‘ซิ่งเก๋ง’อัดเสาไฟข้างทางดับ2สาหัส2 | คมชัดลึก

 

 

 

          วันที่ 12 มี.ค.58 อุบัติเหตุรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 11 มี.ค.ทีผ่านมา  ร.ต.ท.ประเดิม อุทยานนิน ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวงได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้าข้างทางและประตูรั้วเหล็กของบริษัทแบงค์ เฮฟวี่ อีควิปเม้น จำกัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าช่องทางคู่ขนาน ม.12 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

 

          ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอสด์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ษฉ 5130 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงอัดอยู่กับเสาไฟฟ้าขนาด 12 เมตรกำลังไฟ 22KV สภาพพังยับเยินภายในรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1ราย ทราบชื่อ นายสุริยา อุ่นโอสถ อายุ 41 ปี  ไม่ทราบที่อยู่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ นายอมรศักดิ์ รอดบรรจบ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355/706 ม.15 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นคนขับได้ปีนออกมาจากรถและกระโดดลงน้ำซึ่งขณะนั้นสายไฟฟ้าได้ขาดทำให้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูพยายามช่วยกันปั้มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้หญิงอีก 2 ราย ทราบชื่อ นางสาวอุทัยวรรณ แก้วยิ่งยงค์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.12 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม และนางสาวนฤมล สุรโชติจำรูญ อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 55/21 ซ.เทียนทะเล 28 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์และโรงพยาบาลการุณเวช

 

          จากการสอบถาม นายอาทิตย์ สุขสง่า อายุ 23 ปี บอกว่าขณะตนเองขับรถจักรยานยนต์ตามมาเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วและส่ายไปส่ายมาจากนั้นก็เกิดเสียหลักชนเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทางอย่างแรงโดยรถคันดังกล่าวมาด้วยกัน 4 คนผู้ชาย 2 คนและผู้หญิง 2 คน ตนจึงพยายามเข้าไปช่วยแต่เห็นสายไฟฟ้าขาดจึงตะโกนบอกไม่ให้คนในรถกระโดดลงน้ำแต่คนขับไม่เชื่อกระโดดลงน้ำทันทีจึงถูกไฟฟ้าดูด ต่อมาก็มีเจ้ามูลนิธิร่วมกตัญญูเข้ามาช่วยนำคนเจ็บที่เป็นผู้หญิงส่งโรงพยาบาล ต่อมาเพื่อนที่มาดูเหตุการณ์บอกว่าทั้งหมดได้ไปดื่มเหล้าที่ซอยแมนฮัตตันและกำลังจะไปกินต่อที่ร้านอาหารเวียงจันทร์ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้นนั้นต้องรอสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งหนึ่ง