
สืบจาก 'แฟลชไดรฟ์' จับฆาตกรฆ่าล้างครัว 'ปทุมวาสนา'
15 มี.ค. 2558
สืบจาก 'แฟลชไดรฟ์' จับฆาตกรฆ่าล้างครัว 'ปทุมวาสนา' : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม
"ตำรวจตรวจพบสัญญาเงินกู้ เอกสารทางธุรกิจ และแฟลชไดรฟ์ ที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินที่บุคคลรายหนึ่งค้างชำระกับผู้ตายหลายสิบล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเอกสารเขียนด้วยลายมือของนายธนยศ อ้างถึงบุคคลรายหนึ่งที่โทรศัพท์มาบอกให้ระวังตัว"
ย้อนหลังไปเมื่อเกือบ 6 ปีที่แล้ว เกิดคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าล้างครัว รวดเดียวรวม 5 ศพ ขึ้นในกรุงเทพมหานคร โดยคนร้ายรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านไปจำนวนหนึ่งเพื่อบิดเบือนคดีให้เป็นการปล้นและฆ่าเจ้าทรัพย์ ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นการฆ่าล้างแค้น
หลักฐานสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถปิดคดีนี้ลงได้ นอกจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบในบ้านหลังเกิดเหตุคือ รอยเท้าของคนร้ายแล้ว ข้อมูลที่ผู้ตายบันทึกไว้ใน “แฟลชไดรฟ์” ยังเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถแกะรอยคนร้ายจนสามารถติดตามจับกุมมาดำเนินคดีได้
คดีสะเทือนขวัญคดีนี้เกิดขึ้นที่คฤหาสน์หรูสไตล์ยุโรป ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ภายในซอยโพธิ์แก้ว ย่านบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 11 เมษายน 2558 ตำรวจนครบาลลาดพร้าว ซึ่งขณะนั้นมี พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ (ผกก.) ได้รับแจ้งเหตุก่อนจะประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชเข้าตรวจสอบ
ภายในบ้านพบร่องรอยรื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจาย บริเวณห้องครัวพบ นายธนยศ ปทุมวาสนา วัย 52 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นนักธุรกิจโรงงานเฟอร์นิเจอร์ นอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อเชิ้ตลายสกอต นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน โดยที่หน้าอกด้านซ้ายถูกยิง 1 นัด กระสุนทะลุหัวใจ
หน้าประตูห้องนอนชั้นล่างพบศพนางกนกกาญจน์ โพธิ์ทอง วัย 48 ปี ภรรยานายธนยศ สภาพนอนคว่ำหน้า เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วันเช่นกัน สวมเสื้อยืดสีชมพู นุ่งกางเกงยีนขายาว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล
ที่บริเวณประตูห้องน้ำชั้นล่างด้านหลังบ้าน พบนางสำรอง บัวแก้ว วัย 47 ปี คนรับใช้ภายในบ้าน เสียชีวิตในสภาพถูกจับแขวนคอด้วยเชือกไนลอนผูกติดกับลูกบิดประตูห้องน้ำ เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันกับ 2 ศพแรก โดยศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นลายการ์ตูน
ภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพนายธนวัฒน์ หรือ กอล์ฟ ปทุมวาสนา วัย 15 ปี บุตรชายนายธนยศ นอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้นห้อง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนขายาว ตามร่างกายไม่พบบาดแผล ส่วนภายในห้องนอนใกล้กันพบศพ น.ส.ศศิมา หรือเกรซ ปทุมวาสนา วัย 17 ปี บุตรสาวนายธนยศ นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นห้อง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีน ถูกคนร้ายใช้เทปกาวสีฟ้าพันที่ใบหน้า และที่ข้อเท้าถูกสายรัดผ้าม่านพันไว้ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางหลัง ซึ่งศพทั้งสองเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน
ตำรวจตรวจสอบภายในบ้านพบรอยรองเท้า ซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายจำนวนมาก จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เช่นเดียวกับรอยลายนิ้วมือแฝง ซึ่งติดอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
จากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่าซีพียูคอมพิวเตอร์ของผู้ตายจำนวน 2 ตัว หายไป เช่นเดียวกับพระเครื่องและพระพุทธรูปบูชาที่หายไปบางส่วน และพบทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่งถูกเก็บใส่กระเป๋าสัมภาระแล้วแต่คนร้ายไม่ได้เอาไป
ตำรวจยังตรวจพบสัญญาเงินกู้ เอกสารทางธุรกิจ และแฟลชไดรฟ์ ที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินที่บุคคลรายหนึ่งค้างชำระกับผู้ตายหลายสิบล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเอกสารเขียนด้วยลายมือของนายธนยศ อ้างถึงบุคคลรายหนึ่งที่โทรศัพท์มาบอกให้ระวังตัว
ขณะที่ญาติผู้ตายให้เบาะแสตำรวจว่า ผู้ตายเป็นเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์เอสพีซีเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ รวมถึงรับงานตกแต่งภายในตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงยังทำธุรกิจค้าขายที่ดิน และทำรีสอร์ท
“พบผู้ตายครั้งหลังสุดก่อนพบศพ 8 วัน ที่โรงงาน หลังจากนั้นไม่พบอีกเลย โดยก่อนพบศพไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ จึงมาหาที่บ้านแต่เมื่อกดอ๊อดไม่มีใครมาเปิดและไม่พบว่ารถอัลพาร์ดที่ผู้ตายใช้อยู่จอดในบ้าน จึงคิดว่าคงไปเที่ยวนอกบ้านกัน” ญาติผู้ตายให้เบาะแสตำรวจชุดคลี่คลายคดี
กระทั่งวันที่ 9 เมษายน 2552 เป็นวันที่ผู้ตายต้องจ่ายค่าแรงให้คนงานภายในโรงงาน แต่เมื่อถึงเวลาญาติผู้ตายกลับได้รับแจ้งว่า ผู้ตายไม่ได้เดินทางเข้าไปยังโรงงาน ญาติผู้ตายรายนี้จึงเข้าไปตรวจสอบที่โรงงาน พบแฟกซ์แจ้งจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งหนึ่งว่า พบรถตู้ของผู้ตายจอดอยู่ที่หน้าวัดป้อมแก้ว จ.สมุทรสงคราม โดยมีกุญแจเสียบคาอยู่ จึงประสานให้ญาติอีกคนไปตรวจสอบ พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ตายจริง แต่กลับไม่พบตัวนายธนยศและครอบครัว
ญาติผู้ตายเชื่อว่า น่าจะเกิดเหตุร้ายกับครอบครัวผู้ตาย จึงรีบเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน โดยไม่ลืมประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ซึ่งเมื่อไปถึงบ้านหลังเกิดเหตุกลับพบว่าประตูไม่ได้ล็อก และมีกลิ่นเหม็นโชยอย่างรุนแรง เมื่อเข้าไปตรวจสอบจึงพบศพผู้ตายทั้ง 5 ศพ
หลักฐานที่พบตำรวจไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา โดยร่องรอยที่พบในจุดเกิดเหตุบ่งบอกชัดเจนว่าคนร้ายไม่ได้มีคนเดียว ส่วนหลักฐานใดจะนำมาสู่การจับกุมคนร้าย ติดตามต่อตอนหน้า
--------------------
(สืบจาก 'แฟลชไดรฟ์' จับฆาตกรฆ่าล้างครัว 'ปทุมวาสนา' : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)