ใหญ่ หรือคนเฒ่าคนแก่เท่านั้นที่จะเข้าวัด ทำบุญ ตามประเพณีเพื่อไปสรงน้ำพระ  ทำให้ประเพณีสงกรานต์ในปัจจุบันต่างจากเมื่อก่อนมาก