เขย่าขวดก่อนใช้ | คมชัดลึก

               เวลาที่จะกินยาน้ำ คุณหมอมักจะกำชับให้ “เขย่าขวดก่อนใช้” ทั้งนี้ เพราะขวดยาที่วางทิ้งไว้ตัวยาจะนอนก้น ถ้าไม่เขย่าให้เข้ากันก็อาจจะกินแต่ส่วนบนซึ่งเป็นน้ำ แต่ตัวยาตกตะกอนอยู่ก้นขวด ทำให้ไม่ได้ผลหรือไม่ได้สรรพคุณเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น

               ไม่ใช่แต่ยาหรอกครับ อะไรก็ตามที่ปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็มีโอกาสที่จะนอนก้นได้ เช่น วิชาความรู้ที่เล่าเรียนมา หากไม่ได้ใช้หรือทบทวนก็หลงๆ ลืมๆ ไปได้เป็นธรรมดา หรืออำนาจที่มีอยู่แต่มิได้ใช้ หรือแสดงให้คนบางคน คิดไปว่ามันเสื่อมสภาพไปแล้ว หรือไม่มีอยู่จริง แล้วก็เลยเกิดอยากจะลองดี หรือลองดูสักทีว่า อำนาจนั้นมันยังมีฤทธิ์เดชอยู่หรือฝ่อไปหมดแล้ว

               ผมไม่ประหลาดใจหรอกครับว่า ในระยะนี้และระยะต่อไปจะมีการทดสอบพลังอำนาจเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

               แต่คงจะประหลาดใจมากกว่า ถ้าผู้มีอำนาจปล่อยให้ยาน้ำของตนที่เคยประกาศสรรพคุณครอบจักรวาลนั้น มีเพียงน้ำโจ๋งเจ๋ง ดังนั้น จึงน่าจะเขย่าขวดเพื่อให้เห็นชัดเจนว่า ตัวยาไม่ได้นอนก้นและยังออกฤทธิ์ได้ชะงัดเหมือนเดิมทุกประการ

               การลองยา มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้อยากลอง เห็นว่ายาถูกวางทิ้งไว้นานแล้ว ทำให้อยากรู้ว่า ยายังมีประสิทธิภาพอยู่จริงหรือไม่ หากลองแล้วพบว่าไม่มีผลอะไร ก็จะรุกคืบต่อไป ตัวอย่างเช่น คุณมีที่ดินรกร้างว่างเปล่าอยู่ผืนหนึ่ง ต่อให้กั้นลวดหนามไว้ นานไปก็จะเริ่มมีคนมาลองดีด้วยการเอาขยะมาทิ้งบ้าง ปลูกเพิงขายของบ้าง ถ้าไม่มีใครมาไล่ ที่ดินตรงนั้นก็อาจจะกลายสภาพเป็นตลาดนัด เป็นหมู่บ้านสังกะสี หรือเป็นอะไรอีกร้อยแปดพันเก้า ถึงตอนนั้นแล้วถ้าคุณเกิดอยากจะได้ที่ดินของคุณคืนมา ผมรับรองได้ว่าคุณจะต้องเจอกับเรื่อง

               ที่ชวนปวดหัวอย่างมากมาย อาจจะต้องเจอกับการประท้วง การกล่าวหาว่าคุณรังแกคนจน ไปจนถึงขึ้นโรงขึ้นศาล ทำให้ต้องเสียชื่อเสียง เสียเวลา เสียเงินเสียทอง และเสียเครดิตไปเปล่าๆ

               วิธีป้องกันมิให้เกิดการลองยาหรือลองดีขึ้น ก็คือจะต้องลงมือจัดการกับสิ่งผิดปกติเสียแต่ต้นมือ อย่ายอมให้ลุกลามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้มียากี่ขวดก็ต้องเขย่ากันเป็นการใหญ่ อย่าให้ตัวยานอนก้น จนคนบางคนเกิดคำถามว่า ยายังใช้ได้หรือเปล่า และนึกอยากจะลองยาหรือลองดี

               การเขย่าขวดยาให้พร้อมใช้ได้ทันทีนั้น จะเป็นการตอบคำถามแก่ผู้อยากลองดีโดยตรง และเมื่อคนที่อยากลองดี เจอยาดีที่ออกฤทธิ์รุนแรง หรือคนที่อยากลองของ เจอของจริงเข้าสักครั้งสองครั้ง ก็คงจะหายซ่าไปได้อีกนาน

               ผมยังเชื่อในสรรพคุณของห้างขายยา “ตราพระจันทร์” และคิดว่า ยาน้ำรสสุขุม ที่เคยใช้อยู่นั่นยังใช้ได้ผลอยู่ เพียงแต่เขย่าขวดสักหน่อยก็น่าจะยังพอประทังโรคไม่ให้ลุกลามได้ ไม่น่าจะต้องถึงกับเข้าห้องผ่าตัด อย่างที่หลายๆ คนต้องการจะเห็นหรอกครับ

               ท้ายคอลัมน์วันนี้ ขอเรียนว่า เนื่องจากทาง เอฟเอ็ม 96.5 อสมท มีการปรับผังรายการใหม่ ดังนั้นรายการ “การเดินทางของความคิด” ที่ผมร่วมจัดในทุกคืนวันพุธ ก็จะเลื่อนขึ้นมาเป็น ทุกคืนวันจันทร์ เวลา 21.30-22.00 น.นะครับ ส่วนรายการ ”โลกและชีวิต กับ ประภัสสร เสวิกุล” ยังคงอยู่ที่วิทยุศึกษา เอฟเอ็ม 92 และ เอเอ็ม 1161 ทุกคืนวันเสาร์ เวลา 20.30-22.00 น. เหมือนเดิม รายการนี้จะทำหน้าที่ในการย่อโลกและย่อยเรื่องราวของชีวิต เพื่อให้แง่คิดและมุมมองที่แตกต่าง พร้อมนำเพลงสากลที่ประทับใจในอดีตมาให้ฟังกันครับ