มินดาเนายังอยู่บนความเสี่ยง | คมชัดลึก

               เมื่อตอนที่รัฐบาลฟิลิปปินส์บรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการกับกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนกลุ่มใหญ่ที่สุดของเกาะมินดาเนา โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลางเมื่อปีกลายนั้น หลายฝ่ายเฮ้อ โล่งอก คิดว่าสันติภาพบังเกิดแน่แล้ว มินดาเนาคงเหมือนอาเจะห์ ที่ถึงเวลาแล้วก็สงบ ผู้ก่อการร้ายไปทำไร่ไถนาหรือเล่นการเมืองกันไป ไม่จับปืนสู้รบกับรัฐบาลกลาง ความนิยมประธานาธิบดีอาคีโนผู้ลูกก็ดีขึ้น เมื่อโป๊ปมาเยือนก็มีความสุขมาก ภัยคุกคามของฟิลิปปินส์นั้นกำลังโฟกัสไปที่นอกประเทศทางเหนือ ไม่ใช่ในประเทศทางใต้ แต่ภาพจริงในเวลานี้ชักไม่เป็นยังงั้นแล้ว

               เพราะมินดาเนายังคงเหมือนเดิม มีทั้งกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีกันหลายกลุ่มผูกพันซับซ้อนเหมือนเดิม นักเลงเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลก็มี พวกต่อเชื่อมอุดมการณ์ก่อการร้ายสากลก็ยังอยู่ แล้วข้อตกลงแบบแบ่งดินแดนส่วนหนึ่งให้ปกครองตนเองนั้น มันจะเกิดได้จริงปีหน้าหรือ จะเอากลุ่มค้านไว้ไหน ชาวคริสต์ที่อยู่ที่นั่นจะได้ความคุ้มครองหรือไม่ สารพันปัญหายังรอคำตอบ แล้วฝ่ายความมั่นคงจะอยู่เฉยได้อย่างไร พอออกปฏิบัติการก็เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายตรงข้ามทันที

               เมื่อก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์ ตำรวจปฏิบัติการพิเศษของฟิลิปปินส์ที่ได้ข่าวว่า นายมาร์วาน ผู้ก่อการร้ายชาวมาเลเซียตัวเอ้ ค่าหัวจากเอฟบีไอตั้ง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาหลบอยู่ในหมู่บ้านที่ จ.มากินนาเกา กับพวกแบ่งแยกดินแดน เลยยกกำลังเข้าจับกุมและสังหารได้ แต่ต้องปะทะกับทั้งกองกำลังกลุ่มปลดปล่อยอิสลามโมโรที่ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพและกลุ่มก่อการร้ายนักรบกู้เอกราชบังสาโมโร หรือบีไอเอฟเอฟ ตายไปตั้ง 44 คน ซีรีส์วางระเบิดที่โน่นที่นี่และการลอบซุ่มโจมตีก็เกิดถี่ขึ้นตามมา

               เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะฝ่ายกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนั้น มองว่าฝ่ายทางการเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่อิทธิพลของตนโดยไม่บอกกล่าว นี่ก็ส่อลึกในใจว่า เขตปกครองตนเองบังสาโมโรที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จะให้ชาวบ้านปกครองตนเองนั้น ต้องให้กลุ่มนี้ปกครองเท่านั้นจึงจะสงบได้ งานนี้มาแนวเดียวกับเขตปกครองที่เคยทำสัญญากับกลุ่มปลดปล่อยแห่งชาติโมโรเมื่อครั้งกระโน้น สุดท้ายเมื่อกลุ่มไม่ได้ปกครองพื้นที่ ไม่เบี้ยวก็เหมือนเบี้ยว ต้องรบกันจนวันนี้ ในยุคนี้ที่กลุ่มติดอาวุธต่างก็ยังมีปืน ต่างก็ยังเข้มแข็ง แนวทางหลากหลาย บวกเชื่อมกับการต่อการร้าย แต่บางครั้งก็รับจ๊อบมั้ง มีสายเลือดช่วยเหลือพวกเดียวกันมั้ง ยิ่งซับซ้อน

               คาดว่าปีนี้สถานการณ์บนเกาะมินดาเนาจะแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะใกล้เวลาเขตบังสาโมโรจะเกิดแล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การที่มีหลายกลุ่มอยากต่อเชื่อมกับไอเอสเหลือเกิน บางคนที่แอบไปร่วมที่ซีเรียนั้น คงกลับมาพร้อมกับอุดมการณ์ที่คลั่งขึ้นและขีดความสามารถด้านการต่อสู้ที่เก่งขึ้น ฟิลิปปินส์คงเหนื่อยหน่อย ส่วนไทยก็คงต้องมองเขาแบบเอาใจช่วยครับ