มนุษย์ยุคหินใหม่ (เอี่ยม) | คมชัดลึก

 

                         มนุษย์เรามีพัฒนาการมาโดยลำดับ จากที่อาศัยอยู่ในถ้ำ ล่าสัตว์เป็นอาหาร มาสู่การทำเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ หัตถกรรม และรวมกันเป็นชุมชน จากนั้นจึงค่อยเริ่มสร้างบ้านแปลงเมือง จนกลายเป็นรัฐชาติในที่สุด 

 

                         ทางวิชาการแบ่งช่วงตอนของพัฒนาการออกเป็น ยุคหิน กับยุคโลหะ ซึ่งช่วงยุคหินก็ยังแบ่งออกเป็น ยุคหินเก่า ประมาณเมื่อ 50,000-10,000 ปีที่แล้ว ที่มนุษย์ยังใช้ชีวิตเหมือนสัตว์ทั่วไป กินอยู่ตามธรรมชาติ มาสู่ยุคหินกลางประมาณ 10,000-7,000 ปีก่อน ที่มนุษย์เริ่มรู้จักการทำเครื่องมือง่ายๆ จากหินและกระดูก เพื่อใช้ในการล่าสัตว์และต่อสู้กัน รวมทั้งการทำเครื่องปั้นดินเผา สุดท้ายคือ ยุคหินใหม่ ประมาณ 7,000-5,000 ปี เมื่อมนุษย์มีประดิษฐกรรมต่าง ๆ เช่น เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับ เครื่องใช้ไม้สอย และการปลูกสร้างบ้านเรือน 

 

                         ยุคโลหะ เริ่มจากยุคสำริด เมื่อมนุษย์รู้จักการนำทองแดงมาผสมกับดีบุกทำให้เกิดเป็นสำริด เพื่อนำไปทำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ มาถึงยุคเหล็ก ที่มนุษย์สามารถถลุงแร่เหล็กเพื่อทำอาวุธ และทำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ได้มากขึ้น เริ่มมีชีวิตในสังคมเมือง และห่างไกลจากธรรมชาติโดยลำดับ

 

                         ในบางทฤษฎีแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ออกเป็น 3 ยุค คือ ยุคหิน ยุคไฟ และยุคไฟฟ้า คือหลังจากยุคหินแล้ว มนุษย์ก็รู้จักการก่อไฟ การใช้ไฟในการถลุงแร่ การทำอาหาร การให้ความอบอุ่น และแสงสว่าง เรียกรวมๆ ว่า ยุคไฟ จนมาถึง ค.ศ.1747 เบนจามิน แฟรงคลิน ชาวอเมริกัน ได้ค้นพบไฟฟ้าในอากาศ ต่อมาใน ค.ศ.1790 อเลสซานโดร โวลตา ชาวอิตาเลียน ก็ได้ค้นพบไฟฟ้าที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี ซึ่งนำไปสู่การผลิตถ่านไฟฉาย และแบตเตอรี่ ในเวลาต่อมา ค.ศ.1831 ไมเคิล ฟาราเดย์ ชาวอังกฤษ ได้ค้นพบไฟฟ้าที่เกิดจากพลังแม่เหล็ก และนำไปประดิษฐ์เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ค.ศ.1877-1887 โทมัส อัลวา เอดิสัน ชาวอเมริกันประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าและประดิษฐ์อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องถ่ายสำเนา และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก จากไฟฟ้านำไปสู่การประดิษฐ์โทรศัพท์ โดย อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ และการพบสัญญาณวิทยุโดยมาร์โคนี

 

                         หากถามว่า มนุษย์ในปัจจุบันนี้อยู่ในยุคอะไร? ผมคิดว่า น่าจะเป็นยุคอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.2492 เมื่อ ดร.จอห์น ฟอน นิวแมน ได้ค้นพบวิธีเก็บโปรแกรมไว้ในหน่วยความจำได้สำเร็จ และพัฒนาคอมพิวเตอร์จนสามารถใช้งานได้ในอีก 2 ปีต่อมา จนกลายเป็นเครื่องใช้ประจำตัวหรือประจำบ้านในปัจจุบัน และระบบบันทึกความจำของคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการพัฒนาการในเครื่องใช้อื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูปดิจิทัล เครื่องเล่นดีวีดี ฯลฯ ซึ่งช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่สะดวกสบาย และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม 

 

                         แม้ปัจจุบันมนุษย์จะมีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีห่างไกลจากยุคหินอย่างมากมาย แต่น่าประหลาดใจที่พฤติกรรมของมนุษย์กลับไม่ได้พัฒนาไปมากนัก เพราะมนุษย์ในยุคอิเล็กทรอนิกส์ยังคงต่อสู้และทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มีการฆ่าฟันกันหรือสังหารตัวประกันอย่างป่าเถื่อน และใช้กำลังในการแก้ปัญหาต่างๆ มากกว่าการพูดจากันโดยสันติวิธี ทำให้โลกซึ่งควรจะสงบและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เกิดความวุ่นวาย และหลายแห่งกลายเป็นแดนมิคสัญญีที่เห็นมนุษย์ด้วยกันเป็นสัตว์อื่นที่จะต้องล่าหรือล้างผลาญให้สิ้นซาก

 

                         น่าเสียดายที่ความเจริญทางวัตถุไม่อาจพัฒนาความเจริญด้านจิตใจและคุณธรรมของมนุษย์ และอิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นเครื่องมือของการก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย และเรื่องเลวร้ายอื่นๆ ซึ่งโหดร้ายรุนแรงกว่าการใช้อาวุธที่ทำด้วยหินในยุคหินหลายเท่าตัว

 

                         ท้ายคอลัมน์วันนี้ ขอแนะนำหนังสือ ”รัตนศิลปิน” ซึ่งเขียนถึงพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุารี ในด้านศิลปะแขนงต่างๆ โดย รศ.ดร.ญาดา อารัมภีร (460 บาท) หาซื้อได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สยามสแควร์

 

 

 

 

 

---------------------

 

(วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ : มนุษย์ยุคหินใหม่ (เอี่ยม) : โดย...ประภัสสร เสวิกุล psevikul.com)