
สลด!ซิ่งเบนซ์ชนพ่วงไฟลุกไหม้ดับคารถ
05 เม.ย. 2558
สลด! หนุ่มอุตรดิตถ์ซิ่งเบนซ์ชนรถพ่วงไฟคลอกดับคารถ อีกราย หนุ่มสถาปนิกพร้อมเพื่อนกลับจากงานเลี้ยงรุ่นชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ตาย 2 เจ็บอีก 5 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 5 เม.ย.58 พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถพ่วงจนเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถเก๋ง ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กญ 7777 กทม. เหตุเกิดที่ทางแยกเข้าสนามชัย ใกล้โค้งสนามชัย ม.1 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถเมอร์ซิเดสดังกล่าว ขับมาจากกรุงเทพฯ กำลังมุ่งหน้าไปร่วมงานเชงเม้งที่อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โดยใช้เส้นทางพรหมพิราม-พิชัย รถยนต์ ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ได้แซงรถบรรทุกพ่วงและชนกับรถบรรทุกพ่วงที่วิ่งสวนทางมาไฟได้ลุกท่วมผู้ขับขี่รถเมอร์ซิเดสเบนซ์เสียชีวิตถูกไฟไหม้อยู่ในรถ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตเบื้องต้น คือ นายธราธร ตันติกุล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295/3 หมู่ 3 ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ขณะนี้ญาติได้ติดต่อมาขอรับร่างไปบำเพ็ญกุศลที่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
หนุ่มสถาปนิกพร้อมเพื่อนกลับจากงานเลี้ยงรุ่นรถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ตาย 2 เจ็บอีก 5
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 5 เมษายน พ.ต.ท.ประจวบ ขันทอง พนักงานสอบสวน สน.บางบอน รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 ราย ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. เอ็นจีวี บนถนนเอกชัย แขวง/เขต บางบอน ตรงข้าม เอกชัย ซ.101 จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุพบ รถยนต์นิสสัน อัลเมร่า สีขาว ทะเบียน 2กอ 6346 กรุงเทพฯอัดก็อปปิ้กับเสาไฟฟ้า ด้านหน้าพังยับเยิน กันชนหน้าหลุดออก กระเด็ดออกมานอกรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บกระเด็นออกมาจากตัวรถทั้งหมด 5 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อต่อมา นายเกรียงไกร บุญมาลี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.10 ต.บางมะพร้าว อ. หลังสวน จ.ชุมพร คนขับและเจ้าของรถ ประกอบอาชีพสถาปนิก ถูกอัดก็อปปี้อยู่ด้านหลังพวงมาลัยรถเสียชีวิตทันที เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา ส่วนเบาะหลัง พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา น.ส.สลิลทิพย์ ทองมาก อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 621 ซ.พระรามที่ 2 ซ.88 ตำบล แสมดำ อำเภอบางขุนเทียน จ.กรุงเทพฯ เสียชีวิตคาที่ สภาพศพ มีบาดแผลบริเวณศรีษะ เจ้าหน้าที่นำศพทั้งสองส่งรพ.ศิริราช
พ.ต.ท.ประจวบ เปิดเผยว่า ผู้ตายขับรถยนต์ดังกล่าวออกมาจากงานเลี้ยงสังสรรค์ราชสิทธไนท์ ปาร์ตี้ พระราม2 ครั้งที่ 4 เป็นงานพบปะสังค์สรรค์ ระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ของเทคนิคราชสิทธาราม โดยผู้ตายเป็นศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ รุ่น 21 ได้มาร่วมงานสังสรรค์และมารับเพื่อนและรุ่นน้องไปส่งบ้าน ซึ่งนั่งรถออกมาทั้งหมด 7 คน ก่อนเกิดเหตุรถยนต์เสียหลักพบเพียงรอยเบรคเป็นทางยาว รถเกิดหมุนและอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 5 เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้นำส่ง รพ.บางประกอก 8 ทราบชื่อต่อมาว่านาย ธีระพงษ์ โชคธีระไพศาล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.10 ต.โนนยาง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร นายสุกมล มอญดะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 ถนนบางกระดี่ ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน กทม. นายคมกฤช โรจนานุกูลพงศ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน กทม. นายวรรณะ ดีไฟบูลย์ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/238 ม.4 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายโกศล ด่านศิริวัฒน์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/243 ม.8 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ค จ.นนทบุรี สำหรับผู้บาดเจ็บทั้งหมดเจ้าหน้าที่ จะต้องไปสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
