
มารู้จัก 'นาโนไฟแนนซ์' กัน
06 เม.ย. 2558
เพื่อนแท้การเงิน : มารู้จัก 'นาโนไฟแนนซ์' กัน : โดย...ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. www.1213.or.th โทร 1213
ข่าวทวงหนี้มหาโหดของเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ หรือแก๊งหมวกกันน็อก คงผ่านหูผ่านตาหลายคนกันมาเป็นระยะ ซึ่งเงินกู้นอกระบบมักเป็นแหล่งเงินกู้ที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยนิยมใช้บริการ เพราะเข้าถึงได้ง่าย คือ ของ่าย ได้ไว แทบไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเลย ในขณะที่อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ลูกหนี้กลุ่มนี้เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบคงหนีไม่พ้นเรื่องของการขาดหลักฐานทางการเงินที่ต้องแสดงให้แก่สถาบันการเงิน แต่ปัญหาเหล่านี้น่าจะลดลงไปได้ด้วยมาตรการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ครับ
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ออกประกาศเรื่องสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ หรือที่เรียกว่า “นาโนไฟแนนซ์” ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของนาโนไฟแนนซ์ก็เพื่อช่วยส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกทั้งยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดจากปัญหาหนี้นอกระบบได้อีกด้วย
เรามาดูรายละเอียดกันครับว่านาโนไฟแนนซ์จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างไร ผมขออธิบายว่า เนื่องจากกระบวนการให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับคุณลักษณะของกลุ่มผู้กู้ เช่น ผู้เริ่มต้นธุรกิจ ดังนั้น เอกสารทางการเงินต่างๆ จะไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการขอใช้สินเชื่ออีกต่อไป เพียงแต่ผู้กู้ต้องแสดงให้ผู้ให้สินเชื่อเห็นว่าตนเองมีความสามารถในการชำระหนี้คืน และใช้สินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพเท่านั้น
วงเงินที่กู้ยืมต้องไม่เกิน 1 แสนบาท และผู้ให้กู้สามารถคิดอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมต่างๆ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ รวมกันทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี (คิดแบบลดต้นลดดอก) แม้จะดูว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แต่ก็เพื่อชดเชยความเสี่ยงจากการที่ผู้กู้ขาดเอกสารหลักฐานแสดงแหล่งรายได้อย่างชัดเจนและไม่มีหลักประกัน แต่อัตราดอกเบี้ยก็ยังถูกกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ และหากลูกหนี้ใช้บริการแล้วพบปัญหาและไม่ได้รับการแก้ไข ก็สามารถร้องเรียนมาที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน หรือ ศคง. ได้ครับ
สำหรับประเด็นที่หลายฝ่ายต่างกังวลว่า นาโนไฟแนนซ์จะทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้นนั้น ผมคิดว่าหากพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่สนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพแต่ขาดโอกาสที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนแล้ว ก็น่าจะเป็นมาตรการที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าผลเสีย ทั้งในแง่ของผู้กู้เองและเศรษฐกิจของประเทศด้วย เพียงแต่ต้องมีวิธีการดูแลติดตามการใช้สินเชื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ผมขอทิ้งท้ายเป็นข้อคิดไว้สักนิดสำหรับผู้ที่สนใจจะขอสินเชื่อนี้ว่า การศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ และการวางแผนการใช้เงินเพื่อประกอบอาชีพอย่างรอบคอบเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติก่อนดำเนินการขอสินเชื่อ และที่สำคัญต้องมีวินัยทางการเงิน ใช้สินเชื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ และกันรายได้ส่วนหนึ่งจากการประกอบอาชีพไว้ผ่อนชำระหนี้ได้อย่างเป็นระบบตามแผนที่วางไว้ครับ
--------------------
(เพื่อนแท้การเงิน : มารู้จัก 'นาโนไฟแนนซ์' กัน : โดย...ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. www.1213.or.th โทร 1213)