
พปส.ติงกทม.อ้างมั่วปล่อยสร้างสะพานหรู
พปส.ติงกทม.อ้างมั่วปล่อยสร้างสะพานหรู ย้ำเพิ่มมูลค่าให้เอกชนมากกว่าประโยชน์ ปชช. เชื่อส่งผลค่าเช่า-ราคาสินค้าแพงหูฉี่
8เม.ย.2558 นายปวริศ ผุดผ่อง เลขาธิการกลุ่มพิทักษ์กฎหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ (พปส.) เปิดเผยว่า ตามที่ทางกลุ่ม พปส.ได้ติดตามตรวจสอบการขออนุญาต และก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามถนนเชื่อมสะพานลอยทางเชื่อมอาคารเอกชน ซึ่งสร้างคล่อมถนนและคลองสาธารณะ ล่าสุดทาง สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวมายัง พปส. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เพิกเฉยมาเป็นเวลาหลายเดือน จน พปส.ต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง
นายปวริศ กล่าวต่อว่า สำหรับสาระสำคัญที่ สำนักโยธา กทม.ชี้แจงมานั้น ยืนยันว่า การขออนุญาตและก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าวต้องตามหลักเกณฑ์ของทาง กทม. ทั้งยังมีการระบุด้วยว่า เป็นการก่อสร้างโดยเอกชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย และมอบให้เป็นสาธารณสมบัติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สัญจรไปมานั้น ถือเป็นคำชี้แจงที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าวไม่ได้พิจารณาถึงการแก้ไขปัญหาจราจรหรืออุบัติเหตุจากการข้ามถนนของประชาชน แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเพิ่มมูลค่า มากกว่าที่ประชาชนทั่วไปจะได้ประโยชน์ ต้องยอมรับว่าการที่มีสะพานนี้ขึ้นมาทำให้มูลค่าของอาคารและห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น เป็นที่มาของราคาเช่าพื้นที่ที่แพง ราคาสินค้าและบริการ รวมทั้งอาหารภายในห้างมีราคาสูงกว่าปกติมาก
“หากต้องการอำนวยความสะดวกจริง ก็ควรสร้างสะพานลอยที่ต้นหรือท้ายถนนสมคิดมากกว่า ที่จะไปสร้างผ่านอาคารของตัวเอง เรื่องนี้จึงยังถือเป็นการเอารัดเปรียบประชาชนและใช้สาธารณสมบัติผิดวัตถุประสงค์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเอกชน โดยที่มีข้าราชการรู้เห็นเป็นใจ” นายปวริศ ระบุ
เลขาธิการ พปส.กล่าวอีกว่า การที่ กทม.พยายามอ้างตลอดว่าเอกชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ทั้งการก่อสร้างและการบำรุงรักษา ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะจะหมายความว่า หากมีการก่อสร้างใดๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม หรือมีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ แต่ทางเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงบประมาณก็สามารถทำได้อย่างนั้นหรือ เพราะมีการสร้างสร้างคล่อมถนนและคลองสาธารณะอย่างชัดเจน แม้ กทม.จะยืนยันว่าไม่กระทบต่อระบบระบายน้ำก็ตาม แต่การที่มีสะพานขึ้นมาก็ถือว่ากระทบสิทธิผู้อื่นในด้านทัศนียภาพ และทำให้รถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ไม่สามารถสัญจรภาย ซ.สมคิดได้ ทั้งนี้ทาง กทม.ได้ยอมรับด้วยว่า ตามบันทึกข้อตกลงนั้น ทางเอกชนต้องเปิดให้ประชาชนสามารถใช้งานสะพานลอยได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ที่มีการปิดทางขึ้น-ลงสะพานตามเวลาปิดให้บริการของห้าง อีกทั้งยังมีการติดป้ายโฆษณาตามบริเวณทางเดิน โดยเรื่องนี้ทาง กทม.รับไปในการที่จะแจ้งให้เอกชนฉปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงโดยเคร่งครัดในการที่จะเปิดให้ประชาชนใช้งานได้ตลอดเวลาตามที่ตกลงกันไว้