สระบุรี - ซิ่งกระบะตัดหน้ารถจักรยานยนต์ดับ 2
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 5 เมษายน พ.ต.ท.สมบูรณ์อึ้งรังสี ร้อยเวรสภ.เสาไห้จ.สระบุรี ได้รับแจ้งมีเกิดอุบัติเหตุมีรถกระบะตัดหน้ารถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บนถนนสาย สระบุรี-ท่าลานหมู่ 6 ต.พระยาทด อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ทราบว่า ที่เกิดเหตุเป็นทางแยกหน้าวัดโพธิ์หมู่ 6 ต.พระยาทด อ.เสาไห้ จ.สระบุรี มีรถกระบะนิสสันสีบรอนซ์เงิน ทะเบียนขท-1029 จ.สุโขทัย ขับออกมาจากทางแยกหน้าวัดโพธิ์ เป็นเหตุ รถจักรยายนต์สองคันมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีดำ ทะเบียน ขกค-239 สระบุรี มีนายปิยณัฐ สงค์เคราะห์ อายุ 18 ปี เป็นคนขับขี่ ชนเข้ากับประตูรถกระบะด้านตนขับ รถจักรยายนต์พังยับ นายปิยณัฐ เสียชีวิตคาที่
อีกคันเป็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสีฟ้า ทะเบียน กวต-362 สระบุรี มีนายอนันต์ ทรัพย์ธวัฒน์ อายุ 17 ปี เป็นคนขับขี่ ชนเข้ากับประตูด้านคนขับรถกระบะกับไฟหน้ารถด้านขวาสภาพรถ ล้อรถคตเป็นเลขแปด นายอนันต์ เสียชีวิตคาที่
ส่วนคนขับรถกระบะ ทราบชื่อคือนายมนัสพงษ์ ทองกรณ์ อายุ 29 ปี ชาวจ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคุมตัวหลบเข้าในรถ เกรงว่า ทางฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตจะทำร้าย ส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริงจะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง
กาญจนบุรี - โจ๋โหด! เขม่นในผับหลังเลิกขี่จยย.ดวลปืนตาย-เจ็บ
เมื่อเวลา 02.10 น.วันนี้ 5 เม.ย.58 พ.ต.ท.สุคนธ์รัสเอี่ยม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งชาวบ้านว่ามีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เหตุเกิดที่ซอยข้างวิทยาลัยอาชีวะศึกษา เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงนั้นจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ. พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยุทธชัย มีสายมงคล สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.อุทัย อินทรักษ์ สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบเพียงปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 7 ปลอก และขนาด 11 มม.จำนวน 3 ปลอก หัวกระสุนทั้งสองชนิด 8 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ2954นครปฐม ถูกยิงเข้าที่กระจกหลัง 1 รูกระจกแตกร้าว นอกจากนี้กระสุนยิงไปถูกรั้ววิทยาลัยอาชีวะศึกษา กำแพงบ้าน และถังแก๊สหุงต้ม ของชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นได้รับความเสียหาย โชคดีกระสุนเจาะถังแก๊สไม่เข้า ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุระเบิดขึ้นมาก็เป็นได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย ซึ่งมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา 1 ราย และโรงพยาบาลธนกาญจน์ 1 ราย และจากการตรวจสอบพบว่าวัยรุ่นที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพหลฯได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายสุรเดชอินทฤทธิ์ อายุ24ปี อยู่บ้านเลขที่78หมู่ที่11ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ท้ายทอยกระสุนฝังใน ส่วนอีก 1 รายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธนกาญจน์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 11 มม.