ข่าว

ไขปริศนา‘เอฟ16’ดิ่งพสุธาการฝึก..เสี่ยงไม่ต่างกับรบจริง!

ไขปริศนา‘เอฟ16’ดิ่งพสุธาการฝึก..เสี่ยงไม่ต่างกับรบจริง!

26 ก.พ. 2558

ไขปริศนา‘เอฟ16’ดิ่งพสุธา การฝึก..เสี่ยงไม่ต่างกับรบจริง! : ทีมข่าวความมั่นคง

             อุบัติเหตุในระหว่างการฝึกบิน ณ สนามฝึกการใช้อาวุธ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ทำให้กองทัพอากาศต้องสูญเสีย ร.อ.นพนนท์ นิวาศานนท์ นักบินประจำหมวดบิน 3 ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 103 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ไปอย่างน่าเสียดาย ความสูญเสียในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์การบินของเครื่องบินขับไล่รุ่นเอฟ 16 ซึ่งถือเป็นเครื่องบินรบหลักของกองทัพอากาศไทย

             ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2553 เครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 สังกัดฝูงบิน 403 กองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ ขึ้นบิน 4 ลำ ไปปฏิบัติภารกิจที่กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ ประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก ทำให้ ร.อ.ฐานิกร เหลือรุ่งวารี นักบิน เสียชีวิต

             ครั้งที่สอง วันที่ 14 กุมภาพัน 2554 เครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 2 เครื่อง ประสบอุบัติเหตุตกที่ไร่มันสำปะหลัง จ.ชัยภูมิ หลังกลับจากปฏิบัติภารกิจการฝึกคอบร้าโกลด์ ของกองบิน 1 ฝูงบิน 102 นักบินปลอดภัยทั้ง 2 นาย เพราะสามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้ทัน

             ครั้งล่าสุด วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 เครื่องบินเอฟ 16 เอ หมายเลขเครื่อง 10316 ทำการบินฝึกใช้อาวุธต่อเป้าหมายพื้นดิน (Air to ground) ซึ่งเป็นการฝึกแบบโลคัล ไฟลท์ ของฝูงบิน 103 ในการฝึกพร้อมรบ หมู่ 2 หมายเลข 2 ขึ้นทำการฝึกในเวลา 14.10 น. ประสบอุบัติเหตุตก ณ สนามการใช้อาวุธ จ.ลพบุรี ในเวลา 14.15 น. ทำให้ ร.อ.นพนนท์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

             แหล่งข่าวกองทัพอากาศเปิดเผยว่า เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเอฟ 16 ฝูงแรกที่กองทัพอากาศจัดหา รับมอบในปี 2534 อย่างไรก็ตาม เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศทุกลำได้รับการซ่อมบำรุงตามวงรอบตามคู่มือการซ่อมบำรุงเป็นอย่างดี และแม้จะมีอายุการใช้งานมายาวนานเกือบ 30 ปี แต่ก็สามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัย

             ภายหลังประสบอุบัติเหตุ มีเจ้าหน้าที่ช่างซ่อมบำรุงของบริษัทล็อคฮีต มาร์ติน ที่ประจำการอยู่ในประเทศไทย มาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย โดยเจ้าหน้าที่ดังกล่าวประจำอยู่ประเทศไทยตั้งแต่เริ่มจัดซื้อเอฟ 16 ฝูงแรก

             ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญการบินอีกรายอธิบายรูปแบบการฝึกใช้อาวุธด้วยกระสุนจริงว่า การฝึกโจมตีภาคพื้นดินโดยหลักการแล้วเครื่องบินต้องฝึกดำลงไปในแนวดิ่ง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยิง และเพิ่มอานุภาพของอาวุธที่จะเพิ่มขึ้นตามความเร็วของเครื่องในขณะเข้าโจมตี

             วิธีการ คือ นักบินต้องดำลงไปให้ลึกที่สุดแล้วปล่อยอาวุธ ก่อนจะเชิดหัวเครื่องขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มความแม่นยำ และอำนาจในการทะลุทะลวงต่อเป้าหมาย ซึ่งตามปกติแล้วจะมีการวางเป้าไว้บนพื้นดิน และเมื่อโจมตีเสร็จแล้วจะถอนตัวกลับด้วยการเชิดหัวเครื่องขึ้นอย่างรวดเร็ว หากดึงเครื่องขึ้นช้าไปอาจเชิดหัวขึ้นไม่ทัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมเครื่องได้ และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

