
รวบหนุ่มอ้างเบื้องสูงวิ่งเต้นล้มคดี
03 ก.พ. 2558
ตร.รวบผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงวิ่งเต้นล้มคดี เผยเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ทดังติด 'บ้านสุวะดี' หลั่งน้ำตาหลังพบหน้ามารดา ค้นบ้านพัก 2 จุด พบปืน 5 กระบอก
3 ก.พ. 58 ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหาย อายุ 73 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. เนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคม 2551 บุตรชาย ถูกตำรวจ สภ.บางแพ จ.ราชบุรี จับกุมในคดียาเสพติด ต่อมามีคนรู้จักแนะนำว่านายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน อายุ 29 ปี สามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีได้ จึงติดต่อกับนายเอกชัย ที่แอบอ้างเบื้องสูง ก่อนเรียกรับเงิน 1.3 ล้านบาท แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยเหลือให้บุตรชายรอดพ้นการถูกดำเนินคดีได้ จึงทวงถามเงิน ซึ่งได้คืนมาเพียง 2 แสนบาท และไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากเกรงกลัว กระทั่งเห็นข่าวครอบครัวตระกูล ซึ่งเป็นเครือข่ายที่นายเอกชัย เคยอ้างว่าสนิทสนม ถูกจับกุมหลายคดี จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดังกล่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผบก.ป. รรท.ผบก.ป. พร้อม พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.3 บก.ป. แถลงข่าวจับกุมนายเอกชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ฉ้อโกง และเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนหรือจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตน ให้กระทำหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 , 341 และ 143
พ.ต.ท.จอม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 พบว่า บ้านสุวะดี ที่ จ.ราชบุรี และบ้านสวนส้มทิพย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นของมารดานายเอกชัยอยู่ติดกัน จนทั้ง 2 บ้านมีความสนิทสนมนับถือไปมาหาสู่กันบ่อยๆ กระทั่งนายเอกชัย ใช้นำไปแอบอ้างในการช่วยเหลือผู้เสียหายดังกล่าว
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบด้วยว่า เมื่อปี 2557 นายเอกชัย เคยเป็นคนกลางรับเงินวิ่งเต้นจากนายวิศิษฎ์ สัจพจน์นุกูล เพื่อเปิดบ่อน “นัมเบอร์วัน” ย่านเหม่งจ๋าย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจเข้าจับกุมอีกด้วย ซึ่งขณะนั้นนายเอกชัยไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด
ด้านนายเอกชัย ยังให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล โดยในส่วนของการอ้างถึงสถาบันเบื้องสูงเป็นข้อมูลบางส่วนที่เกิดความผิดพลาด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำ และดำเนินการต่อไป ส่วนตัวเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์กับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. รวมทั้งคดีบ่อน “นัมเบอร์วัน” ซึ่งวันที่ 23 มิถุนายน 2557 ที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นผู้สอบปากคำเองเป็นการจัดฉากหรือไม่ นายเอกชัย กล่าวว่า พอจะรู้จักกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์สนิทส่วนตัว และในส่วนของคดีบ่อนก็ไม่ได้เป็นการจัดฉาก เพียงแต่ถูกเชิญไปให้ข้อมูลเท่านั้น หลังจากวันนั้น ก็ไม่ได้ถูกเรียกไปสอบปากคำใดๆ อีก เมื่อถามว่า นอกจากผู้เสียหายดังกล่าวแล้ว มีใครอีกบ้างที่ไปอ้างว่าจะช่วยวิ่งเต้นล้มคดีได้ นายเอกชัย กล่าวว่า ไม่ได้วิ่งเต้นเพื่อสู้คดี แต่เพียงวิ่งเต้นเพื่อช่วยประกันตัวออกมาเท่านั้น ในส่วนของการสู้คดีก็เป็นเรื่องที่ต้องไปสู้กันเอง แต่อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน ที่คิดว่าติดต่อทนายแล้วจะวิ่งเต้นช่วยประกันตัวได้
เมื่อคำถามว่า เงินจำนวน 1.3 ล้านบาท ที่ได้จากผู้เสียหาย นำไปแบ่งให้แก่บุคคลใดบ้าง นายเอกชัย กล่าวว่า ขอให้ตำรวจเป็นผู้สอบปากคำ และดำเนินการต่อไป
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รองผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่นำตัวนายเอกชัยไปตรวจค้นเพิ่มเติม 2 จุด ที่บ้านสวนส้มทิพย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เลขที่ 67 หมู่ 6 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โดยมีมารดาของนายเอกชัย มารอรับ และทันทีที่พบกัน นายเอกชัยถึงกับร้องไห้และก้มลงกราบ ส่วนการตรวจค้นพบอาวุธปืน 5 กระบอก เป็นปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ลูกซองยาวเดี่ยว 1 กระบอก และอาวุธปืนสั้น 3 กระบอก มีทะเบียนปืนถูกต้อง โดยนายเอกชัย ระบุว่า อาวุธปืนดังกล่าวรับจำนำไว้
หลังจากนั้น ได้ตรวจค้นที่บริเวณโรงงานผลิตน้ำดื่มสวนส้มทิพย์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านพักของนายเอกชัย พบเอกสารโฉนดที่ดิน วุฒิการศึกษา และใบอนุโมทนาบัตรรวมทั้งเอกสารทะเบียนโรงงาน จึงได้ยึดไว้เพื่อนำไปตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ ซึ่งการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เปิดเผยภายหลังตรวจค้นว่า เจ้าหน้าที่จะนำเอกสารที่ได้ทั้งหมดไปตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหามีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกับคดีแอบอ้างเบื้องสูงของกองบังคับการปราบปราม ทั้งนี้ หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกจะดำเนินตามขั้นตอน ส่วนนายเอกชัย จะสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนนำตัวฝากขังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้