'ซาจิดา อัล ริชาวี'เหตุใดไอเอสต้องการตัว | คมชัดลึก

               กลุ่มไอเอสเรียกร้องญี่ปุ่นเจรจากับจอร์แดน ปล่อยตัวสตรีชาวอิรักนามว่า ซาจิดา อัล ริชาวี เป็นอิสระ เพื่อแลกกับชีวิตของนายเคนจิ โกโตะ ตัวประกันชาวญี่ปุ่น หลังจากสังหารนายฮารุนะ ยูคาวะไปแล้วหนึ่งคน เป็นเงื่อนไขใหม่ จากเดิมที่เรียกร้องเป็นเงินค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์

               สตรีผู้นี้เป็นใครเหตุใด ไอเอสจึงต้องการให้ปล่อยตัว
        
               ซาจิดา อัล ริชาวี คาดว่าอายุ 40 ปีเศษ ถูกทางการจอร์แดนจับกุมเมื่อพฤศจิกายน 2548 จากความพยายามเป็นมือระเบิดพลีชีพโจมตีงานเลี้ยงสมรสคู่บ่าวสาวจอร์แดนกับปาเลสไตน์ ซึ่งมีแขกเหรื่อร่วมงานราว 300 คน ที่โรงแรมราดิสสัน เอสเอเอส ในกรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน พร้อมกับสามีชาวอิรักของเธอ นายอาลี ฮุสเซน อาลี อัล ชามารี         
        
               ขณะเตรียมลงมือ สามีสังเกตเห็นว่าภรรยามีปัญหาในการจุดชนวนระเบิด จึงผลักเธอออกจากห้องจัดงาน ก่อนที่ตัวเองจุดชนวนระเบิดสำเร็จ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 คน
        
               โรงแรมราดิสซัน เอสเอเอส เป็นหนึ่งในโรงแรมสามแห่งในกรุงอัมมาน ที่ถูกโจมตีในวันเดียวกันนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 60 คน จำนวนนี้เป็นมือระเบิด 3 คนรวมสามีของเธอ       
        
               หลังจากนั้นในเดือนเดียวกัน  นางอัล ริชาวี ซึ่งถูกจับกุมตัว 4 วันหลังเกิดเหตุ ปรากฎตัวทางโทรทัศน์จอร์แดน สารภาพด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า เธอกับสามี ยืนอยู่คนละฝั่งของห้องจัดงานเพื่อวางระเบิดสองจุดซ้อน เธอพยายามจุดชนวนเช่นกันแต่ไม่สำเร็จ พอคนเริ่มวิ่งออกมาจากห้อง เธอก็วิ่งไปกับคนเหล่านั้น  พร้อมกับนำเข็มขัดติดวัตถุระเบิดที่ใช้เทปแปะติดกันอย่างหยาบๆมาแสดงด้วย
        
               อัล ริชาวี เล่าว่า เธอเป็นชาวอิรัก อาศัยในเมืองรามาดี และใช้หนังสือเดินทางปลอม เดินทางมายังจอร์แดนพร้อมกับสามี ซึ่งเป็นผู้สอนวิธีใช้เข็มขัดระเบิด เธอสารภาพด้วยว่า สามีเป็นคนจัดการทุกเรื่อง
         
               เธอถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตในปีถัดมา แต่กลับคำรับสารภาพในภายหลัง ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
        
               หลังไอเอสเผยแพร่คลิปขู่สังหารสองตัวประกันชาวญี่ปุ่น นายยาสุฮิเดะ นากายะ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศญี่ปุ่น เดินทางไปยังกรุงอัมมานเพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์อับดุลเลาะฮ์  และรัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดศูนย์ประสานงานเจรจาปล่อยตัวประกันอยู่ที่นั่น     
         
               รองนายกรัฐมนตรีจอร์แดน นายมาร์วัน อัล เมาชอร์ กล่าวในขณะนั้นว่า นางอัล ริชาวี ไม่ได้สวมเข็มขัดระเบิดขณะถูกจับกุม แต่พบเข็มขัดสองเส้นอยู่กับเธอ เส้นหนึ่งติดวัตถุระเบิดอาร์ดีเอ็กซ์ อีกเส้นติดลูกปืน ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่มือระเบิดอื่นๆชอบใช้ จึงเป็นที่ชัดเจนว่า สองสามีภรรยา มุ่งสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และต้องการสร้างความสูญเสียแก่เหยื่อมากที่สุด            
         
               ทางการจอร์แดนระบุว่า สตรีผู้นี้เป็นน้องสาวของนายมูบารัก อัล ริชาวี ที่ถูกกองกำลังสหรัฐสังหารในเมืองฟัลลูจาห์ ประเทศอิรัก และนายมูบารัก อัล ริชาวี คนนี้ ก็คือมือขวาของนายอาบู มูซาบ อัล ซาร์คาวี ผู้ต้องหาหนีคดีชาวจอร์แดนซึ่งมักถูกเอ่ยถึงว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มอัลไกดาในอิรัก  และอ้างว่าอยู่เบื้องหลังโจมตีโรงแรมในกรุงอัมมาน
         
               ข้อมูลจากสภาวิเทศสัมพันธ์ในสหรัฐ ระบุว่า หลังจากซาร์คาวีถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐในปี 2549 นายอาบู ไอย์ยุบ อัล มาสรี ที่เกิดในอียิปต์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ และในเดือนตุลาคม 2549  มาสรีตั้งชื่อกลุ่มใหม่เป็น รัฐอิสลามแห่งอิรัก หรือ ไอเอสไอ ที่ต่อมากลายเป็นเครือข่ายก่อการร้ายที่โลกรู้จักดีในชื่อ กลุ่มไอซิส ไอซิล และรัฐอิสลามในปัจจุบัน