             “ในการดิ่งลงมุมที่ลงจะชันมากเกือบ 90 องศา ซึ่งจะทำให้การใช้อาวุธมีประสิทธิภาพที่สุด ลองนึกภาพตามว่า การบินราบ หรือบินเฉียง จะทำให้เป้าเคลื่อนที่ตามเราไปด้วย แต่ถ้าเราปักหัวลง เป้าบนพื้นก็แทบจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำให้เล็งเป้าได้อย่างแม่นยำ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ดึงเครื่องขึ้นไม่ทัน หรืออาจทำให้นักบินหน้ามืดหมดสติกะทันหัน เพราะแรงจี (แรงดึงดูด) ก็เป็นได้”

             เขาเชื่อว่า ขณะที่เกิดอุบัติเหตุนักบินน่าจะยังมีสติอยู่ หากเชื่อตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่เล่าว่า มีการบังคับเครื่องให้พ้นจากแนวบ้านเรือน ซึ่งถ้านักบินจะดีดตัวเลยก็สามารถทำได้ แต่นักบินจะถูกสอนอยู่เสมอว่าจะดีดตัวก็ต่อเมื่อ 1.ปรับท่าทางการบินให้เป็นปกติ 2.ให้นำเครื่องพ้นจากบ้านเรือนประชาชน ซึ่งนักบินอาจกลัวว่าเครื่องจะตกใส่บ้านคน จึงบังคับเครื่องห่างออกไป

             “ผมขอชื่นชมในความเสียสละชีวิตเพื่อส่วนรวมของนักบินท่านนี้ อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุที่สนามฝึกการใช้อาวุธ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง บางครั้งยิงจรวดไปโดนแท่นหินแล้วแฉลบมาโดนเครื่องก็ยังมี ซึ่งเป็นความสูญเสียที่เรารับรู้ถึงความเสี่ยง แต่ถ้าไม่ฝึกแบบนี้ก็ไม่สามารถนำไปใช้รบในสมรภูมิจริงได้”

             ด้านนักบินเครื่องบินรบอีกราย กล่าวว่า การสูญเสียในครั้งนี้ถือว่าเป็นความสูญเสียนักบินฝีมือดีของกองทัพอย่างน่าเสียดาย เพราะการฝึกนักบินรบชั้นยอดอย่างนักบินเอฟ 16 ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการฝึกมาเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ 1.การฝึกศิษย์การบิน 2.การฝึกคอร์สนักบินขับไล่เบื้องต้น และ 3.การเปลี่ยนแบบมาขับเครื่องบินรบเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันมีทั้งเอฟ 5 เอฟ 16 และกริพเพน

             เขายังให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เก้าอี้ดีดตัว” ด้วยว่า เก้าอี้ดีดตัวเป็นระบบที่ถูกออกแบบให้เป็น "หนทางสุดท้าย" ของนักบินในการเอาตัวรอดมาจากเครื่องบิน โดยลักษณะของเก้าอี้ดีดมีทั้งออกแบบให้ดีดออกมาทั้งห้องโดยสาร (COCKPIT)แต่ส่วนใหญ่จะออกแบบให้ดีดออกมาเฉพาะเก้าอี้นักบิน

             โดยกลไกคร่าวๆ ของเก้าอี้ดีดตัวคือ 1.ระบบเหนี่ยวไกเก้าอี้ ซึ่งปกติไกเหนี่ยวจะอยู่ใกล้ขาของนักบิน พอเหนี่ยวไกปุ๊บสายรัดจะรัดตัวนักบินให้ตรึงแน่นกับเก้าอี้เพื่อความปลอดภัย 2.ระบบจุดระเบิด ซึ่งมาจากดินขับ หรือดินระเบิดจะทำงานทำให้ฝาครอบประทุนเปิด เพื่อเตรียมดีดนักบินออกไป 3.ระบบจุดตัวเก้าอี้ จะขับเคลื่อนเก้าอี้ให้หลุดจากราง 4.ระบบร่ม จะทำงานเพื่อให้ลงพื้นโดยปลอดภัย

