ข่าว

รวบ!8โจ๋แก๊งปล้นทรัพย์นิสิตจุฬาฯ

รวบ!8โจ๋แก๊งปล้นทรัพย์นิสิตจุฬาฯ

07 ก.พ. 2558

รวบ! 8 โจ๋แก๊งปล้นทรัพย์นิสิตจุฬาฯ สารภาพก่อเหตุหลายพื้นที่ หาเงินเที่ยว-เล่นเกม

 
             ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 พล.ต.ท.ศรีวราห์ ระงสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.สมโภชน์ สุวรรณจรัส ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายเศรษฐกานต์ หรือแม็ค พิลาภรณ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 1 ต.ทับสวาย อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา นายอภิบาล หรือเตอร์ มนตรีชัยวิวัฒน์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231/3 ซ.ริมคลองบางกอกน้อย แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. นายธนรักษ์ หรือแบ็งค์ กรุดทอง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 ม.1 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร นายไพโรจน์ หรือต้อย ช่างม่วง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 675 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. นายเมธี หรือเม ธรรมกูล อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/8 แขวงและเขตบางขุนนนท์ กทม. นายเอกรินทร์ หรือบิว รัศมี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 755/62 ถ.อิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว สีขาว-แดง ทะเบียน มตท 491 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กด 856 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน ลคธ 761 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 และแว่นสายตาสีดำไม่มียี่ห้อ
 
             พล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม และฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ได้ลงพื้นที่ซุ่มโป่งเพื่อป้องกันเหตุคนร้ายกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สิน จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์ 3 คันเป็นยานพาหนะ ก่อเหตุร่วมกันใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายปล้นเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายที่บริเวณทางเดินเท้าหน้าห้างแว่นท็อปเจริญ ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ แล้วหลบหนีมาตามถนนพระราม 1 มุ่งหน้าแยกเจริญผล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าทำการสกัดจับตามเส้นทาง พบกลุ่มคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนด้วยความเร็วสูง จึงได้แสดงตัวเข้าทำการสกัดจับคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวนายเศรษฐกานต์ และนายอภิบาล ได้พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และตรวจยึดทรัพย์ของกลางที่ได้จากการปล้นทรัพย์ ที่บริเวณหน้าห้างโลตัสพระราม 1 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ส่วนคนร้ายที่เหลือได้หลบหนีไปจากบริเวณดังกล่าว ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการสืบทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่เหลือได้หลบหนีไปอยู่ที่ร้านเกมส์ CZ INTERNET ย่านบางขุนนนท์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จนทำการขยายผลสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ปทุมวัน หลังจากนั้นได้ทำการขยายผลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง จนสามารถจับกุมตัว นายเมธี และนายเอกรินทร์ ไว้ได้อีกด้วย
 
             พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีอาชีพ และไม่ได้ศึกษาแต่อย่างใด วันๆจะมารวมกลุ่มเล่นเกมส์ที่ร้านดังกล่าว ก่อนพากันออกตระเวนปล้นทรัพย์เหยื่อที่เดินตามท้องถนนในยามค่ำคืน โดยนายธนรักษ์ นายไพโรจน์ นายเอ และนายบี ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายเศรษฐกานต์ และนายอภิบาล ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย ​นอกจากนี้จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนยังพบอีกว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 02.00 น. นายเศรษฐกานต์ นายไพโรจน์ นายเอ และนายบี ได้ร่วมกันกับนายเมธี และนายเอกรินทร์ ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหายที่บริเวณป้ายจอดรถประจำทางหน้าสนามม้านางเลิ้ง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 3,000 บาท และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จำนวน 1 เครื่อง อีกทั้งยังยอมรับอีกด้วยว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาอีกหลายครั้งในหลายพื้นที่ ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายย่านปิ่นเกล้า จากนั้นนำเงินที่ได้มาแบ่งกันและนำไปใช้เที่ยวเตร่ เล่นเกม
 
             จากการสอบปากคำนายวรวิทย์ เสวีวัลลภ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปซ้อมดนตรีกับกลุ่มเพื่อนที่ย่านปทุมวัน หลังจากนั้นเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ได้เดินทางกลับบ้านโดยเดินอยู่บริเวณริมถนนหน้าห้างแว่นท็อปเจริญ ถ.พญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม. พบคนร้าย 6 คนใช้จักรยานยนต์ 3 คันเป็นยานพาหนะ โดย 3 ใน 6 คนกำลังยืนปัสสาวะอยู่ ตนจึงเดินผ่านมาโดยไม่สนใจ จู่ๆ กลุ่มคนร้ายปรี่เข้ามาใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายปล้นเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ก่อนมาแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากที่ได้ทรัพย์สินคืนทั้งหมด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
 
             "อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การของผู้ต้องหา ต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อขยายผล นอกจากนี้ยังพบอีกว่า นายธนรักษ์ และนายไพโรจน์ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.85/2558 และ จ.86/2558 ลงวันที่ 6 ก.พ.2558 เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา“ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมฯ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" ผบช.น.กล่าว