เข้าที่ขารวม 3 นัด อาการสาหัส ทราบชื่อต่อมาคือ นายรัตน์ติชา ลักษณ์สารี อายุ28ปี อยู่บ้านเลขที่22/9ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มได้เข้าไปเที่ยวที่สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง จากนั้นได้เกิดการกระทบกระทั่งกัน หลังจากสถานบันเทิงปิดให้บริการ กลุ่มวัยรุ่นที่มาจากอำเภอด่านมะขามเตี้ยจำนวน 4 คนได้ขับรถยนต์เก๋งมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยเลี้ยวเข้าซอยวิทยาลัยอาชีวะศึกษา จากนั้นกลุ่มวัยรุ่น 2 คนที่มีเรื่องกันจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไปแล้วใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าไปที่กระจกหลังกระสุนทะลุถูกท้ายทอยของนายสุรเดช ที่นั่งเบาะหลังจากนั้นจึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น นายรัตน์ติชา ที่มากับรถจักยานยนต์ถูกยิงสวนเข้าที่ขาขวา ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันสามารถหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำเพื่อนของผู้เสียชีวิต 3 คนอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ตามเส้นทาง มาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าวัยรุ่นกลุ่มไหนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุก่อน
สงขลา - รถตกข้างทางอดีตเลขานายก ทต.ควนเนียง เสียชีวิตคาที่
เมื่อเวลา 03.10 น. วันที่ 5 เม.ย. ตำรวจสภ.หาดใหญ่ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ ไปตรวจสอบอุบัติเหตุมีรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อยี่ห้อซูซูกิ สีขาว หมายเลขทะเบียน บน 6583 กระบี่ พุ่งตกข้างทาง บริเวณจุดยูเทิร์น หน้าโกลกค้าไม้ ถนนลพบุรีราเมศร์ ฝั่งขาเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ หมู่11 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ภายในรถพบศพนายชัยยุทธ ขุนเจริญ อายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา สภาพนอนตะแคงบนเบาะนั่งศีรษะแตกจากแรงกระแทกกระจกหน้ารถอย่างรุนแรง จนกระจกรถแตก ส่วนท้ายกระบะพบถังแกลอนเปล่าสำหรับใส่น้ำมัน 2 ใบ และกระเป๋าสะพาย 1 ใบมีเอกสารแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายชัยยุทธ ขุนเจริญ ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเพียงลำพังวิ่งมาด้วยความเร็วจากตัวเมืองสงขลา และไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนขับอาจหลับในด้วยความอ่อนหล้าจนรถเสียหลักพุงตกข้างทางศีรษะพุ่งกระแทกกระจกหน้าแตกเสียชีวิตคาที่
สำหรับนายชัยยุทธ ขุนเจริญ อดีตเคยรับตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลควนเนียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา หลังจากลาออกจากตำแหน่งเลขานุการได้หันมาเล่นการเมืองท้องถิ่นโดยสมัครแข่งขันชิงนายกเทศมนตรีตำบลควนเนียงแต่แพ้คะแนนเสียง เลยหันไปประกอบอาชีพค้าขายในปัจจุบัน
อ่างทอง - หนุ่มโรงงานกลับจากเลี้ยงรุ่นซิ่งเก๋งชนสยองหนุ่มท่องราตรีดับอนาถ
เมื่อเวลา 00.15 น. ของวันที่ 5 เมษายน ร.ต.ท. กษิติทัต ฉ่ำชื่น ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุรถชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ต.บางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณโคนเสาไฟบนเกาะกลางถนนพบศพนายณัฐพล โตงาม อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 4 ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพมีเลือดออกที่บริเวณศีรษะ และจมูกเป็นจำนวนมาก ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 80 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กข-9813 อ่างทอง ที่จอดอยู่ริมถนนถูกชนจนตัวรถกระเด็นตะแคงติดรั้วบ้านเรือนประชาชน บริเวณบนถนนพบเศษชิ้นส่วนรถแตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นถนน นอกจากนั้น ห่างจากรถกระบะโตโยต้าไปอีกประมาณ 20 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฎณ-6895กรุงเทพฯ จอดอยู่ในสภาพบริเวณด้านหน้ารถมีร่องรอยการชนจนพังยับเยิน บริเวณตัวเครื่องยุบจนถึงห้องโดยสาร ที่ข้างรถพบนายสุริยา จุลเมือง อายุ 30 ปี ชาว อ.ปาโมก จ.อ่างทอง คนขับรถเก๋งยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในสภาพหมือนคนเมาสุรา
จากการสอบถามเพื่อนของณัฐพล กล่าวว่า นายณัฐพลมีอาชีพรับจ้างขับรถ ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านเพื่อมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองอ่างทอง ขณะที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ในร้าน จู่ ๆ นายณัฐพลก็ได้ลุกออกมาจากโต๊ะ แล้วบอกกับเพื่อนว่าจะออกมาปัสสาวะ ซึ่งวันนี้ที่ร้านอาหารแห่งนี้คนเยอะมาก นายณัฐพลจึงได้ข้ามถนนออกมาปัสสาวะที่ข้างนอก แล้วก็ยังไม่กลับเข้ามา จนกระทั่งมีคนได้วิ่งมาบอกที่ร้านว่ามีลูกค้าในร้านถูกรถชน พวกตนจึงวิ่งออกมาดูก็พบว่านายณัฐพลถูกรถชนเสียชีวิตแล้ว
ด้านนายธนายุ แสงฟ้า อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 2 ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เจ้าของรถกระบะวีโก้ กล่าวว่า ตนทำงานเป็นนายช่างโยธาอยู่ที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางออกจากบ้านพักใน อ.ป่าโมก เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นที่วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง ซึ่งเป็นงานเลี้ยงรุ่นของแผนกวิชาช่างก่อสร้าง-สถาปัตย์ หลังจากงานเลิกก็ได้มานั่งสังสรรค์กับเพื่อนร่วมรุ่นที่ร้านอาหารในตัวเมืองอ่างทองต่อ โดยจอดรถเอาไว้ริมถนน ซึ่งระหว่างที่นั่งอยู่ในร้าน ได้มีคนไปบอกที่ร้านว่ามีรถของแขกในร้านถูกชน พอเขาประกาศทะเบียนรถ พอรู้ว่าเป็นรถของตัวเองจึงวิ่งออกมาดู ก็พบว่ารถของตนถูกชนจนพลิกตะแคงไปแล้ว
ส่วนนายสุริยา จุลเมือง อายุ 30 ปี คนขับรถเก๋ง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นที่วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง ซึ่งเป็นงานเลี้ยงรุ่นของแผนกวิชาช่างก่อสร้าง-สถาปัตย์ และเป็นงานเดียวกับนายธนายุ หลังจากงานเลิกกำลังจะขับรถกลับบ้านใน อ.ป่าโมก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุนายณัฐพลก็ได้วิ่งตัดหน้ารถของตนกะทันหัน ตนเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง ก่อนที่รถจะเสียหลักหมุนเคว้ง จนไปชนกับรถกระบะโตโยต้าที่จอดอยู่ข้างทาง
ร.ต.ท. กษิติทัต กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่าจุดที่พบศพนายณัฐพลนั้น อยู่ห่างจากจุดชนกว่า 200 เมตร โดยหลังเกิดเหตุรถเก๋งคันที่ชนนายณัฐพลนั้น ได้เสียหลักหมุนเคว้งไปชนกับรถกระบะโตโยต้าที่จอดอยู่ริมถนน รวมรวมระยะทางจากที่รถชนไปจนถึงที่รถเก๋งหยุด ระยะทางกว่า 300 เมตร และจากการสอบสวนทราบว่า นายสุริยาได้ออกจากงานเลี้ยงที่วิทยาลัยเทคนิคอ่างทองและขับรถมาเพื่อมุ่งหน้าจะกลับบ้านด้วยความเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นจังหวะเดียวกับที่นายณัฐพลผู้เสียชีวิตที่ตอนแรกนั่งดื่มสุราอยู่ภายในร้านอาหาร ได้วิ่งข้ามถนนออกมาปัสสาวะที่ข้างทาง และกำลังจะวิ่งข้ามถนนกลับเข้าไปภายในร้านอาหารต่อ จังหวะนั้นนายสุริยาได้ขับรถมาพอดี จึงชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้นายณัฐพลเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้นำตัวนายสุริยา ไปตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาลอ่างทองแล้ว เนื่องจากในเบื้องต้นพบว่ามีอาการมึนเมาสุราด้วย
ปทุมธานี - สาวเวียดนามเข็นจักรยานตัดหน้าเก๋งนักศึกษาถูกชนดับคาที่
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 5 เม.ย.58 ร.ต.ท.วรการณ์ สาระปัญญา ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ดีรับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานและมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนรังสิต-นครนายก มุ่งหน้ารังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลประชาธิปัตย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อนางวอน ยู ไท คิม อายุ 51 ปี สัญชาติเวียดนาม สภาพศพนอนอยู่กลางถนน ใกล้กันพบรถจักรยานปั่นสีแดงสภาพพังยับเยิน และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าหมายเลขทะเบียน ฐฐ 7660 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถพังกระจกหน้ารถแตก