             ระบบการทำงานทั้งหมดนี้กินเวลาไม่เกิน 3 วินาทีเท่านั้น เพราะความเร็วของเครื่องบินรบจะสูงมาก แค่เสี้ยววินาทีก็อาจทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นได้

             นักบินคนเดิมอธิบายอีกว่า ระบบเก้าอี้ดีดตัวของเอฟ 16 ถือว่าทันสมัยและปลอดภัยมาก โดยเป็นระบบที่เรียกว่า ซีโร่-ซีโร่ คือ แม้แต่ความเร็วเป็น 0 และความสูงเป็น 0 เก้าอี้ดีดตัวก็ยังสามารถทำงานได้ เช่น ถ้าเกิดอุบัติเหตุ เกิดระเบิด หรือไฟไหม้ขึ้นขณะแท็กซี่อยู่บนรันเวย์ก็สามารถดีดตัวหนีออกมาได้ ถ้าเป็นเก้าอี้ดีดตัวในระบบเดิมจะทำงานที่ระดับความสูง 100 ฟิต และมีความเร็วตั้งแต่ 120 นอตขึ้นไป ถ้าความเร็วต่ำกว่านั้นหรือบินช้ากว่านั้นระบบเก้าอี้ดีดตัวก็จะไม่ทำงาน

             โดยสรุปแล้ว เขามองตรงกับนักบินคนแรกว่า สาเหตุคงไม่ใช่เกิดจากความผิดพลาดของนักบิน หรือตัวเครื่อง แต่น่าจะเกิดจาก “อุบัติเหตุ” ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในระหว่างการฝึกซ้อมรบ

             ส่วนการที่เก้าอี้ดีดตัวไม่ทำงานนั้น อาจเกิดจากตัวนักบินเองที่อาจตัดสินใจไม่เหนี่ยวไก ซึ่งอาจเป็นเพราะต้องการประคองเครื่องไปให้นานที่สุด โดยหวังว่าอาจจะสามารถนำเครื่องขึ้นได้อย่างปลอดภัย หรืออาจเป็นเพราะ “จิตวิญญาณ” ของเสืออากาศ ที่ต้องการบังคับเครื่องให้พ้นจากบ้านเรือนประชาชนไปก่อน..ก็เป็นได้

              เครื่องบิน เอฟ 16 เข้าประจำการในกองทัพอากาศ มาตั้งแต่ปี 2534 โดยกองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินรบรุ่น เอฟ 16 เอ/บี บล็อก 150 ซียู จากสหรัฐอเมริกาในปี 2528 จากเดิมที่มีเพียง เอฟ 5 โดยจัดซื้ิอทั้งหมด 4 ชุด รวม 4 โครงการ คือ ปี 2528 จัดซื้อจำนวน 12 ลำ เป็นรุ่นที่นั่งเดี่ยว (เอ) 8 ลำ รุ่นสองที่นั่ง (บี) 4 ลำ

             ปี 2528 จัดซื้อจำนวน 6 ลำ เป็นรุ่นที่นั่งเดี่ยว (เอ) 6 ลำ

             ปี 2538 จัดซื้อจำนวน 18 ลำ เป็นรุ่นที่นั่งเดี่ยว (เอ) 12 ลำ รุ่นสองที่นั่ง (บี) 6 ลำ

             ปี 2542 จัดซื้อจำนวน 16 ลำ เป็นรุ่นที่นั่งเดี่ยว (เอ) 15 ลำ รุ่นสองที่นั่ง (บี) 1 ลำ

             นอกจากนี้ ยังได้รับมอบจากกองทัพอากาศสิงคโปร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการอนุญาตให้กองทัพอากาศสิงคโปร์เข้ามาฝึกในสนามฝึกของไทยอีก 7 ลำ เป็นรุ่นที่นั่งเดี่ยว (เอ) 3 ลำ รุ่นสองที่นั่ง (บี) 4 ลำ

             เอฟ 16 เป็นเครื่องบินแบบแรกๆ ของโลกที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมการบินทำให้มีความแม่นยำ และคล่องตัวสูงในการรบทางอากาศ โดยมียอดการผลิตทั่วโลกกว่า 4,000 ลำ นับตั้งแต่ปี 1976 โดยเข้าประจำการในกองทัพทั่วโลกกว่า 20 ประเทศ และยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ดีที่สุดของโลกในปัจจุบัน