เวียงราตรี...สีสันใหม่จีนผุด'อาบอบนวด'ในลาว | คมชัดลึก

               เมืองไทยกำลังครึกโครมด้วยข่าวฟิตเนสมั่วกาม ฟิตเนสเปลือย มีการแชร์คลิปกันกระจาย ทางฝั่งลาวก็ลือลั่นด้วยข่าวเปิดตัว "อาบอบนวด" แห่งแรกในนครหลวงเวียงจันทน์
    
               สืบเนื่องมาจากสื่อสังคมออนไลน์ในลาว ได้แพร่ภาพสถานบริการอาบอบนวดของชาวจีน ซึ่งตั้งอยู่ที่

               บ้านดอนแดง เมืองจันทะบุลี นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
    
               สถานบริการอาบอบนวด ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของสังคมไทย แต่ที่เมืองลาว กลายเป็นเรื่องเมาท์กันสนั่นเวียงจันทน์ เพราะทราบกันดีว่า ภายใต้การปกครองแบบ "พรรคเดียว" ค่อนข้างเข้มงวดกับการจัดระเบียบสังคม
    
               เมื่อวันที่ 15 มกราคมนี้ "เพจโทละโค่ง" สื่อออนไลน์ที่ชาวลาวกดไลค์มากที่สุด ได้โพสต์ภาพและความเห็นเกี่ยวกับอาบอบนวดแห่งนี้ว่า
    
               "โทละโค่ง เคยนำเสนอปรากฏการณ์ย่อท้อ (ความเสื่อมถอย) ของสังคม ในต้นเดือนมกราคม 2015 ที่มีร้านอาบอบนวด แถวบ้านดอนแดง นครหลวงเวียงจันทน์ กระทำการโฆษณาแบบผิดปกติ มีลักษณะแอบแฝงในแบบขายบริการทางเพศ
    
               "ล่าสุด มีแฟนเพจได้เข้าไปสถานที่ดังกล่าว และถ่ายรูปค่าบริการนวดแตกต่างกันออกไป ราคารูปแบบไฟไหม้ 650,000 กีบ, เจ้าหญิงน้อยสถานการณ์วุ่นวาย 800,000 กีบ และความรักรูปแบบใหม่ 1,360,000 กีบ" (อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท = 250 กีบ)
    
               ใต้กระทู้ดังกล่าว มีคนลาวรายหนึ่งมาอธิบายเรื่องประเภทของหญิงบริการ และราคาว่า "รูปแบบไฟไหม้" หมายถึง ร้อนแรง ชำนาญการ มีประสบการณ์สูง, "เจ้าหญิงน้อยสถานการณ์วุ่นวาย" หมายถึง เพิ่งทำงานได้ 2-3 ครั้ง ยังไม่ชำนาญ และ "ความรักรูปแบบใหม่" หมายถึง ใหม่ๆ ซิงๆ ยังไม่เคย จึงมีราคาสูงถึง 1.3 ล้านกีบ
    
               ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา "เพจโทละโค่ง" ได้นำเสนอเรื่องที่มีคนนำแผ่นปลิวมาเสียบที่หน้ารถเก๋ง ซึ่งมีข้อความว่า
    
               "ศูนย์อาบอบนวด เปิด 2015/01/01 ชมเชยอย่างอบอุ่น, สะหวันในสปาแผ่นดินโลก เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 01 เดือนมกราคม 2015"
    
               "ยินดีต้อนรับมิตรสหาย ทั้งลาว จีน และเพื่อน เพื่อนชาวต่างชาติ จะได้สัมผัสกับรูปแบบที่แปลกใหม่กับบ้านของอารมณ์ความรู้สึกที่อบอุ่น ที่อยู่บ้านดอนแดง เมืองจันทะบุลี นครหลวงเวียงจันทน์ (อยู่ทางด้านหน้าสนามกอล์ฟดอนแดง).."
    
               ผู้ใช้นามว่า "แฟนเพจ" ตั้งข้อสงสัยว่า เป็นอาบอบนวดแบบไหนกันแน่? มีการขายบริการทางเพศหรือไม่? พร้อมกันนั้นได้มีชาวลาว ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ส่วนใหญ่เชื่อว่า มีหญิงสาวขายบริการแบบเดียวกับอาบอบนวดในประเทศเพื่อนบ้าน
    
               ส่วนเพจ "เฮาคือประชาชน" ที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ฝ่ายต้านรัฐบาล สปป.ลาว ได้ฉวยจังหวะตั้งคำถามหน้าเพจทันที
    
               "มีคนข้องใจกับรัฐบาลลาวว่า ทำไมจึงให้นายทุนจีนมาเปิดอาบอบนวด ในนครหลวงเวียงจันทน์ได้ ในภาษาจีนแปลความหมายว่า "สวรรค์บนดิน" แอดมินคิดว่าสังคมกำลังเน่าเปื่อย เพราะของแบบนี้แหละ วัฒนธรรมอันดีงาม ก็จะเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ จากตัวเมืองสู่ชนบท"
    
               ดังที่ทราบกันในเมืองลาว ปกครองในระบอบประชาธิปไตยประชาชน โดยมีพรรคประชาชนปฏิวัติลาว หรือพรรคแห่งลัทธิมาร์กซ์-เลนิน คอยชี้ทิศนำทางให้ก้าวเดินไปสู่สังคมนิยม
    
               เรื่องการค้าประเวณีจะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด และก่อนหน้านั้น รัฐบาลลาวเคยสร้างสถานฝึกอบรม "แม่จ้าง" (หญิงขายบริการ) ที่ลักลอบขายบริการ ไว้ที่ดอนท้าว-ดอนนาง
    
               แต่ห้วงเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมานี้ นับแต่มีชาวจีน ชาวเวียดนาม เข้ามาทำธุรกิจและตั้งรกรากในเวียงจันทน์เพิ่มมากขึ้น สังคมลาวอันอุดมไปด้วยวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่งดงาม ก็มีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นในเวียงราตรี เพราะมีการขายบริการทางเพศในโรงแรมของชาวจีนอย่างโจ๋งครึ่ม
    
               "ปรากฏการณ์ย่อท้อ" หรือสังคมเสื่อมทรามเสื่อมถอย ซึ่งรัฐบาลลาว และพรรคผู้ชี้นำก็ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว แต่ไม่กล้าใช้ "ไม้แข็ง" จัดการกับกลุ่มทุนจีนหรือเวียดนาม ที่ทำธุรกิจบันเทิงสีเทาๆ
    
               สหพันธ์แม่หญิงลาวที่เคยออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของสาวลาวอย่างแข็งขัน กลับเงียบกริบ รวมถึงกองกำลังป้องกันความสงบ (ตำรวจลาว) ก็ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง
    
               ดังนั้น เพจโทละโค่ง จึงเสนอความเห็นว่า "เรื่องนี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะมันกำลังเป็นภัยคุกคามสังคม โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจถูกหลอกให้ไปขายบริการทางเพศ และเรื่องนี้เป็นต้นตอปัญหาของการแตกแยกในครอบครัว การเพิ่มขึ้นเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ"
    
               ตอนท้ายแอดมินเพจดังฝั่งลาวชี้ว่า "ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบด้วย เชื่อว่าไม่มีแต่ร้านเดียว แต่รู้สึกว่าในนครหลวง และทั่วประเทศ มันมีอยู่หลายแห่ง"