
มหัศจรรย์ 'มอหินขาว' ชัยภูมิ แหล่งท่องเที่ยวชม 7 ดาว 9 ตะวัน
05 ม.ค. 2558
มหัศจรรย์ 'มอหินขาว' ชัยภูมิ แหล่งท่องเที่ยวชม 7 ดาว 9 ตะวัน : โดย...พรพรรณ สีกะพา
ชัยภูมิเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวเหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติเพราะภูมิประเทศส่วนใหญ่ประกอบด้วยป่าไม้และภูเขา มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยงทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อีกทั้งมีความหลากหลายทางประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะที่ “มอหินขาว” ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งจะมีกลุ่มหินทรายขาวที่เกิดจากการสะสมของตะกอนทรายและดินเหนียวแข็งตัวกลายเป็นหิน ซึ่งหินยักษ์ที่ตั้งอยู่นี้มีความสูงประมาณ 12 เมตร ส่วนต้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่า 22 คนโอบ หากนักท่องเที่ยวมาชมยามเช้ามืดจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วยบรรยากาศที่สวยงาม
ประกอบกับหากเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวจะเหมาะแก่การขึ้นไปท่องเที่ยวมาก แต่ไม่เพียงแค่หินยักษ์ 5 ก้อนที่มอหินขาวเท่านั้น ถัดขึ้นไปบนภูอีกไม่เกิน 1 กิโลเมตร ผ่านจุดกางเต็นท์ของนักท่องเที่ยวขึ้นไปจะเป็นหินกลุ่มที่ 2 เรียกว่า หินเจดีย์และหินโขลงช้าง ต่อด้วยหินกลุ่มที่ 3 เรียกว่าหินต้นไทร ซึ่งจะเป็นหินที่มีลักษณะตามชื่อเรียกของหินที่กล่าวมา นอกจากนี้หากขับรถผ่านหินทั้ง 3 กลุ่มนี้ขึ้นไปอีก 500 เมตรจะเป็นจุดชมวิวชื่อว่าผาหัวนาค สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 905 เมตร เหมาะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ยามเย็น เพราะสามารถมองเห็นวิวด้านล่างซึ่งเป็นเมืองชัยภูมิอย่างชัดเจน
ในทุกปีช่วงที่มีอากาศหนาว จ.ชัยภูมิจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว มหัศจรรย์มอหินขาว รับลมหนาวที่ชัยภูมิ เพื่อเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสกับอากาศหนาวยามเช้า ชมพระอาทิตย์ตกดินและนอนดูดาว โดยในห้วงหน้าหนาวจะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกคนคู่เกิดขึ้น หากมองจากมอหินขาวจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ บอกว่า ชัยภูมิเป็นเหมือนจังหวัดอื่นๆ ที่หลายคนพูดว่าสามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ จ.ชัยภูมิ เที่ยวได้ทั้งปีไม่เหมือนจังหวัดอื่น ซึ่งจังหวัดอื่นๆ เที่ยวจุดเดียวแล้วบอกว่าเที่ยวได้ทั้งปี แต่ที่ชัยภูมิ มีสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสมกับแต่ละฤดูกาลตลอดทั้งปี หากเป็นช่วงฤดูฝนจะมีแหล่งท่องเที่ยวคืออุทยานป่าหินงามหรือทุ่งดอกกระเจียวที่ออกดอกสวยงามอยู่ใน อ.เทพสถิต และถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนก็มีน้ำตกตาดโตนซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้โดยที่ไม่มีอันตราย ซึ่งยืนยันว่าน้ำตกตาดโตนหากนักท่องเที่ยวไปเป็นครอบครัวจะรู้สึกถึงความอบอุ่นและสายน้ำที่เป็นมิตร เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลไม่แรงและมีน้ำตลอดทั้งปี ส่วนลุ่มน้ำลำปะทาวนักท่องเที่ยวก็สามารถไปล่องแพกันได้ ไปรับประทานอาหารที่อ่างเก็บน้ำลำปะทาวได้
สำหรับฤดูหนาวนั้น ที่มอหินขาว บริเวณแท่งหินยักษ์ 5 แท่งที่อยู่ที่นี่ซึ่งไม่มีที่ไหนอีกแล้วในประเทศไทย โดยจุดมอหินขาวนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วประเทศควรจะมาให้ได้ ยิ่งหากเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม เป็นช่วงที่ฟ้าโปร่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของ จ.ชัยภูมิเกือบทั้งเมืองแม้มองในมุม 360 องศา
โดยมอหินขาวถูกยกให้เป็นจุดที่ดูดาวได้ชัดและดีที่สุดในประเทศไทย จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้เป็นช่วงที่ฟ้าโปร่ง อากาศเย็นสบาย ซึ่งสถานที่นี้ไม่ไกลจากเมืองชัยภูมิมากนัก ห่างเพียง 48 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ซึ่งถนนหนทางที่จะขึ้นมามอหินขาวก็เป็นถนนลาดยางสะดวกต่อการขับขี่และยังมีที่พักที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนั้นมอหินขาวและผาหัวนาคเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในความดูแลของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เรื่องนี้ "เติมศักดิ์ น้อยนารายณ์" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บอกว่า สำหรับสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในทุกปี จะเป็นกลุ่มหิน 5 แท่ง ที่มอหินขาว ถัดมาก็จะเป็นกลุ่มหินโขลงช้าง หลังจากนั้นจะนิยมขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหัวนาค ยิ่งหากเป็นช่วงปีใหม่นี้อากาศที่นี่กำลังเย็นสบายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมารับลมหนาวในแถบภาคอีสานที่ถือว่าระยะทางไม่ได้ไกลมาก ซึ่งปีที่ผ่านมาจากการสอบถามนักท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคามาก และหลายคนที่มาครั้งแรกรู้สึกประทับใจ ทั้งสภาพแวดล้อมและการบริการทั้งที่พักและการบริการด้านสาธารณูปโภคที่มีการดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างดี
สำหรับมอหินขาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตั้งอยู่ที่บ้านวังคำแคน หมู่ 9 ต.ท่าหินโงม อ.เมือง เป็นกลุ่มหินทรายสีขาวขนาดใหญ่กลางทุ่งหญ้าบนเนินเขา มองเห็นได้เด่นชัดในระยะไกล ลักษณะคล้ายสโตนเฮนจ์ ของประเทศอังกฤษ มีอายุระหว่าง 175-197 ล้านปี เกิดจากการสะสมตะกอนทรายแป้งและดินเหนียวจากทางน้ำต่อมาสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง การตกตะกอนเปลี่ยนเป็นทราย ในสภาวะอากาศแบบแห้งแล้งกึ่งร้อนชื้นทับถมลงบนตะกอนทรายแป้งและดินเหนียวที่เกิดก่อนจึงแข็งตัวกลายเป็นหิน หลังจาก 65 ล้านปีที่ผ่านมา เกิดการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกจากแรงบีบด้านข้างทำให้มีการคดโค้ง แตกหัก ผุพังและการกัดเซาะทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ก่อให้เกิดลักษณะของเสาหินและแท่งหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะแตกต่างกันออกไปตามจินตนาการของผู้พบเห็น บริเวณรอบๆ ยังมีกลุ่มหินอีกหลายแห่งซึ่งสามารถเดินศึกษาธรรมชาติได้ ทั้งยังเป็นพื้นที่ศึกษาสังคมของพันธุ์พืชต่างๆ สัตว์ป่าขนาดเล็ก แมลง และเป็นแหล่งป่าต้นน้ำลำธารภูแลนคา ซึ่งชาวบ้านทำฝายกั้นน้ำกักเก็บไว้ใช้
ส่วนการเดินทางไปชมแหล่งท่องเที่ยวผามอหินขาวจาก ตัว จ.ชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ-ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน-ท่าหินโงม เป็นทางลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ-โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึงบ้านวังคำแคน จากนั้นเลี้ยวขวาตรงบ้านวังคำแคน เป็นทางลูกรังใช้สำหรับขนพืชไร่อีกประมาณ 3.5 กิโลเมตรถึงกลุ่มหินชุดแรกของมอหินขาว รวมระยะทางประมาณ 40กิโลเมตรจากตัวเมือง
หากเป็นช่วงฤดูฝนควรใช้รถยนต์ประเภทรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อความเหมาะสมกับเส้นทาง ถัดจากกลุ่มหินชุดแรกไปเล็กน้อยจะถึงบริเวณลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำบริการ จากจุดนี้มีเส้นทางเดินไปยังกลุ่มหินและจุดชมวิว ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ระยะทางเดินเท้า 650 เมตร ลานหินต้นไทร 900 เมตร สวนหินล้านปี 1,250 เมตร และจุดชมวิวผาหัวนาค 2,500 เมตร
-------------------------
(มหัศจรรย์ 'มอหินขาว' ชัยภูมิ แหล่งท่องเที่ยวชม 7 ดาว 9 ตะวัน : โดย...พรพรรณ สีกะพา)