อยากแก้หมันแต่มีงบน้อย​ | คมชัดลึก

 

            ถาม อยากสอบถามคุณหมอเรื่องแก้หมันค่ะแต่มีงบน้อย ฉันอยู่จังหวัดทางภาคตะวันออกค่ะ อยากมีลูกอีกคนค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

 

            ตอบ เนื่องจากเมืองไทยมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งแทบไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเลยสำหรับคนที่มีบัตรประกันสุขภาพ ทำให้หลายคนเข้าใจว่า การแก้หมันคงรวมอยู่ในสิทธิประโยชน์ของบัตรประกันสุขภาพด้วย แต่อันที่จริงไม่ใช่ การแก้หมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องมีค่าใช้จ่าย ได้แก่...ค่าผ่าตัดแก้หมันซึ่งอยู่ในหลักหลายหมื่นถึงแสนต้นๆ แล้วแต่จะแก้หมันที่โรงพยาบาลอะไร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญขนาดไหน เครื่องไม้เครื่องมือไฮเทคแค่ไหน สะดวกสบายในการพักอยู่ในโรงพยาบาลแค่ไหน, ค่าใช้จ่ายหากเกิดภาวะแทรกซ้อนของการแก้หมัน เช่นแผลอักเสบติดเชื้อ, ค่าใช้จ่ายหากตั้งครรภ์แล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นแท้งลูก ท้องนอกมดลูกซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินมีอันตรายถึงชีวิตถ้ารักษาตัวไม่ทัน, ค่าใช้จ่ายเมื่อต้องหยุดพัก ไม่ทำงานหลังแก้หมัน, นอกจากนั้นคงต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไว้เลี้ยงลูกคนใหม่หากแก้หมันสำเร็จ

 

 

การแก้หมันไม่มีใครการันตีได้ว่าจะประสบความสำเร็จ โดยมีตัวเลขประสบความสำเร็จมีลูกได้หลังแก้หมัน ประมาณร้อยละ 20-80 โอกาสแก้หมันสำเร็จสูง หากมีปัจจัยต่อไปนี้

 

1. มีงบประมาณพอเพียง ไม่จำกัดสำหรับการแก้หมัน และแก้ไขภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

2. อายุคนแก้หมันน้อยกว่า 35 ปี ยิ่งอายุมากกว่า 40 ปี โอกาสแก้หมันสำเร็จน้อยลง

3. ร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคเรื้อรัง ที่ทำให้มีโอกาสท้องต่ำ หรือท้องแล้วมีอันตราย เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคตับ โรคไต โรคปอด โรคหัวใจ โรคสมอง โรคเลือด ฯลฯ หากมีโรคเรื้อรังไม่ควรแก้หมัน

4. ไม่มีโรคของอวัยวะสืบพันธุ์สตรี เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก, เนื้องอกมดลูก, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, เนื้องอกรังไข่ ฯลฯ เพราะทำให้การแก้หมันไม่ประสบความสำเร็จ

5. ไม่มีปัญหาทางจิตใจ เช่น ซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล

6. การตั้งครรภ์ก่อนทำหมันไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไม่มีโรคครรภ์เป็นพิษ ไม่มีการตกเลือดก่อนคลอดและหลังคลอด ไม่มีเด็กทารกคลอดก่อนกำหนด

7. ทำหมันมาไม่เกิน 5 ปี

8. สามีไม่เป็นหมัน อสุจิแข็งแรงดี

9. การทำหมันที่ผ่านมา ท่อนำไข่ถูกตัดไปไม่ถึงร้อยละ 50 หากครั้งนี้แก้หมันแล้วท่อนำไข่ที่ตัดต่อใหม่สั้นเกิน5 เซนติเมตร โอกาสท้องหลังแก้หมันต่ำ

10. หลังผ่าตัดทำหมันสามารถพักผ่อนได้ ไม่ทำงานหนักอย่างน้อย 1 เดือน

 

            สรุป แม้จะมีหลักการของการบริการทางสาธารณะสุขว่า บุคคลควรได้รับการบริการทางการแพทย์เท่าเทียมกัน แต่นั่นหมายถึงการบริการทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน และฉุกเฉินเมื่อเกิดอันตรายต่อชีวิต การให้บริการทางการแพทย์หลายอย่างต้องมีงบเพียงพอ เช่นการใช้เทคโนโลยีผู้มีบุตรยาก การทำเด็กหลอดแก้ว และฯลฯ การแก้หมันก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