จากการสอบถามนายนิค อายุ 29 ปี สัญชาติเวียดนาม ญาติผู้ตายบอกว่า ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างล้างจานตามร้านอาหารและกำลังจะกลับบ้านย่านสะพานฟ้าซอยรังสิต-นครนายก6 ส่วนคนขับรถเก๋งทราบชื่อนางสาวปานิตา แสงภู่ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ปี 1 บอกแต่เพียงว่าตนเองขับรถมาทางตรงจะไปที่หอพัก ม.รังสิต ถึงที่เกิดเหตุผู้ตายเข็นรถจักรยานข้ามเกาะกลางตัดหน้ากะทันหันทำให้ตนเองมองไม่เห็นและเบรกไม่ทันจึงชนเข้าอย่างแรง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ชลบุรี - กลุ่มวัยรุ่นเที่ยวราตรีขี่จยย.เฉี่ยวชนเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 06.30 น .วันที่ 5 เม.ย. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ทัพพระยา2310 ร่วมกันไปตรวจสอบเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันมีผู้บาดเจ็บ3รานยที่บริเวณถนนภายในซอยกอไผ่ด้านโรงเรียนอักษรก่อนถึงแยกตัดถนนสายสามพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุพบคู่กรณี2ฝ่ายที่ขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันได้รับบาดเจ็บอยู่กลางถนน ทั้งหมด3ราย ทราบชื่อคือนางสาวฝน อายุ 29 ปี สภาพมีบาดแผลที่เท้าขวาและมีแผลถลอกตามร่างกายโดยไม่สามารถลุกเดินขึ้น ส่วนอีก2รายชื่อ นายวิทยา ทองถาวร หรือเบ้นว์ อายุ 19 ปี พนักงานร้าน เจเจ คาราโอเกะ และ นายวันเฉลิม เหล้าคุน หรือบาส อายุ 18 ปี อาชีพดีเจร้าน พีอาร์คาราโอเกะ ทั้งคู่มีบาดแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อยสามารถลุกเดินได้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯได้ช่วยทำการปฐมพยบาลให้กับผู้บาดเจ็บทั้งหมด พร้อมช่วยกันโบกรถจัดการจราจรเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่วงก่อนถึงทางแยกมีประชาชนขับรถสัญจรไปมาจำนวนมากทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ก่อนเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ2รายแรกคือ นางสาวฝนและนายวิทยา ซึ่งขับรถมาคันเดียวกันนำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล ส่วนนายวันเฉลิม คู่กรณีนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักจึงไม่ประสงค์ไปรักษาตัว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคู่กรณีทั้ง2ฝ่ายนั้นเป็นนักเที่ยวราตรีและเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะเหมือนกัน ก่อนเกิดเหตุนั้น นางสาวฝนขับรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX 125 สีเหลืองดำป้ายแดง มากับนายวิทยา ขับกลับจากเที่ยวมุ่งหน้าจะออกปากซอย ก่อนจะมาขับเฉี่ยวชนกับคู่กรณีคือนายวันเฉลิม ซึ่งขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า มีโอ สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ-924 ยโสธร ซึ่งกำลังขับรถกลับจากทำงานมุ่งหน้าเข้ามาในซอย ซึ่งทั้งสองฝ่ายนั้นต่างมีอาการเมาสุราเหมือนกันเมื่อรถเฉี่ยวชนกันจนล้มคว่ำอยู่กลางถนนจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
3โจ๋พัทยาไล่ตื้บหนุ่มเมืองผู้ดีหัวแตกเลือดอาบ
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 5เมษายน 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา ร่วมกันรุดไปตรวจสอบเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ซอย 4 บัวขาว พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ MR.LEE HONTINHTION อายุ 35 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติ อังกฤษ มีอาการเมาสุรา สภาพเลือดท่วมตัวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าผากจนเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ส่งรพ.พัทยาเมโมเรียล
สอบถาม หญิงสาวพนง.ร้านสะดวกซื้อ ทราบว่า ขณะที่กำลังยืนอยู่บริเวณเคาท์เตอร์คิดเงิน จู่ๆได้มีผู้บาดเจ็บพยายามวิ่งเข้าขอความช่วยเหลือภายในร้าน แต่ปรากฏว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 3 คน วิ่งไล่ตามมาก่อนจะกระชากลากคอและรุมทำร้ายผู้บาดเจ็บดังกล่าว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด จากร้านสะดวกซื้อและบริเวณใกล้เคียง เพื่อเป็นเบาะแสในการเร่งติดตามตัวกลุ่มโจ๋วัยรุ่นดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยา ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากอะไร เนื่องจากผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการมึนเมาสุรา