ข่าว

‘ชาร์ลี เอบโด’ปมหลังอารมณ์ขันและอื้อฉาว

‘ชาร์ลี เอบโด’ปมหลังอารมณ์ขันและอื้อฉาว

09 ม.ค. 2558

‘ชาร์ลี เอบโด’ปมหลังอารมณ์ขันและอื้อฉาว

              ผ่านปีใหม่ไม่ถึง 10 วัน โลกต้องเผชิญเหตุการณ์ช็อกโลก เมื่อมือปืน  2คนพร้อมอาวุธสงครามบุกยิงถล่มสำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวเสียดสีรายสัปดาห์ "ชาร์ลี เอบโด" กลางมหานครปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส เมื่อวันพุธที่ 7 มกราคม  สังหารนักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองแถวหน้าของประเทศไปถึง 4 คนจากผู้เสียชีวิตทั้งหมด 12 คน รวมถึงบรรณาธิการ สเตฟาน ชาบงนีเยร์  
    
               ชื่อของสื่อจอมเสียดสีของฝรั่งเศสรายนี้ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากการพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม และเป็นชนวนเหตุประท้วงวุ่นวายอยู่หลายครั้ง แต่สำหรับในฝรั่งเศส ภาพการ์ตูนล้อเหล่านี้และการยืนหยัดไม่ยอมจำนนต่อคำขู่ของชาร์ลี เอบโดคือสัญลักษณ์ของเสรีภาพสื่อ เสรีภาพในการแสดงความเห็น และประชาธิปไตย ทำให้หลังเกิดเหตุ บรรดาสื่อตะวันตกและผู้นำตะวันตก
พากันประณามไปในทางเดียวกันว่า นี่คือสงครามเสรีภาพสื่อหรือเสรีภาพในการแสดงความเห็น
    
               แต่ก็มีเสียงแย้งจากอีกซีกโลกว่า เป็นการปะทะทางวัฒนธรรม หรือสงครามวัฒนธรรม น่าจะเข้ากับเหตุนองเลือดครั้งนี้มากกว่าหากสันนิษฐานว่ามูลเหตุจูงใจมาจากการ์ตูนอื้อฉาว
    
               ชาร์ลี เอบโด ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2513 (ขาดช่วงระหว่างปี 2524-2535) โด่งดังจากภาพการ์ตูนและการ์ตูนล้อเลียนบุคคลเชิงยั่วยุ ด้วยคติที่ว่า ล้อเลียนทุกคนได้อย่างเสมอภาค โดยปราศจากความกลัวและไม่เลือกที่รักมักที่ชัง และถือเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมประเพณียาวนานของการเสียดสีทางการเมืองในประเทศต้นกำเนิดปฏิวัติเพื่อเสรีภาพแห่งนี้            
    
               เป็นที่รู้จักกันว่ามักพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อศาสนาและกล่มสุดโต่งทางศาสนาทั้งหลาย ความไม่เหมือนใครของชาร์ลี เอบโด ก็คือ การไม่ละเว้นศาสนาอิสลาม ลัทธิสุดโต่งและศาสดามูฮัมหมัด        
    
               ทีนู นักเขียนการ์ตูนที่เสียชีวิตจากเหตุสังหารหมู่อีกคน เคยกล่าวว่า "การ์ตูนที่ดีที่สุด ไม่เพียงทำให้คนอ่านหัวเราะและคิด แต่ยังจุดความรู้สึกละอายที่ยังสามารถหัวเราะได้ในสถานการณ์เคร่งเครียด" และนี่ก็คือเป้าหมายของชาร์ลี เอบโด
    
               ชื่อของหนังสือพิมพ์แปลง่ายๆ ก็คือ ชาร์ลี รายสัปดาห์ ...ที่มาของชื่อนี้ บ้างว่าผู้จัดพิมพ์เดิมถูกบีบให้วางมือจากธุรกิจ ฐานไปเสียดสีการเสียชีวิตของประธานาธิบดีชาร์ล เดอ โกล จึงนำบางส่วนของชื่อมาใช้ บ้างก็ว่ามาจากชื่อของการ์ตูน ชาร์ลี บราวน์
    
               ชาร์ลี เอบโด ไม่ใช่หนังสือพิมพ์ยอดนิยมมากนัก ยอดจำหน่ายรายสัปดาห์ตกประมาณ 5 หมื่นฉบับ (เทียบกับหนังสือพิมพ์เสียดสีคู่แข่งอีกรายอย่าง Le Canard Encha?n? ที่มียอดพิมพ์ราว 5 แสน) จึงต้องดิ้นรนทางการเงินเป็นระยะ
    
               เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้ขอรับการบริจาคเพื่อให้หนังสือพิมพ์อยู่ได้
    
               ชาร์ลี เอบโด เสียดสีอะไรบ้าง    
    
               ทุกคนและทุกเรื่อง นักการเมืองชื่อดัง คนดัง ศาสนาและวัฒนธรรมป๊อป แต่การเสียดสีพวกสุดโต่งที่อ้างศาสนา กลายเป็นตราประทับของหนังสือพิมพ์  
    
               ครั้งแรกที่ชาร์ลี เอบโด เริ่มจุดกระแสโกรธแค้นออกไปนอกประเทศคือปี 2549 เมื่อนำรูปการ์ตูนของศาสดามูฮัมหมัดจากหนังสือพิมพ์ ยิลลันดส์ โพสเทน ของเดนมาร์ก มาพิมพ์ซ้ำ การ์ตูนศาสดาอิสลามของเดนมาร์ก เป็นชนวนจลาจลและประท้วงรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 250 คนทั่วโลก(ทำให้หลังเกิดเรื่องในปารีส หนังสือพิมพ์เดนมาร์กต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย)  
    
               ในตอนนั้น ผู้นำศาสนาสายแข็งเรียกร้องให้คนมุสลิมออกมาประท้วงจนถึงก่อความรุนแรงทั่วโลก ขณะที่ประธานาธิบดีฌาค ชีรัค ผู้นำฝรั่งเศสตำหนิว่า เป็นการยั่วยุที่เกินเลย แต่ฟิลิป วาล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาชาร์ลี เอบโดขณะนั้น โต้ว่า รู้สึกช็อกที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวหาเช่นนี้  "นี่ไม่ใช่การยั่วยุ การยั่วยุเริ่มมาก่อนนานแล้ว เปลวไฟปะทุเมื่อ 11 กันยายนในนิวยอร์กและการโจมตีในกรุงลอนดอนและมาดริด เมื่อตอนที่มีการโจมตีมาดริด ลอนดอน เราเคยเห็นการประท้วงบนถนนอาหรับต่อต้านมือลอบสังหารก่ออาชญากรรมน่าสะพรึงกลัวในนามของศาสดามูฮัมหมัดหรือไม่ ฉะนั้น เราไม่อาจยอมให้กลุ่มศาสนามากะเกณฑ์กฎแห่งเสรีภาพในการแสดงความเห็นได้"
    
               หนังสือพิมพ์ยังล้อเลียนสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุขคริสตจักรคาทอลิกด้วย อย่างภาพโป๊ปเบเนดิกท์ที่ 16 ถือถุงยางอนามัย ก็เคยมีมาแล้ว หรือล้อผู้นำพรรคขวาจัดในฝรั่งเศส และเมื่อไม่นานมานี้ก็ล้อ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โอลลองด์ แต่ความเป็นที่รู้จักของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้มาจากการมุ่งล้อศาสนาอิสลาม
        
               ชาวมุสลิมถือว่า การวาดรูปศาสนามูฮัมหมัด เป็นการดูหมิ่นศาสนาอย่างร้ายแรง แต่ชาร์ลี เอบโด ท้าทายศรัทธานี้ด้วยการทำให้ศาสดาศาสนาอิสลามเป็นภาพการ์ตูนล้ออยู่บ่อยครั้ง ไม่เว้นกระทั่งภาพเปลือย กับอีกปกที่จุดประเด็นกว่าครั้งใดๆ คือภาพศาสดานั่งวีลแชร์ที่เข็นโดยชาวยิวออร์โธดอกซ์ ในปี 2554
    
               ตอนนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสขอให้บรรณาธิการอย่าตีพิมพ์ เมื่ออีกฝ่ายเดินหน้า รัฐบาลต้องสั่งปิดทำการสถานทูต ศูนย์วัฒนธรรม และโรงเรียนใน 20 ประเทศมุสลิม เพราะหวั่นว่าจะมีการแก้แค้น นอกจากนี้ ยังส่งตำรวจปราบจลาจลไปอารักขาหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์   
    
               นายโลรองต์ ฟาบีอุส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสขณะนั้น วิจารณ์การกระทำของชาร์ลี เอบโด อย่างเปิดเผย ด้วยการตั้งคำถามว่า "ใช้เหตุผลและคิดดีแล้วหรือที่จะราดน้ำมันบนกองเพลิง?” แต่ชาร์ลี เอบโดและเหล่าศิลปินเขียนการ์ตูน ถือว่า การเสียดสีของพวกเขา คือการท้าทายข้อห้าม และเสรีภาพในการแสดงความเห็นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
    
               G?rard Biard บรรณาธิการ ปัดเสียงวิจารณ์ตอนนั้น "เราเป็นหนังสือพิมพ์ที่เคารพกฎหมายฝรั่งเศส หากมีกฎหมายที่ไม่แตกต่างไปจากในคาบุลหรือริยาดห์ เราก็จะไม่หาเรื่องใส่ตัว"
    
               โลรองต์ เลเกอร์ ทีมงานชาร์ลี เอบโด ที่เคยรอดตายจากการถูกทำร้ายพูดเมื่อปี 2555 ว่า เป้าหมายพวกเราคือ การหัวเราะ เราต้องการหัวเราะพวกสุดโต่ง ...พวกสุดโต่งทุกคนที่อาจเป็นมุสลิม ชาวยิว หรือคาทอลิก ใครนับถือศาสนาใดย่อมได้ แต่วิธีคิดและการกระทำของพวกสุดโต่ง ไม่อาจยอมรับได้
      
               ชาร์ลี เอบโด เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีการเสียดสีอย่างเอาจริงเอาจัง

               ในฝรั่งเศส ที่ส่วนมากมีความเป็นการ์ตูนน้อยกว่าและหนักกว่าการเสียดสีการเมืองในสหรัฐ มีตัวอย่างที่สะท้อนถึงพลังของการเสียดสีทางการเมือง Le Canard Encha?n? หนังสือพิมพ์เสียดสีรายสัปดาห์อีกรายที่ไม่เพียงแต่ล้อรัฐบาล แต่ยังเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวมากมายจนทำให้รัฐมนตรีหลายคนต้องลาออก
    
               อื้อฉาวที่สุดคือแตะศาสนา  
    
               การเสียดสีศาสนาของ ชาร์ลี เอบโด เป็นเรื่องปกติ ในประเทศโลกวิสัยไม่มีศาสนาเข้ามายุ่งเกี่ยวในพื้นที่สาธารณะ แต่ในยามนี้ฝรั่งเศสอยู่ท่ามกลางการถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทศาสนาอิสลาม การเหยียดเชื้อชาติและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
    
               ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในยุโรป ราว 10% ของประชากรทั้งหมด จำนวนมากเป็นรุ่นลูกหลานของผู้อพยพมาจากอดีตอาณานิคมฝรั่งเศสในแอฟริกาเหนือ แต่ฝรั่งเศสประสบปัญหาที่ในแง่ที่ว่า ประชากรมุสลิมไม่ปรับตัวเข้ากับสังคม หรืออีกด้าน คือคนที่ไม่ใช่มุสลิม

               มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับประชากรส่วนน้อย ผู้อพยพชาวมุสลิมรุ่นสองและสามจึงยังเผชิญการถูกเลือกปฏิบัติในโรงเรียน ที่อยู่อาศัย และอื่นๆ
    
               ในปี 2548 รัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งห้ามคลุมศีรษะและแสดงสัญลักษณ์อื่นๆ ทางศาสนาในโรงเรียนของรัฐ
    
               และในปีที่แล้ว ฝรั่งเศสถือว่าการคลุมหน้าในที่สาธารณะเป็นเรื่องผิดกฎหมายด้วย คำสั่งห้ามในทางทฤษฎีครอบคลุมทุกคน แต่ในทางปฏิบัติมุ่งเป้าสตรีมุสลิมที่สวมบุร์กาและนิกอบ เท่ากับว่าการแสดงตนเป็นมุสลิมเคร่งนั้น ถือว่าไม่เป็นที่ต้อนรับ  
    
               ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า บริบทแวดล้อมและการเสียดสีของชาร์ลี เอบโด เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติอัตลักษณ์ที่ซับซ้อนและตึงเครียดในฝรั่งเศส
        
               การเข้าใจวัฒนธรรมเสียดสีที่หยั่งรากลึกเป็นเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกับต้องเข้าใจผลพัวพันที่ตามมา ด้วยเหตุว่าฝรั่งเศสอาจถูกมองว่าไม่อดกลั้นต่อมุสลิม
    
               แต่บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ก็พูดชัดเจนว่า เราเป็นหนังสือพิมพ์ต่อต้านศาสนาทันทีที่ศาสนาเข้ามาในอาณาเขตสาธารณะและการเมือง
    
               ใครบ้างที่ชิงชังเอบโด  
    
               ชาวมุสลิมจำนวนมาก ไม่เพียงแค่พวกสุดโต่ง เพราะมองว่าสื่อรายนี้

               ดูหมิ่นศาสนา เฉพาะวาดศาสดามูฮัมหมัดออกมาเป็นภาพก็ดูหมิ่น

               ที่สุดแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงวิธีการเสียดสีที่บางครั้งออกจะหยาบโลน จึงตกเป็นเป้าโจมตีหลายครั้ง อย่างไรก็ดี แม้ชาวมุสลิมมองว่าชาร์ลี เอบโด

               ดูหมิ่นศาสนา แต่คนส่วนใหญ่ปฏิเสธความรุนแรง ไม่เช่นนั้น คงไม่เพิ่งเกิดเรื่องในสัปดาห์นี้
     
               มูลเหตุจูงใจที่แท้จริงของคนร้ายยังต้องรอการสอบสวน ว่าจะเป็นเพราะการ์ตูนล้อที่รุกล้ำศรัทธา หรือเพราะสภาพจิตใจไม่ปกติและอุดมการณ์ส่วนตัวของฆาตกร แต่ถึงจะเป็นฝีมือสุดโต่งรายใด ก็ต้องย้ำว่า คนเหล่านี้ซึ่งเป็นส่วนน้อย ไม่เป็นที่ต้อนรับของชาวมุสลิมส่วนใหญ่ กลุ่มคนที่สุดท้ายแล้ว อาจจะกลายเป็นเหยื่อที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้


บก.ชาร์ลี เอบโด ขอตายดีกว่าอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี

               สเตฟาน ชาร์โบนีเยร์ หรือ ชาร์บ อายุ 47 ปี ร่วมงานกับชาร์ลี เอบโด มาตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1990 เริ่มต้นจากตำแหน่งงานออกแบบ และเข้ารับตำแหน่งบรรณาธิการในปี 2552 เป็นคนพาชาร์ลี เอบโด ทะลายข้อห้ามศาสนาและล้อศาสดามูฮัมหมัด
     
               ชาร์โบนีเยร์ ถือว่าการวิจารณ์ศาสนาอิสลามควรถือเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับการวิจารณ์ยิว หรือคาทอลิก
     
               ต้องอยู่ในการอารักขาของตำรวจตั้งแต่พฤศจิกายน 2554 หลังจากตีพิมพ์ฉบับพิเศษที่เปลี่ยนหัวใหม่ชั่วคราวว่า "ชาเรีย เอบโด" ทำทีว่ามีบรรณาธิการรับเชิญชื่อ มูฮัมหมัด พร้อมรูปบนหน้าปกที่ขู่คนอ่านว่า จะเฆี่ยน 100 ครั้ง หากว่าผู้อ่านไม่ขำจนตาย
     
               ฉบับพิเศษนี้ ทำให้สำนักงานในกรุงปารีสถูกมือดีปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ แต่ถึงจะโดนระเบิดเพลิง ทำให้สำนักงานถูกทำลายบางส่วน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ถูกแฮ็ก พนักงานรวมถึง บก.ถูกขู่ฆ่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชาร์โบนีเยร์หวั่นไหว 6 วันหลังจากนั้น หนังสือพิมพ์ก็ขึ้นปกเป็นตัวการ์ตูนชายชื่อ ชาร์ลี เอบโด จุมพิตดูดดื่มกับชายมุสลิมมีเครา ฉากหลังเป็นซากถูกจุดไฟเผา พร้อมพาดหัวว่า รักกันดีกว่าเกลียดชัง             
     
               ในปี 2555 หลังพิมพ์ภาพล้อศาสดาศาสนาอิสลามที่จุดประเด็นอื้อฉาวอีกครั้ง ชาร์โบนีเยร์ให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสารหนึ่งว่า "ผมไม่กลัวการล้างแค้น ผมไม่มีลูก ไม่มีเมีย ไม่มีรถยนต์และไม่มีเงิน อาจจะฟังโอ้อวดเล็กน้อย แต่ผมขอตายดีกว่าอยู่แบบไร้ศักดิ์ศรี"
 

‘ชาร์ลี เอบโด’ปมหลังอารมณ์ขันและอื้อฉาว